“รถไฟฟ้า20บาท”ลงทะเบียนวันนี้ คนไทยพร้อม-‘ระบบจัดการ’พร้อมไหม?
ก่อนอื่นขอออกตัวล้อฟรี! ว่าเห็นด้วยกับนโยบายนี้อย่างมาก(กอ ไก่ ล้านตัว) เพราะเคยต้องใช้รถไฟฟ้าเดินทางเป็นประจำและรู้สึกว่าเงินในกระเป๋ารั่วเงินหายไปจำนวนมากทุกๆวัน เพราะค่าโดยสารที่ค่อนข้างสูงในปัจจุบัน และยิ่งหากไปเทียบกับอัตราค่าโดยสารในเมืองใหญ่ๆของโลก ก็จะพบว่า กอ ทอ มอ มีค่าเดินทางที่สูงแซงหน้ารายได้ ยกตัวอย่างจีน ค่าโดยสารเฉลี่ยที่ 5 หยวน หรือ 25 บาท นิวยอร์กเฉลี่ย 2.9 ดอลลาร์ ซึ่งคงเทียบเป็นเงินไทยไม่ได้เพราะฐานค่าครองชีพต่างกัน แต่รู้สึกว่า “ถูกมาก”
ดังนั้นนโยบายนี้เท่ากับว่า“ตีโดน” ความต้องการของคนๆหนึ่งเข้าแล้ว เมื่อรัฐตัดสินใจลดรายจ่ายให้ประชาชน ซึ่งเท่ากับเพิ่มรายได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่(ลากเสียงยาว) มีคำถามมากมายเกี่ยวกับนโยบายนี้ที่อยากได้คำตอบ
เริ่มที่ส่วนต่างราคาที่เอกชนผู้รับสัมปทานคิดค่าบริการในปัจจุบันนั้น รัฐบาลนำเงินจากส่วนไหนมาจ่าย หากร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ….,ร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ….และร่างแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ว่าด้วยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (พ.ร.บ. รฟม.) ติดขัด หรือ ไม่เป็นไปตามแผน ที่กำหนดให้มีกองทุนไว้เป็นแหล่งรายได้เพื่อหล่อเลี้ยงโครงการ เหตุสุดวิสัยต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจะทำให้โครงการนี้กลายเป็นภาระทางงบประมาณ และอาจทำให้นโยบายนี้ไม่ยั่งยืน หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
“ล่าสุดร่างกฎหมายต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรชั้นกฎหมายวาระ 2 และ 3 โดยเมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อไป”
คำถามต่อมาระบบตั๋วโดยสาร ที่ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน จะมีผลต่อการคิดค่าโดยสารหรือไม่ ปัญหานี้ยังไม่นับรวมภาระที่คนเมืองต้องแบกบัตรโดยสารหลายใบ นี่ก็รอคำตอบเป็นผลเชิงปฎิบัติที่เป็นรูปธรรม
“คำถามทั้งหมดนี้ไม่ได้มาแซะให้รำคาญใจแต่อยากให้นำไปคิดและแก้ไขเพื่อให้โครงการนี้ซึ่งไม่ได้มีกำหนดเวลาสิ้นสุด สามารถขับเคลื่อนไปได้และเป็นจุดสตาร์ทของระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับผู้ใช้บริการได้อย่างยั่งยืนจริงๆ”
หากระบบสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ ทั้งด้านการใช้ทรัพยากร จากสถานนีรถไฟฟ้า มูลค่าเชิงพาณิชย์ที่ได้จากจำนวนผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% จากจำนวนผู้ใช้บริการวันละ 1.7 ล้านคน ถ้าจัดการให้ดี นี่คือแหล่งรายได้ที่จะใช้หล่อเลี้ยงโครงการได้อีกทางหนึ่ง ส่วนการหาข้อสรุปกับเอกชนผู้รับสัมปทานก็ต้องตกลงกันให้ดีว่าจะไปด้วยกันโปรเจกต์หรือไม่ หรือจะรับส่วนต่างค่าโดยสารจากนั้นก็ต่างคนต่างบริหารแบบนี้ต่อไป
นอกจาก ระบบรถไฟฟ้า 13 เส้นทางแล้ว ในฐานะคนเดินถนน ระบบฟีดเดอร์ ทั้ง รถมอร์เตอร์ไซด์ รถตู้ รถเมล์ เรือ หรือรถไฟธรรมดา ก็ต้องสอดคล้องกับระบบขนส่งนี้ด้วย คือ ถ้าจะลดค่าใช้จ่ายก็“ทำให้ถึง” ให้คนเมืองมีเงินเหลือไปใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น
สำหรับโครงการ “รถไฟฟ้า20บาท” ที่ให้ลงทะเบียนแล้ววันนี้ "คนไทยพร้อมแล้ว" แต่ ‘ระบบการจัดการ’ ด้านต่างๆหละพร้อมไหม?