โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เร่งดึงนักท่องเที่ยว ‘แดนภารตะ’ เที่ยวไทย ชดเชยตลาดที่ชะลอตัว

SpringNews

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การท่องเที่ยวถือว่าเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย เพราะสร้างรายได้มหาศาลในแต่ละปี ดังนั้นจึงทำให้ต้องมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตลาดอินเดียถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และเศรษฐกิจแข่งแกร่ง ล่าสุด นายสันติ แสวงเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียก่อนโควิด-19 จะระบาดนักท่องเที่ยวอินเดียอยู่ใน 10 อันดับแรก

โดยมีจำนวนประมาณ 1.9 ล้านคน/ปี ซึ่งถือว่าสูงมาก และในปี 2023 ที่ผ่านมา ได้ทำสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวทะลุ 2-2.1 ล้านคน นับได้ว่าเป็นการทำลายสถิติเดิม และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ทำได้ถึง 2 ล้านคนใน 10 อันดับแรกของประเทศไทย

ต่อมาปี 2024 เติบโตต่อเนื่องไปถึง 2.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 10.3% ทั้งนี้หากสถานการณ์โดยรวมเป็นปกติ ไม่มีภัยพิบัติหรือปัญหาทางการเมืองจะดีขึ้นต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยเป็นอันดับ 3 รองจากนักท่องเที่ยวจีน และมาเลเซีย อย่างไรก็ตามแม้ว่านักท่องเที่ยวอินเดียจะไม่ได้เข้ามา ทดแทนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยมีจำนวนสูงสุดถึงเกือบ 12 ล้านคนได้ทั้งหมด แต่ก็ถือได้ว่าเข้ามาช่วยชดเชยหรือเป็นตัวเสริมที่สำคัญให้วงการท่องเที่ยวไทยได้ควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจากอินเดีย ยุโรป และอเมริกา ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งก็ช่วยชดเชยภาพรวมของการท่องเที่ยวไทยได้เป็นอย่างดี โดยนักท่องเที่ยวอินเดียชอบทุกอย่าง ในประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน , Street Food , และการจัดกิจกรรม/ประเพณีต่างๆ ซึ่งประเทศไทยมีความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวอินเดียที่เป็นมังสวิรัติ (Vegetarian) ได้ดี โรงแรมส่วนใหญ่มีอาหารมังสวิรัติให้บริการนอกจากนี้ยังชื่นชอบการมาจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ เช่น งานแต่งงาน นักท่องเที่ยวอินเดียอาจนำเชฟหรือกุ๊กของตนเองมาด้วย ซึ่งประเทศไทยก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกในเรื่องของระยะทางจากนิวเดลีถึงกรุงเทพฯใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงทำให้เป็นตลาดระยะใกล้ที่เดินทางง่าย ไม่นาน โดยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวอินเดียมีระยะเวลาพำนัก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5-7 วันต่อทริปค่าใช้จ่ายต่อทริปต่อคนประมาณ 39,000 บาท (ประมาณ 1,200 เหรียญสหรัฐฯ) ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีสำหรับตลาดระยะใกล้ แม้จะไม่สูงเท่าตลาดที่มีการใช้จ่ายสูงกว่า 40,000-50,000 บาท

สำหรับมาตรการและแผนการดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียของททท. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดย ททท. ทำตลาดสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียมาอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมส่งเสริมการขาย พาเอกชนไป Roadshow, Trade Show, เชิญ Influencer มาสร้าง PR และสร้างการรับรู้ และมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลยังคงใช้มาตรการ "ฟรีวีซ่า"

สำหรับนักท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งอนุญาตให้อยู่ได้ 60 วัน (ในขณะที่คนไทยไปอินเดียต้องเสียเงิน) ซึ่งเป็นมาตรการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง การจัดงานและวิชาการ มีการจัดงานต่างๆ เพื่อกระตุ้นตลาด และเสริมด้วยข้อมูลทางวิชาการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ และสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และจะสร้างความเชื่อมั่นและความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยวอินเดียต่อไป

และล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “ASEAN-India Forum” ภายใต้แนวคิด “Journey of Opportunities: Ignite Indian Travel to ASEAN” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและอินเดีย เสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ และเปิดโอกาสใหม่ทางธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อยกระดับภูมิภาคอาเซียนให้เป็น “จุดหมายในฝัน” สำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า “อาเซียนและอินเดียมีความร่วมมือในการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 มีประเทศอาเซียนที่ติดอันดับจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับตลาดอินเดีย ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย สำหรับประเทศไทยเอง อินเดียถือเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตอย่างมาก ในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าประเทศมากกว่า 2 ล้านคนเป็นครั้งแรก และยังคงติด Top 3 ของประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนไทยมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในปี 2568 ยังเป็นปี ASEAN-India Year of Tourism และประเทศไทยก็ได้รับเกียรติให้เป็นประเทศผู้ประสานด้านการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ททท. จึงมีแนวคิดในการจัดงาน ASEAN-India Forum ในครั้งนี้ขึ้น โดยมุ่งหวังให้เป็นเวทีของการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนด้านการท่องเที่ยวของอาเซียน-อินเดีย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างโอกาสทางธุรกิจในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างอาเซียน-อินเดีย ทั้งยังเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างอาเซียนและอินเดีย เพื่อผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียนเป็น ‘จุดหมายปลายทางสำหรับทุกความฝันของนักเดินทาง’ (Destination for Every Dream) อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ภายในงาน ได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญร่วมแสดงปาฐกถา ได้แก่ ประธานหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวอาเซียน (Chair of ASEAN NTOs) เลขาธิการใหญ่ สำนักเลขาธิการอาเซียน (Secretary General of ASEAN) และ Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีการเสวนา โดยผู้เชี่ยวชาญ ในสาขาต่าง ๆ ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่น่าสนใจในประเด็นต่างๆได้แก่ แนวโน้มความต้องการ และประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอินเดีย โดยมีผู้แทนจาก Booking.com, สมาคมสายการบินประเทศไทย (Airlines Association of Thailand), Radisson Hotels & Resorts และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังชาวอินเดีย คุณ Shivya Nath ที่มาร่วมสะท้อนเกี่ยวกับรูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวอินเดียในปัจจุบัน ที่มุ่งเน้น “ประสบการณ์เฉพาะตัว” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจหลักจากโซเชียลมีเดีย รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และบุคคลสาธารณะที่มีอิทธิพลมากขึ้น

พร้อมกันนี้มีการเสวนาเจาะลึกในหัวข้อ “การสร้างอาเซียนให้เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวอินเดีย” โดยมีผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อาทิ สำนักเลขาธิการอาเซียน (Tourism Unit, ASEAN Secretariat), กรมการท่องเที่ยว (Department of Tourism, DOT), สมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย (Indian Association of Thailand, IAT), สมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association: THA), สมาคมส่งเสริมการแต่งงานอินเดียในประเทศไทย (Thailand Indian Wedding Association: TIWA) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (Association of Thai Travel Agents: ATTA) ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการจัดงานแต่งงานของชาวอินเดีย ซึ่งมักเป็นงานขนาดใหญ่ที่จัดต่อเนื่องกันนานถึง 3–5 วัน มีผู้เข้าร่วมประมาณ 500–1,000 คน และต้องการบริการที่เข้าใจลึกซึ้งในวัฒนธรรมอินเดีย ทั้งในด้านอาหารมังสวิรัติ พิธีกรรมแบบดั้งเดิม บรรยากาศที่หรูหรา และทีมงานมืออาชีพที่สามารถให้บริการแบบครบวงจรได้ในที่เดียว

อย่างไรก็ตามภายหลังการเสวนา ยังได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างผู้แทนหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยว จากประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม อินโดนีเซีย สปป. ลาวมาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ และผู้แทนภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวประเทศอินเดียเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของแต่ละประเทศอาเซียน ในการรองรับตลาดอินเดีย รวมถึงหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขอุปสรรค ทั้งในระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติการ

ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนและอินเดีย การพัฒนาสินค้าและบริการของอาเซียนให้เหมาะกับตลาดอินเดีย ตลอดจนการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวสองทางระหว่างอาเซียนและอินเดียอย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้ ในวันรุ่งขึ้น (24 กรกฎาคม) คณะผู้แทนจากประเทศอาเซียนและอินเดีย จะได้ร่วมเดินทางไปทัศนศึกษา ณ พัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของไทยอีกแห่งหนึ่งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย และเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของแนวทางบริหารจัดการจุดหมายท่องเที่ยวให้รองรับตลาดใหญ่เช่นอินเดียอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

เปิดรายละเอียดคำชี้แจง ศาลทหารสูงสุด คดี “น้องเมย” ถูกสั่งธำรงวินัย จนเสียชีวิต

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อภิสิทธิ์ กางสูตรผ่าทางตัน ทำกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ - ติง ทักษิณ ทำเกินขอบเขต

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เร่งดึงนักท่องเที่ยว ‘แดนภารตะ’ เที่ยวไทย ชดเชยตลาดที่ชะลอตัว!

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เรียกทูตไทยกลับจากกัมพูชา เตรียมลดระดับความสัมพันธ์

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

อายิโนะโมะโต๊ะ เผย 3 แผนใหญ่ ปี 68 หลังทำรายได้ 3.2 หมื่นล้าน

SMART SME

ผู้ช่วยฯ “จักรพล” เดินหน้ายกระดับธุรกิจที่พักเพื่อการท่องเที่ยว จับมือกระทรวงมหาดไทย ผลักดันแนวทางเชิงรุก หนุนผู้ประกอบการเข้าระบบ

สวพ.FM91

Thai economic sectors at risk without reforms amid US trade talks

Thai PBS World

Broker ranking 23 Jul 2025

Manager Online

'รองนายกฯพิชัย' หารือประธานฯ บริษัท MinebeaMitsumi Inc. หนุนลงทุนต่อเนื่องในไทย พร้อมผลักดันด้านโลจิสติกส์และพลังงาน

VoiceTV

“รัฐบาลไทย” เรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ ลดระดับความสัมพันธ์

การเงินธนาคาร

“อภิสิทธิ์” จี้รัฐหยุดวนลูปแจกเงิน แนะปฏิรูปรากเศรษฐกิจ กิโยตินกฎหมาย-เพิ่มทักษะคนไทย

PostToday

นกแอร์ เหลือหนี้ 400 ล้าน ตั้งเป้าออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ กลางปี 2571

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...