‘รัสเซีย’ อ้างยึด ‘ภูมิภาคลูฮันสก์’ ของยูเครนได้ทั้งหมดแล้ว
ผู้ว่าการที่รัสเซียแต่งตั้งให้ยึดครองแคว้นลูฮันสก์ทางตะวันออกของยูเครน อ้างว่า สามารถยึดครองภูมิภาคนี้ได้ทั้งหมดแล้วเมื่อวันอังคาร (2 ก.ค.) ลูฮันสก์จึงกลายเป็นภูมิภาคแรกจาก 4 ภูมิภาคตะวันออกของยูเครนที่ถูกผนวกดินแดนโดยสมบูรณ์
ลีโอนิด ปาเซชนิค ผู้ว่าการคนดังกล่าวเผยกับสื่อรัสเซียแชนแนลวัน ว่า “เพียงแค่สองสามวัน ผมก็ได้รับรายงานว่าดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ได้รับการปลดปล่อย 100%”
แต่ผู้สื่อข่าวกองทัพรัสเซียเผยว่า หมู่บ้านสองแห่งในภูมิภาคยังคงเป็นอิสระ และเสริมว่า ภูมิภาคนี้เคยประกาศว่าถูกยึดครองแล้วครั้งหนึ่งในปี 2022 ก่อนที่ยูเครนจะยึดคืนพื้นที่บางส่วนได้ในเดือนกันยายนในปีเดียวกัน
ตลอด 33 เดือนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียได้คืบคลานเข้าสู่การยึดครองดินแดนทั้งหมดอีกครั้ง และความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญครั้งที่ 2 ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาบริเวณแนวรบฝั่งตะวันออกของยูเครน
ในวันเดียวกันกับที่ปาเซชนิคประกาศ สหรัฐก็เผยว่าจะไม่ส่งอาวุธที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้คำมั่นกับรัฐบาลเคียฟไว้
ทำเนียบขาวระบุว่า “การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อให้ความสำคัญแก่ผลประโยชน์ของอเมริกาเป็นอันดับแรก หลังจากพิจารณาทบทวนการสนับสนุนทางทหารและความช่วยเหลือของสหรัฐต่อประเทศอื่นๆ ทั่วโลก”
ก่อนหน้านี้ ในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย. กองทัพรัสเซียสามารถประชิดถึงชายแดนของภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสก์ได้ ถือเป็นครั้งแรกของสงครามที่รัสเซียสามารถยึดครองพื้นที่ตลอดแนวภูมิภาคโดเนตสค์ได้ แม้ว่าพื้นที่ราวหนึ่งในสามจะยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของเคียฟก็ตาม
แต่เหตุการณ์สำคัญเหล่านี้อาจไม่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ เนื่องจากไม่ได้เป็นเครื่องหมายแห่งความก้าวหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงความรวดเร็วในการรุกคืบของกองทัพรัสเซีย แต่ก็แสดงให้เห็นว่ากองทัพยูเครนไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้เช่นกัน
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียอ้างว่า กองทัพของตนได้ยึดหมู่บ้าน Zaporizhzhia, Perebudova, Shevchenko และ Yalta ในโดเนตสก์เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ยึด Chervona Zirka ได้ในวันที่ 28 มิ.ย. และต่อมาก็ยึด Novoukrainka ในวันอาทิตย์ (29 มิ.ย.)
นอกจากนี้ การเข้าครอบครองดินแดนเล็กๆ น้อยๆ แต่ต่อเนื่องเช่นนี้ ยังแสดงให้เห็นว่ารัสเซียไม่หยุดยั้งที่จะรุกคืบในยูเครน
อ้างอิง: Al Jazeera