สภาฯ เห็นชอบ หวยเกษียณ นโยบายเรือธงรัฐบาล พร้อมขายไตรมาส 4 ปีนี้
สภาฯ มีมติเห็นชอบ ร่างกฎหมายหวยเกษียณ ด้วยคะแนน 427 ต่อ 1 เสียง เพื่อส่งเสริมการออม พร้อมทั้ง แพทองธาร ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง
23 กรกฎาคม 2568 – ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติเห็นชอบ ร่างกฎหมายหวยเกษียณ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น เห็นด้วย 427 เสียง ต่อ 1 เสียง ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของรัฐบาลในการผลักดันนโยบายเรือธง เพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน โดยการประชุมในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก มี สส. ฝั่งรัฐบาลเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เนื่องจากมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตนเอง
หวยเกษียณ คือการส่งเสริมการออมในรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด “ซื้อหวย เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม” โดยเปิดให้ประชาชนสัญชาติไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปสามารถซื้อสลากได้ในราคาใบละ 50 บาท แต่จำกัดการซื้อไว้ที่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งจะมีการออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. ประกอบด้วยรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
ทั้งนี้ เงินค่าซื้อสลากทุกใบจำนวน 50 บาท ไม่ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม จะถูกนำไปเก็บสะสมเข้าบัญชีของผู้ซื้อในกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยอัตโนมัติ และผู้ซื้อจะสามารถถอนเงินออมที่สะสมไว้ทั้งหมดออกมาได้เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ พร้อมกับได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมจากการลงทุนของ กอช. อีกด้วย
ในระหว่างการอภิปราย สส. ส่วนใหญ่ได้แสดงความเห็นสนับสนุน แต่มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นหลัก คือ การขอให้สามารถถอนเงินออมบางส่วนออกมาก่อนอายุ 60 ปี และการปรับเกณฑ์อายุผู้ซื้อเป็น 18 ปี ซึ่ง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ชี้แจงว่า กมธ. ได้มีการเพิ่มหลักเกณฑ์ใหม่ โดยจะมีการออกกฎกระทรวงเพื่อให้สามารถ ถอนเงินออมบางส่วนออกมาใช้ก่อนอายุ 60 ปีได้
หากมีเงินสะสมเพียงพอต่อการยังชีพแล้ว เพื่อสร้างความยืดหยุ่น ส่วนเกณฑ์อายุ 15 ปีนั้นยังคงไว้ เนื่องจากกฎหมายนี้ไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการส่งเสริมการออม ซึ่งยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดี
บรรยากาศการประชุมสภาฯ ในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคักผิดปกติ โดยมี สส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภาด้วยตนเอง แม้จะไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน แต่ก็เป็นที่ทราบกันว่าการมาครั้งนี้เป็นไปตามคำแนะนำของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ที่ต้องการให้เข้ามาดูแล สส. อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาองค์ประชุมไม่ครบเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลังจากที่ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการส่งให้วุฒิสภาเป็นผู้พิจารณาภายใน 30 วัน หากวุฒิสภาเห็นชอบโดยไม่มีการแก้ไข ก็จะเข้าสู่กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยรัฐบาลตั้งเป้าว่าจะสามารถเปิดขาย “หวยเกษียณ” งวดแรกให้ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง