10 อีโมจิใช้แล้วไม่บ้งในที่ทำงาน สื่อสารชัดเจน ดูเป็นมืออาชีพ
อีโมจิ (emoji) ไม่ได้เป็นแค่สีสันเล็กๆ ในการส่งข้อความให้กันอีกต่อไป แต่ในโลกการทำงานยุคนี้ มันกลายเป็น "เครื่องมือสื่อสารสำคัญในที่ทำงาน" ทั้งในแชทกลุ่มคุยงานของทีม ประชุมออนไลน์ ไปจนถึงข้อความจากผู้นำองค์กรยุคใหม่ ก็พบว่ามีการใช้อีโมจิในที่ทำงานมากขึ้น
พูดได้ว่าจากที่เราเคยใช้อีโมจิเฉพาะเวลาแชทเล่นกับเพื่อน แต่ปัจจุบันมันถูกยกระดับมาเป็น “ภาษาที่สองของการทำงาน” โดยเฉพาะในยุค Hybrid Work และ Remote Work ที่เราไม่สามารถสังเกตสีหน้าท่าทางจริงๆ ของเพื่อนร่วมงาน หรือไม่สามารถเห็นบรรยากาศจากการเจอหน้าจริงๆ ได้บ่อยมากนัก อีโมจิจึงเข้ามาเติมเต็ม “อารมณ์ที่ขาดหาย” ของข้อความที่เป็นตัวหนังสือ
ทำไม 'อีโมจิ' ถึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นในที่ทำงาน?
เหตุผลสำคัญคือ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เปลี่ยน การสื่อสารเรื่องงานก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยขยับจากการส่งอีเมลไปสู่แพลตฟอร์มแชท เช่น Slack, Teams หรือ Zoom Chat ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำหรับคุยงานของการทำงานยุคใหม่
งานวิจัย Microsoft Work Trend Index 2025 พบว่า พนักงานสาย Knowledge Worker ได้รับข้อความใน Teams เฉลี่ยวันละ 153 ข้อความ มากกว่าอีเมลที่เคยได้รับเพียง 117 ฉบับต่อวัน ที่สำคัญคือ.. ในโลกที่ข้อความใหม่เด้งทุก 2 นาที emoji จึงเป็นทางลัดที่เร็วและชัดที่สุดในการสื่อสารว่า “โอเค”, “ขอบคุณ” หรือ “เห็นด้วย”
ยกตัวอย่างแพลตฟอร์ม Slack มีการออกแบบระบบให้อีโมจิเป็นส่วนหนึ่งของ Workflow เช่น 👏 (เยี่ยมมาก), ✅ (เสร็จแล้ว), 🔥 (สุดยอด), 👀 (กำลังดูอยู่) ซึ่งช่วยให้การทำงานดูมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น แม้จะไม่ได้เห็นสีหน้าหรือได้ยินเสียงของคู่สนทนา
ไม่เพียงเท่านั้น มีรายงานวิจัยจาก University of Michigan ที่น่าสนใจว่า คนทำงานทางไกลที่ใช้อีโมจิบ่อยๆ มีแนวโน้มจะ ไม่ Burnout และไม่หลุดการมีส่วนร่วม เพราะอีโมจิช่วยให้รู้สึกว่าทุกคนในทีมทำงานอยู่ตรงนั้นด้วยกันจริงๆ
10 อีโมจิที่ใช้ได้ในที่ทำงาน ใช้แล้วไม่บ้ง เพิ่มความเป็นมืออาชีพ
อีโมจิที่กลายเป็นมาตรฐานในสายงานมืออาชีพ มักจะเป็นอิโมจิที่สื่อสารง่าย ชัดเจน และเข้าใจตรงกันได้ในทันที ได้แก่
✅ เครื่องหมายถูก หมายถึง ยืนยันงานเสร็จ
🙏 พนมมือ หมายถึง ขอบคุณอย่างสุภาพ
🚀 จรวด หมายถึง ฉลองการเปิดตัวหรือเริ่มโปรเจกต์ใหม่
🙂 ใบหน้ายิ้ม หมายถึง ช่วยเพิ่มน้ำเสียงเป็นมิตร
👏 ปรบมือ หมายถึง ให้กำลังใจ, ชื่นชม
📌 พินปักหมุด หมายถึง เน้นย้ำสิ่งสำคัญ
💡 หลอดไฟสว่าง หมายถึง เสนอไอเดีย
🧠 สมอง หมายถึง ยอมรับมุมมองหรือการมีข้อมูล Insight ที่ดี
📣 โทรโข่ง หมายถึง แจ้งข่าว, การประกาศ
🎯 แผ่นเกมปาเป้า หมายถึง เป้าหมายร่วมกัน
อีโมจิข้างต้นเหล่านี้ไม่ใช่นำมาใช้งานเพื่อความน่ารัก แต่เพื่อเพิ่มโทนเสียงและอารมณ์ให้ข้อความสั้นๆ ดูอบอุ่น เป็นมิตร ขณะเดียวกันก็สื่อสารได้ชัดเจนขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้อีโมจิจะกลายเป็นภาษาหลักใน Slack หรือ Teams แต่ในอีเมล ยังคงมีความเสี่ยง เพราะอีเมลถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่ “จริงจังมากกว่าและถาวรกว่า” ตามงานวิจัยของ Hult International Business School ปี 2020 พบว่า 95% ของพนักงานมองว่าใช้อีโมจิในกลุ่มแชทของทีมได้ แต่หากใช้ในอีเมลจะรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นมืออาชีพ
อีโมจิที่ใช้ได้ในอีเมลส่วนใหญ่จะต้อง “เล็กน้อยและเหมาะสม” เช่น 🙏 ในข้อความขอบคุณ, ✅ ใน Subject line หรือ 🙂 เล็กๆ ในการปิดท้ายอีเมลสำหรับบุคคลที่คุณสนิทสนมคุ้นเคยเท่านั้น แต่ในบริบท อีเมลทางการ, ติดต่อกับลูกค้า หรือมีผู้บริหารหลายระดับ ควรเลี่ยงการใช้ emoji เพราะอาจถูกตีความว่า “ไม่จริงจัง” หรือ “ไม่เป็นมืออาชีพ”
ฮาวทูใช้ 'อีโมจิ' ให้เหมาะสมในที่ทำงานแบบมือโปร
การใช้อีโมจิในที่ทำงาน ไม่ใช่เรื่องรสนิยมส่วนตัว แต่คือการอ่านบรรยากาศวัฒนธรรมทีม ยกตัวอย่างเช่น อีโมจิรูปยกนิ้วโป้ง (👍) สำหรับวัยทำงานบางเจนเนอเรชัน อาจหมายถึง “โอเค เยี่ยมมาก” แต่สำหรับคนทำงานบางรุ่นกลับถูกตีความว่า “ประชด” หรือ “กดให้แบบส่งๆ” ไม่มีความหมายอะไร
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ การสังเกตสไตล์การสื่อสารของทีม ว่ามีการใช้อีโมจิแบบไหนเป็นเรื่องปกติ หลักการง่ายๆ ก็คือ
1. ถ้าเป็นแชทกลุ่มงานของทีม ใช้อีโมจิเพื่อเสริมโทนเสียง และแสดงการมีส่วนร่วมได้
2. ถ้าเป็นอีเมล ใช้อีโมจิให้น้อยที่สุด และเฉพาะเมื่อมั่นใจว่าผู้รับเข้าใจโทนความหมายของอีโมจิรูปนั้นๆ
โดยสรุปก็คือ การอีโมจิในที่ทำงานยุคนี้ “ไม่ได้แปลว่าผู้ใช้ไม่เป็นมืออาชีพ” แต่ การใช้อย่างผิดบริบทต่างหากที่ไม่มืออาชีพ เพราะในยุคที่เราต้องทำงานผ่านข้อความเป็นหลัก อีโมจิ จึงถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ข้อความสื่อสารสั้นๆ ดูไม่แข็งกระด้างจนเกินไป อีกทั้งยังช่วยสื่ออารมณ์ สร้างความเข้าใจชัดเจน และสร้างการมีส่วนร่วมได้ดีกว่าการพิมพ์คำพูดยาวๆ เป็นย่อหน้า
ทั้งนี้ วิธีใช้อีโมจิให้เป็นมืออาชีพก็คือ เน้นใช้งานมันอย่างพอดี จะช่วยสร้างความสัมพันธ์และเพิ่มความชัดเจน ถ้าใช้มากเกินไป จะกลายเป็น Noise ทันที และอีโมจิที่เวิร์กในที่ทำงาน คืออีโมจิที่ไม่ได้ใช้คุยเล่นๆ แต่ใช้เพื่อบอกว่าเราเข้าใจบรรยากาศของทีมและเข้าใจการสื่อสารงานได้เคลียร์มากขึ้นนั่นเอง
อ้างอิง: Forbes, Microsoft, University of Michigan, Cornell University