ตลาดลักชัวรีกำลังมุ่งหน้าสู่ธุรกิจโรงแรม ความงาม และสุขภาพมากขึ้น
ดูเหมือนว่าเหล่าบริษัทลักชัวรีจะต้องเดินหน้าปรับตัวรับความท้าทายใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อทาง KPMG เผยผลวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้กลุ่มลูกค้ามีความสนใจต่อการลงทุนกับประสบการณ์แบบไฮเอนด์โดยเฉพาะการท่องเที่ยวกันมากกว่าใช้เงินก้อนใหญ่กับตัวโปรดักต์
KPMG อธิบายในบทวิจัยว่า “ที่พักลักชัวรีและร้านอาหารหรือคาเฟ่ระดับหรู ต่างพากันจับมือเป็นพาร์ตเนอร์ชิปกับเชฟระดับท็อปและการท่องเที่ยวที่ได้รับประสบการณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ อย่างการล่องเรือ หรือรถไฟลักชัวรี และในโมเมนต์อันน่าจดจำนี้ เหล่าบริษัทต่างๆ ก็ขยายอาณาจักรแบรนด์ของตัวเองไปด้วย พร้อมกับทำให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมการบริการขึ้นสู่จุดสูงสุดของตลาดลักชัวรี”
ทาง KPMG ชี้ให้เห็นตัวอย่างอย่าง Belmond, Cheval Blanc, การเปิดโรงแรมหลายแห่งของ Bulgari และการที่ LVMH มีหุ้นในบริษัทโรงแรม Les Domaines de Fontenille โดยนี่เป็นการเผยแพร่ผลวิจัยฉบับที่ 2 เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวของ KPMG จากการศึกษาข้อมูล และการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดลักชัวรีในฝรั่งเศสและต่างประเทศ รวมไปถึงการเซอร์เวย์คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ 180 ราย พวกเขาเผยอีกว่าขณะนี้บริษัทลักชัวรีต่างก็เริ่มเข้าสู่ตลาดเครื่องสำอางลักชัวรีด้วยเช่นกัน โดยมีการพัฒนากลยุทธ์และสินค้าเพื่อเป้าหมายในการเพิ่มฐานลูกค้า ซึ่งมีการคาดว่ามูลค่าตลาดเครื่องสำอางระดับหรูจะสูงขึ้นจาก 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2027
ธุรกิจด้าน Wellness ที่ KPMG นิยามว่าเป็น “จุดพบกันระหว่างความงามและประสบการณ์” ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย KPMG เผยว่า “โดยเฉพาะสปาที่กลายเป็นสิ่งสำคัญที่โรงแรมลักชัวรีต้องมีรองรับผู้เข้าพัก ตอนนี้ความคาดหวังของลูกค้าโฟกัสไปที่การได้รับการฟื้นฟูเยียวยาแบบส่วนตัวและยาวนาน อีกทั้งยังมีความเฉพาะเจาะจง อย่างทรีทเมนต์สำหรับคนนอนไม่หลับ หรือแม้แต่การป้องกันโรคและการดูแลเพื่อให้มีอายุยืนยาว”
ภาพ: Cheval Blanc Paris
อ้างอิง