นอนก่อน 4 ทุ่ม 21 วันติดต่อกัน ทริกเปลี่ยนสุขภาพดีทั้งกายและใจ

รู้แล้วรีบปรับ นอนก่อน 4 ทุ่ม ให้สม่ำเสมอ 21 วันติดต่อกัน ทริกเปลี่ยนสุขภาพดีทั้งกายและใจ

นอนก่อน 4 ทุ่ม แม้ฟังแล้วจะดูเป็นเรื่องที่ทำได้ยากสำหรับใครหลายคน เนื่องจากวงจรชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเป็นเวลาเลิกงาน หรือหนักกว่านั้นมันคือเวลาเข้างานสำหรับคนบางกลุ่ม แต่สำหรับคนที่พอจะทำได้และทำต่อเนื่องจนครบ 21 วัน เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนของคุณให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีทั้งร่างกายและจิตใจ

เพราะการนอนก่อน 4 ทุ่ม มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการต่อตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น

กระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน

โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เป็นฮอร์โมนสำคัญในการซ่อมแซมร่างกายและชะลอความเสื่อม การนอนหลับในช่วงเวลา 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 ถือเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ดีที่สุด หากนอนหลับในช่วงเวลานี้จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการนอน และมีผลต่อการเจริญเติบโตและชะลอวัย

ส่งเสริมการทำงานของสมอง

การนอนหลับก่อน 4 ทุ่ม มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการทำงานของสมอง การนอนหลับช่วยให้สมองได้พักผ่อน ซ่อมแซมตัวเอง และจัดระเบียบความทรงจำ รวมถึงเพิ่มสมาธิและความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ช่วยให้สมองกำจัดสารพิษและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงของภาวะสมองล้าและโรคที่เกี่ยวข้องกับความจำ ลดความเสี่ยงของโรค เช่น โรคอ้วน ภาวะซึมเศร้า และโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต

หากการนอนหลับไม่เพียงพอหรือคุณภาพไม่ดี อาจส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองในระยะสั้นและระยะยาว เช่น ความจำแย่ลง สมาธิสั้นลง และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางระบบประสาทขึ้นได้

ผิวพรรณสดใส หน้าเด็ก

การนอนหลับก่อน 4 ทุ่ม ช่วยให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมน ซึ่งมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์และสดใส ลดริ้วรอยและชะลอความแก่ เพราะการนอนหลับลึกในช่วง REM Sleep ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเซลล์ผิว การนอนหลับที่มีคุณภาพและเพียงพอ 7-9 ชั่วโมง จะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

ดีต่อใจ อารมณ์ดีขึ้น ไม่ขี้หงุดหงิดเหวี่ยง-วีน

การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยลดความเครียดและปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้น ควบคุมอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานในหลายๆ ส่วนของร่างกาย ทั้งด้านการควบคุมอารมณ์ การย่อยอาหาร ความรู้สึกอยากหรือเบื่ออาหาร รวมไปถึงการนอนหลับ หากร่างกายมีระดับเซโรโทนินที่ต่ำหรือสูงเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้

ช่วยการควบคุมน้ำหนัก

การนอนหลับอย่างเพียงพอ จะช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร ทำให้ควบคุมปริมาณอาหารที่กินได้ง่ายขึ้น การนอนหลับส่งผลโดยตรงต่อการหลั่งของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิว ได้แก่ ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากกระเพาะอาหารและทำหน้าที่กระตุ้นความหิว เมื่อเราท้องว่าง ระดับเกรลินจะสูงขึ้นและส่งสัญญาณไปยังสมองว่าถึงเวลาต้องกิน เมื่อกินอาหารแล้วระดับเกรลินถึงจะลดลง เกรลินจึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความอยากอาหารและสมดุลของพลังงานในร่างกาย

และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นจากเซลล์ไขมัน ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหารและช่วยส่งสัญญาณบอกความอิ่มไปยังสมอง ช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว หากร่างกายมีภาวะดื้อต่อเลปติน จะทำให้รู้สึกหิวตลอดเวลา กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม ซึ่งจะนำไปสู่โรคอ้วนได้

เมื่อเรานอนหลับไม่เพียงพอ ระดับเกรลินจะสูงขึ้น ทำให้เราหิวบ่อยขึ้น ขณะที่เลปตินจะลดลง ทำให้รู้สึกอิ่มยาก ส่งผลให้เรากินมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเลือกกินอาหารที่มีแคลอรีสูง

การเข้านอนไวและตื่นนอนในเวลาที่สม่ำเสมอ จะช่วยปรับนาฬิกาชีวภาพของร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติ และหากทำได้อย่างสม่ำเสมอ ประโยชน์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน