โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ผู้นำอาเซียนตบเท้าร่วมพิธีสวนสนามจีน มากกว่ารำลึกสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จีนเตรียมแสดงแสนยานุภาพในขบวนสวนสนามรำลึก 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 3 ก.ย. แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า แขกที่มาร่วมงานสำคัญกว่าอาวุธโดยเฉพาะผู้นำจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชีย (ซีเอ็นเอ) รายงานว่า ผู้นำสูงสุดจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม อยู่ในกลุ่มผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะมาร่วมงาน ถือเป็นครั้งแรกที่สามเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดแห่งภูมิภาคนี้มาปรากฏตัวพร้อมกันในพิธีสวนสนามของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน

ตามรายงานของเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์คาดว่าผู้นำจากกัมพูชา ลาว และเมียนมาจะปรากฏตัวเช่นกัน หลังจากเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (เอสซีโอ) ที่เมืองเทียนจินเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น

นักวิเคราะห์มองว่า สำหรับจีน การมีผู้นำในภูมิภาคมาร่วมพิธีสวนสนามส่งสัญญาณถึงความเป็นปึกแผ่นและความชอบธรรม สำหรับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี่คือโอกาสจีบจีนมาทำการค้าและลงทุนโดยไม่ต้องสังเวยต้นทุนทางการเมืองในประเทศ

“การมาร่วมงานเป็นการส่งสัญญาณความปรารถนาดีไปถึงจีน ด้วยเจตนารมณ์ส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาค แต่ก็เสียงอาจโดนตอบโต้จากพรรคฝ่ายค้านชาตินิยมที่สนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนบ้าง หรืออาจเจอความกังวลจากประชาชนเรื่องอธิปไตยและความนิยมทหาร” โจนาทาน ผิง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยบอนด์ให้ความเห็น

นักสังเกตการณ์ระบุว่า จำนวนผู้มาร่วมงานมีความหมายมากยิ่งกว่าการรำลึกช่วงเวลาสงคราม สำหรับจีนงานนี้เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว นั่นคือได้แสดงแสนยานุภาพทางทหารในประเทศ พร้อมๆ กับฉายแสนยานุภาพทางการทูตครอบคลุมทั่วเอเชียและที่ไกลออกไป

รัฐบาลปักกิ่งต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่ามีอำนาจในการรวมพรรคพวก ระดมพันธมิตรทั้งระดับภูมิภาคและนานาชาติได้แม้สายสัมพันธ์กับตะวันตกอ่อนแอ แถมสหรัฐภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความปั่นป่วนให้กับระเบียบโลก

  • การปรากฏตัวของผู้นำอาเซียน

พิธีสวนสนามวันแห่งชัยชนะครั้งนี้จะเป็นขบวนใหญ่เต็มรูปแบบครั้งที่ 2 ของจีนนับตั้งแต่ปี 2015 เพื่อรำลึกวาระญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย.1945 ในประเทศจีนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกรับรู้อย่างเป็นทางการในฐานะ“สงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ของโลก”

พิธีจัดขึ้นใจกลางกรุงปักกิ่ง มีผู้ร่วมงานนับหมื่นๆ คน กองทัพจีนนำอาวุธยุทโธปรกรณ์ล่าสุดมาจัดแสดง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงคอยตรวจพลอยู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินท่ามกลางสายตาผู้นำต่างชาติและแขกผู้มีเกียรติ การปรากฏตัวของคนเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ถูกจับตาใกล้ชิด

ทางการจีนกล่าวว่า ส่งคำเชิญไปถึงผู้นำต่างประเทศแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายชื่อแขกอย่างเป็นทางการ ในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (20 ส.ค.) เหมาหนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “จะเผยแพร่ข้อมูลตามเวลาที่กำหนด”

กระนั้น สื่อมวลชนรายงานว่าผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมากันมากกว่าเมื่อปี 2015 เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานอ้างแหล่งข่าวหลายรายเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโตของอินโดนีเซีย, นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย และประธานาธิบดีเหลื่องเจืองของเวียดนาม น่าจะมาร่วมพิธี

เทียบกับในปี 2015 ประมุขของรัฐจากกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามมาร่วมพิธี ขณะที่ไทยส่งรองนายกรัฐมนตรีประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นตัวแทน สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ส่งทูตพิเศษ เช่น อดีตข้าราชการหรือรัฐมนตรีมาเป็นตัวแทน บรูไนไม่เผยแพร่รายชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้ร่วมงาน ส่วนฟิลิปปินส์ที่มีข้อพิพาทน่านน้ำไม่ได้ส่งตัวแทนอย่างเป็นทางการ แต่อดีตประธานาธิบดีโจเซฟ เอสตรดา ที่ตอนนั้นเป็นนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา เข้าร่วมพิธีสวนสนามในนามส่วนตัว อ้างความเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างมะนิลากับปักกิ่ง

ผิงจากมหาวิทยาลัยบอนด์ กล่าวว่า การเห็นผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมงานเน้นย้ำถึงความเป็นเอกภาพ และแสดงให้เห็นว่าเพื่อนบ้านจีนพร้อมถูกมองว่ายืนเคียงข้างกองทัพจีน

“การเชิญผู้นำอาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) เน้นย้ำถึงความทะเยอทะยานของปักกิ่งในการจัดแนวทางการทูตและเสถียรภาพในภูมิภาคภายใต้การนำของตน ขณะที่การแสดงแสนยานุภาพทางทหารช่วยเสริมสร้างผลประโยชน์ที่ขยายตัวและท่าทีเชิงรุกของจีน” นักวิชาการรายนี้กล่าว

นักวิเคราะห์มองว่า สองปัจจัยที่ผลักดันให้ผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากันมากในปีนี้คือ การมาร่วมงานใช้ต้นทุนทางการเมืองต่ำ เทียบกับเมื่อสิบปีก่อนที่จีดจัดพิธีสวนสนามวันแห่งชัยชนะเต็มรูปแบบครั้งแรก ช่วงที่จีนรุกถมทะเลและสร้างเกาะเทียมในน่านน้ำข้อพิพาททะเลจีนใต้ และมีคดีกับฟิลิปปินส์รอคณะอนุญาโตตุลาการตัดสิน

ขณะที่ผู้นำตะวันตกส่วนใหญ่ไม่มา รัฐอาเซียนส่วนใหญ่เลือกส่งตัวแทนระดับล่างๆ เพื่อไม่ต้องถูกมองว่าสนับสนุนท่าทีทางทหารของจีนในช่วงที่ความขัดแย้งกำลังระอุ

ปีนี้สถานการณ์ยังร้อนแรง จีนกับสหรัฐเป็นอริกันหนักข้อขึ้น พีแอลเอก็ถูกจับตาอย่างหนัก แต่งานวันที่ 3 ก.ย. อ่อนไหวทางการเมืองน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ซาชารี อาบูซา อาจารย์วิทยาลัยสงครามแห่งชาติในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดาบสองคม ผู้นำต้องการสร้างสัมพันธ์กับจีน แต่ต้องไม่ลืมสายสัมพันธ์ที่มีมายาวนานกับญี่ปุ่นด้วย

ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในสมการนี้ เพราะขบวนสวนสนามวันแห่งชัยชนะของจีนมุ่งเน้นไปที่ความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้ประเทศเพื่อนบ้านตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก พวกเขาต้องการแสดงความเคารพต่อประวัติศาสตร์ของจีน แต่ก็ไม่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ในปัจจุบันกับญี่ปุ่นเช่นกัน

“ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้มายาวนาน เป็นนักลงทุนต่างชาติและคู่ค้าสำคัญกับทุกๆ ประเทศในภูมิภาคนี้” อาบูซากล่าวและว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวมยินดีกับบทบาทด้านความมั่นคงและความร่วมมือด้านกลาโหมที่เพิ่มมากขึ้นของญี่ปุ่น

ในปี 2023 การค้าระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นมูลค่า 2.41 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 7% ของการค้าอาเซียน การลงทุนของญี่ปุ่นมูลค่า 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นนักลงทุนต่างชาติระดับท็อปประเทศหนึ่งของอาเซียน

ในด้านความมั่นคง รัฐบาลโตเกียวกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมด้วยเช่นกัน ที่ชัดเจนที่สุดคือกระทำผ่านข้อตกลงเข้าถึงต่างตอบแทนกับฟิลิปปินส์ที่ลงนามกันเมื่อกลางปี 2024 และโครงการความช่วยเหลือด้านความมั่นคงอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดหาเรือลาดตระเวนและเรดาร์ชายฝั่งให้กับพันธมิตร ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กระนั้น พลังทางเศรษฐกิจของจีนก็ยากที่จะละเลย โดยเฉพาะเมื่อจีนผนึกบทบาทเป็นคู่ค้าและนักลงทุนอันแข็งแกร่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำพาการฟื้นตัวแบบไม่เท่าเทียมกันหลังโควิดและผลกระทบจากภาษีสหรัฐ

“ในช่วงเวลาที่การส่งออกไปสหรัฐอาจชะลอลงเพราะภาษี และกองทุนการเงินระหว่างประเทศลดการเติบโตของจีดีพีทุกประเทศในภุมิภาค เหล่าผู้นำจะมองไปที่จีนเพื่อหาการค้าการลงทุนให้มากขึ้น” อาบูซากล่าว

นับตั้งแต่แซงสหภาพยุโรปได้ในปี 2020 อาเซียนยังคงเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของจีน ในปี 2024 การค้าทวิภาคีทะลุ 9.63 แสนล้านดอลลาร์ คิดเป็น 15.9% ของการค้าต่างประเทศรวมของจีน

ในเวลาเดียวกัน จีนเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของประเทศอาเซียนส่วนใหญ่ สะท้อนถึงความเชื่อมโยงด้านซัพพลายเชนอันลึกซึ้ง และการพึ่งพาทางเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคมากขึ้นทุกขณะ

“แม้ผู้นำอาจมาพิธีสวนสนาม แต่การประชุมนอกรอบ พบกับสีตัวต่อตัวและทีมงานของเขาคือสิ่งสำคัญที่สุด” อาบูซากล่าวเพิ่มเติม

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พิธีสวนสนามเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ก็จริง แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการเข้าถึง

“พิธีสวนสนามทำหน้าที่เป็นประตู ผู้เข้าร่วมได้เข้าถึงทางการทูตเฉพาะหน้า เช่น ได้พบปะทวิภาคี ได้คำมั่นการลงทุนและความร่วมมือทางทหาร แต่ที่สำคัญที่สุดคือได้เครือข่ายในอนาคต” ผิงกล่าวและว่า ในเวลาเดียวกันการมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่องนอกเหนือไปจาก “การร่วมงานในเชิงสัญลักษณ์” จำเป็นต้องใช้เวลาสั่งสม

  • เพิ่มพลังรวมพวก

การจัดประชุมผู้นำเอสซีโอไล่เลี่ยกับงานสวนสนามวันที่ 3 ก.ย. ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นักวิเคราะห์กล่าวว่ารัฐบาลปักกิ่งดีดลูกคิดรางแก้วมาแล้วเพื่อขยายอำนาจเรียกพวกพ้องมาร่วมชุมนุม

สองงานนี้สร้างปฏิสัมพันธ์สองระดับ กล่าวคือ การประชุมผู้นำเอสซีโอว่าด้วยความมั่นคงและการประสานงานด้านเศรษฐกิจ ส่วนงานสวนสนามเป็นงานแนวสัญลักษณ์

ผิงกล่าวว่า บางประเทศอาจเข้าร่วมแค่เอสซีโอไม่ร่วมงานสวนสนาม

ทั้งนี้ การร่วมทั้งสองงานจะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลใดบ้างที่อยู่ในวงโคจรของจีนอยู่แล้ว โดยเฉพาะผ่านความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ประเทศเหล่านี้ไม่ถูกจำกัดโดยประเด็นอ่อนไหวภายในประเทศที่ขัดขวางผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ถึงขณะนี้มีรายงานว่า ผู้นำเมียนมา กัมพูชา และลาวน่าจะเข้าร่วมทั้งสองงาน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

OPPO แถลงการณ์สวน! สยบข่าว Apple ฟ้อง OPPO "คดีไม่เกี่ยวกับบริษัท"

28 นาทีที่แล้ว

‘สมศักดิ์’ เผย จ่อคุมเข้ม ‘กระท่อม’ ห้ามต้มผสมยาแก้ไอ ขายข้างทาง

46 นาทีที่แล้ว

เปิดตัว ดร.ชญานันท์ ปลัดใหม่ ทส. ประเดิมงานแรก SX2025 ชวนพลิกวิกฤติโลกเดือด

55 นาทีที่แล้ว

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐ เริ่มพก 'ปืน M17 - ไรเฟิล M4' ลาดตระเวนวอชิงตัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

เสียของที่สุดในโลก! ส่วนนี้ของ "สับปะรด" ที่มักถูกทิ้ง จริงๆ แล้วมีสรรพคุณสารพัด

sanook.com
วิดีโอ

เขมรคบไม่ได้! ล่าสุด บุกรื้อลวดหนามพร้อมเข้าประชิดทหารไทย2

THE ROOM 44 CHANNEL

อังกฤษเลื่อนการตัดสินเรื่องสถานทูตจีน หลังปักกิ่งกั๊กรายละเอียดแผนการ

เดลินิวส์

เตือนภัย "ท่านอน" เสี่ยงอัมพาต หนุ่มวัย 19 ทำเป็นนิสัย เลือดคั่งกดทับไขสันหลัง

sanook.com

ไต้ฝุ่น “คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนาม อพยพประชาชนแล้วกว่า 586,000 คน

เดลินิวส์

แชมป์โอลิมปิก 100 เมตรไม่ลงสนามชิงแชมป์โลก

AFP

สื่อนอกรายงาน สวีเดน ลงนามขาย 'กริพเพน' 4 ลำ ให้ไทยแล้ว ชี้ยินดีต้อนรับ ผู้ใช้งานรายใหม่

MATICHON ONLINE

‘รัสเซีย–ยูเครน’ แลกตัวเชลยศึกฝ่ายละ 146 คน โดยมี ‘สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์’ ทำหน้าที่สักขีพยาน

THE STATES TIMES

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...