เขมรซัดไทยต้นตอแก๊งคอล
“ฮุน เซน” พ้อกัมพูชาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงออนไลน์ที่ผ่านมาทางไทย วอนอย่าโยนผิดเขมร “ภูมิธรรม” ย้ำเร่งปราบแก๊งสแกมเมอร์ “จิรายุ-กต.” พาเหรดโหนรายงาน “ยูเอ็น-แอมเนสตี้” ซัดขอมเต็มไปด้วยอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.2568 สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กล่าวในระหว่างการปราศรัยต่อสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพระวิหาร ในประเด็นการหลอกลวงออนไลน์หรือสแกมเมอร์ว่า กัมพูชาเป็นเหยื่อของไทยเท่านั้น เพราะไทยเป็นประเทศที่มีเที่ยวบินตรงไปยังหลายประเทศ และนำคนโกงเหล่านั้นเข้ามาในประเทศ ดังนั้นจึงขอร้องให้ไทยโปรดหยุดใส่ร้ายพวกเขา เพราะไทยเป็นคนสร้างปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ให้ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา
“กัมพูชาอดทนในการขยายความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ แต่คุณโยนความผิดให้กัมพูชา เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ คุณผู้หญิง (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) คุณได้ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงในเรื่องนี้ คุณถ่มน้ำลายใส่คนอื่น และคุณทำให้คนอื่นเลือดออก แต่ความจริงแล้วเลือดนั้นออกมาจากตัวคุณเอง”
สมเด็จฮุน เซน เน้นย้ำว่า หากประชาชนไม่ซื่อสัตย์ เราจะไว้ใจพวกเขาได้อย่างไร กัมพูชาพร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ ไม่เพียงแต่ทางออนไลน์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน ยาเสพติด ฯลฯ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า เรากำลังดำเนินการเรื่องสแกมเมอร์ สิ่งสำคัญคือเราให้ส่วนที่เกี่ยวข้องไปดูแลและดำเนินการ รวมถึงป้องกันเรื่องสแกมเมอร์ในประเทศไทย
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ออกแถลงการณ์ว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการปราบปรามปัญหาคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงทางออนไลน์ และการค้ามนุษย์นั้น ในขณะนี้ได้มีรายงานหลายฉบับจากองค์การระหว่างประเทศ ทั้งสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime - UNODC) และองค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International - AI) ชี้แจงให้เห็นว่าอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้เป็นภัยคุกคาม ซึ่งไทยเห็นด้วยว่าจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลในด้านต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงผลกระทบซึ่งประเทศไทยพร้อมที่จะแสดงบทบาทนำในเรื่องนี้ และขอให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมมือกับไทย ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในอนุภูมิภาคเราต่อไป
พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวในการชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณงบประมาณ พ.ศ. 2569 ถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า ต้องอาศัยการปฏิบัติการที่ต่อเนื่อง ซึ่งในเร็ววันนี้จะพูดคุยกับนานาชาติ เพื่อขอความร่วมมือในการช่วยกันสนับสนุน ปราบปราม โดยจะมีจเรตำรวจแห่งชาตินำทีมปฏิบัติ สิ่งที่ต้องจัดการก็คือตัดคนที่อยู่ในกระบวนการ กลุ่มทุนเทา พร้อมตัดเทคโนโลยี รวมถึงระบบการเงิน การฟอกเงิน หากทำ 3 เรื่องนี้ได้ ปัญหาจะลดลง ซึ่งยืนยันว่ามีการย้ายฐานอยู่ตลอดเวลา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลได้อ่านรายงานฉบับล่าสุดขององค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2568 ที่ระบุถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในศูนย์คอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมายในกัมพูชา โดยในรายงานของ Amnesty International ระบุว่า มีศูนย์คอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์อย่างน้อย 53 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศกัมพูชา โดยศูนย์เหล่านี้จะดัดแปลงจากโรงแรมหรือกาสิโนเก่าที่เริ่มไม่มีผู้เข้าไปใช้บริการ
นายจิรายุกล่าวอีกว่า รายงานของแอมเนสตี้ระบุว่าผู้หลบหนีออกจากศูนย์เหล่านี้เป็นคนจีน ไทย มาเลเซีย บังกลาเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไต้หวัน และเอธิโอเปีย และอีกหลากหลายประเทศ โดยเหยื่อตอบกับแอมเนสตี้ตรงกันว่า ถูกหลอกมาทำงานผ่านโฆษณางานบนแพลตฟอร์มทางโซเชียลมีเดีย เมื่อเข้าไปทำงานก็จะถูกยึดพาสปอร์ต โดนกักขัง ทำร้ายร่างกาย หากไม่ทำงานในการหลอกลวงออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ โดยรายงานยังระบุว่า ในการตรวจสอบเพิ่มเติมจากบันทึกของเหยื่อ พบว่าขบวนการเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และมีระบบอุปถัมภ์จากเจ้าหน้าที่ในกัมพูชา โดยระบุชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชาบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องให้เกิดการละเมิดสิทธิในลักษณะนี้
“รัฐบาลไทยถือว่าศูนย์สแกมเมอร์ หรือธุรกิจการค้ามนุษย์ในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลโดยการนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เร่งป้องกันวิกฤตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และจะทำงานร่วมกับมิตรประเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อตัดตอนเครือข่ายการค้ามนุษย์ สร้างกลไกความร่วมมือ ในการยุติกระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีและช่องโหว่ทางกฎหมาย แสวงหาประโยชน์จากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน” นายจิรายุกล่าว.