ลงทะเบียนซิมมือถือ ต้อง "ขยับหน้า" ได้ เทคโนโลยี “ตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์”
ในยุคที่ความเสี่ยงภัยไซเบอร์ การฉ้อโกง และการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล กำลังเป็นวิกฤตที่หลายประเทศต้องหามาตรการในการรับมือเพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย โดยตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป การลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยจะเปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อยกระดับความปลอดภัยและป้องกันการสวมรอย ด้วยการนำเทคโนโลยี Liveness Detection มาตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์
เทคโนโลยี "Liveness Detection" คืออะไร และทำงานอย่างไร?
พล.ต.อ. ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า "Liveness Detection" เป็นเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบว่าผู้ที่กำลังยืนยันตัวตนเป็น "บุคคลจริงที่ยังมีชีวิต" ไม่ใช่เพียงแค่ภาพถ่าย, วิดีโอ หรือหน้ากาก 3 มิติเหมือนที่มิจฉาชีพเคยใช้หลอกลวง วิธีการทำงานจะคล้ายกับการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันธนาคาร คือระบบจะให้ผู้ใช้งานทำท่าทางตามคำสั่ง เช่น กระพริบตา หรืออยู่นิ่งๆ เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกปลอมแปลงมา
มาตรการใหม่นี้จะบังคับใช้กับใคร?
- ผู้ที่ลงทะเบียนซิมใหม่ ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน
- ผู้ที่เปลี่ยนซิม โดยใช้หมายเลขเดิม
การเตรียมตัวสำหรับผู้ใช้บริการ
ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชันของค่ายมือถือ หรือที่ศูนย์บริการและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยเอกสารที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนต้องเป็นฉบับจริงและยังไม่หมดอายุ ดังนี้
- บุคคลสัญชาติไทย : บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
- บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย : หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริง
- กรณีนิติบุคคล : หนังสือรับรองนิติบุคคล และเอกสารแสดงตนของผู้มีอำนาจ
กสทช. ได้เน้นย้ำให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างปลอดภัยสูงสุด ตามข้อกำหนดของสำนักงาน กสทช. และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
"กสทช. ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิของผู้บริโภค และยกระดับความมั่นใจในการใช้บริการโทรคมนาคม มาตรการนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์และอาชญากรรมที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์เป็นเครื่องมือ จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการปฏิบัติตามขั้นตอน เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้" พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว