โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

'สุจริต มัยลาภ' ผู้บริหารซีพีเอฟ วิ่งเหยาะๆ กำจัดความเครียด

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สุจริต มัยลาภ หรือ ‘โด่ง’ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ดโซลูชั่น จำกัด (CPFGS) บริษัทน้องใหม่ ที่เกิดจากรวมธุรกิจเทรดดิงและส่งออก

ปัจจุบัน CPFGS ดูแลธุรกิจ ครอบคลุมในต่างประเทศ 40% และในประเทศ 60%

โด่งเล่าว่า ผมจบเศรษฐศาสตร์ จากอเมริกา ไปเรียนอยู่ 7 ปี ตั้งแต่ไฮสคูล พอกลับมาก็ทำงานสายธุรกิจไฟแนนซ์ ที่ภัทร ผ่านมา หลายๆ บริษัท อาทิ อาร์เธอร์ แอนเดอร์สันก็ไปทำด้าน Strategy ให้ปตท. ตอนนั้นจะแปรรูป ก่อนจะมาร่วมงานกับ ซีพีเอฟ ซึ่งตอนแรกผมมาช่วยในส่วนของ ซีพีเมจิ

“ผมทำซีพีเมจิเป็นเวลา 9 ปี แล้วก็มาทำการค้าภายในประเทศ ซีพีเฟชมาร์ชขายเข้าโมเดิร์นเทรด ตลาดสด และร้านอาหาร รวม 2 ปี และไปอยู่โลตัส แมคโคร 2 ปี แล้วก็กลับมาที่นี่ (ซีพีเอฟ) ขึ้นปีที่ 4 แล้ว ครั้งนี้จะดูการค้าทั้งหมดทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงร้านอาหารในเครือซีพีเอฟด้วย”

โด่ง-สุจริต เล่าต่อไปว่า เขาเติบโตมาจากครอบครัวทหาร คุณพ่อและคุณปูเป็นทหาร คุณตาก็เป็นทหาร ทว่าเขานั้นกลับเป็นนักบริหาร มีพี่ชายเป็นสถาปนิก น้องชายเป็นซีอีโอบริษัทไอทีสกาย

เขาเคยผ่านเส้นทางชีวิตหล่อๆด้วยการเป็นนายแบบ Johnnie Walker และถ่ายงานถ่ายแบบอีกมากมายในสมัยนั้น ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ถามถึง ไลฟสไตล์ สมัยก่อนอาจจะตีกอล์ฟ ทว่าปัจจุบันหันมา วิ่งเหยาะๆ ในสวนสาธารณะ

“ผมวิ่งที่สวนเบญจทัศน์ ตอนเช้า 6 โมงเช้า วันละ 5.55 กม. (หัวเราะ) เพราะเราคำนวณแล้วว่าการวิ่งระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 40 นาทีไม่นานเกินไป เดือนหนึ่งเราวิ่ง 10-12 ครั้ง หรือไม่ก็ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ในวันที่เราวาง

ผมตั้งเป้าปีละ 480-500 กม. แต่ปีนี้มีเป้าหมาย 700 กม. ก็ต้องเพิ่มเวลา ถามว่าทำไมต้อง 5 กม. เพราะเราเคยวิ่งเยอะกว่านี้ จากวิ่ง 5กม.แล้วขยับไปวิ่ง 10 กม. เรารู้สึกว่าใช้เวลานานเกินไป ไม่ค่อยสนุก การจะไปให้ถึงจุดหมาย เราก็ต้องจัดตารางให้ดี”

ถามถึงเหตุผลที่ออกกำลังกาย ด้วยการวิ่ง ผู้บริหารซีพีเอฟตอบว่า เพราะเราอยู่บริษัทอาหารก็จะต้องดูแลสุขภาพนิดหนึ่ง (หัวเราะ) จริงๆ เราเริ่มวิ่งมานานแล้ว

ก่อนจะมาที่นี่เราทำซีพี เมจิ มาก่อน ตอนนั้นเราทำไฮโปรตีน เริ่มไปสนับสนุนด้านกีฬา ตอนนั้นเป็นยุคที่คนมาเล่นกีฬากันมาก มาราธอน ช่วงนั้น ปี 14-15 แต่เรามีจุดที่ไปวิ่งหลายที่สวนลุมฯบ้าง ส่วนรถไฟ หรือถ้าวันไหนฝนตก ก็วิ่งลู่แทน

“การเราวิ่ง 5.55 กม. นาน 40 นาที ทำให้เรามีเวลาคิดอะไรหลายๆอย่าง ทำให้หายเครียด การที่เราเลือกวิ่งตอนเช้า เพราะวิ่งเช้าๆเราจะเจอแต่คนที่มาวิ่งจริงๆ แต่ถ้าวิ่งตอนเย็นเราจะเจอทั้งคนมาวิ่ง คนที่มาเดินดูวิว มาถ่ายรูป เจอคนหลากหลาย เราต้องวิ่งหลบคนที่เดินอยู่

พอเราได้วิ่งสม่ำเสมอแล้วหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง ก็รู้ว่าร่างกายดีขึ้น ไม่เป็นหวัดเลย หรือหากเป็นก็เป็นไม่นานก็หาย ไม่ใช่เท่านั้น การวิ่งยังทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่ง ไม่เครียด มีจุดที่เราจะดีลีทความเครียด

เพราะการที่เราวิ่ง 5 กม.นี้ ช่วงแรกเราจะยังคิดวนๆ เรื่องงานอยู่ในช่วง 5-10 นาทีแรก ยังฟุ้งซ่าน แต่หลังจากนั้นเราจะค่อยมาจดจ่อกับการวิ่ง มาโฟกัสกับตัวเอง เราจะเริ่มนับลมหายใจ หายใจเข้าสองที ออกสองที ผมวิ่งไม่ฟังเพลงนะ วิ่งสงบๆ ฟังเสียงรอบๆ เรามีสมาธิกับสิ่งที่เราทำอยู่ตรงหน้า เรื่องทุกอย่างที่เครียดๆ จะค่อยๆหายไปจนหมด ทำให้เรารู้สึกค่อยๆ ผ่อนคลาย”

ความรู้สึกหลังจากการวิ่ง นอกจากผ่อนคลายแล้ว ผลที่ได้ก็คือรูปร่างเริ่มกระชับขึ้น น้ำหนักลดลง น้ำหนักก็ทรงๆ อยู่เท่านี้ ถ้าเราเริ่มอยากให้น้ำหนักลงมากกว่านี้

เราก็มาปรับอาหารการกิน เช่นกาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล น้ำหนักเราก็ลดลงมา 2-3 กม. เพราะวันหนึ่งดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้ว พอลดน้ำตาลก็ดีขึ้นเยอะเลย เราเองก็ศึกษาข้อมูลจากที่ต่างๆ เช่น น้ำตาลทำให้หลอดเลือดอักเสบ และไม่ยืดหยุ่น ผลดีของการออกกำลังกายก็คืออาการเจ็บป่วย ก็จะยากขึ้นด้วย

ถามถึง ภารกิจร่วมส่งไก่ไปอวกาศ โด่ง-สุจริต ตอบว่า เขาทำงานร่วมกับคณะซีอีโอ (ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ) ส่งไก่ไปแล้วเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2568 บินไปส่งถึง NASA Kennedy Space Center แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา กันเลยทีเดียว

“กว่าเราจะพาไก่ไปอวกาศได้ ต้องผ่านมาตรฐานนาซ่า ต่างๆ ซึ่งเราใช้เวลากว่า 2 ปี ในการพัฒนาโครงการนี้ เราก็ทำงานร่วมกับนาซ่า ไก่ที่ส่งไป คนที่กินไก่เราเป็นนาซ่า นักบินอวกาศได้กินอาหารเป็นชิ้น ไม่ได้เป็นหลอดเป็นเม็ด มีอาหารไปอวกาศ เช่น ข้าวบาสมาติ อาหารอินเดีย รัสเซียก็กินอาหารรัสเซีย เพราะเรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญ เพียงแต่ว่าจะต้องทำให้ได้มาตรฐาน ที่เราจะต้องสร้างขึ้นมาให้แมทซ์กับนาซ่า

เราทำแล็ป มี Third Party เรียบร้อย นาซ่าก็ส่งคนมาดู เราก็ต้องทำงานกับคนที่ดูแลเรื่อง นรูทริชั่นนิส ด้วย ต้องมีนรูติชั่นแนลแวลู่ เรื่องอาหารไม่ใช่มีเราทำได้คนเดียว แต่เราก็เป็นคนแรกๆ ที่ทำ ไก่กะเพรา ก็เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของเรา หลายประเทศชอบกะเพราไทย ส่วนไก่ขึ้นไปอวกาศนั้นไปในนามของไก่ไทยนะ”

หากมองภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้ สิ่งที่เป็นห่วงหลักๆเลยก็คือเรื่องต้นทุนราคาน้ำมัน เพราะเรื่องอิสราเอส-ปาเลสไตน์ เพราะสงครามมา ช่องแคบฮอร์มุส ปิดก็มีผลกระทบเยอะ ก็มีเตรียมการ ปรับรูทติ้งการขนส่ง เพราะเรามีทีมดูแลเรื่องนี้ เรามีแผนรองรับ เหมือนเช่นกรณีที่ 2 ปีที่แล้ว ปัญหารัสเซีย-ยูเครน และแถบทะเลดำ ตอนนั้นทุกคนงง ส่วนเราก็มีโซลูชั่นของเรา เป็นโมเดลที่ทุกฝ่ายวิน-วิน

ซึ่งตอนนี้การค้าตลาดในประเทศ 60% ตลาดต่างประเทศ 40% เรามีฐานการผลิตอยู่ใน 14 ประเทศ ขายไปยังประเทศต่างๆ มากกว่า 50 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา สแกนดิเนเวีย ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศไหนก็ขายในประเทศนั้น อย่างสหรัฐ ก็มีโรงงานผลิตในสหรัฐที่ขายในประเทศอยู่แล้ว และสินค้าอาหารสดบางชนิดยังไม่สามารถเข้าไปทำการตลาดได้ เราก็ทำอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน

“ถามว่าเจอภาษีทรัมป์มีอะไรรู้สึกเป็นห่วงไหม จริงๆ ไม่น่าเป็นห่วงเพราะเราส่งไปอเมริกาไม่เยอะ เพราะเรามีโรงงานที่อเมริกาเอง ส่วนใหญ่ผมว่าไม่ได้กระทบ”

กลับมาถามถึงเรื่อง ไลฟสไตล์ ต่ออีกสักนิด อยากถามถึงหนังสือเล่มล่าสุดที่คุณโด่งอ่านคือเรื่องอะไร ?

ผู้บริหารซีพีเอฟ ตอบว่า หนังสือ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์

“สิ่งที่ได้ก็คือ อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เขาบอกว่าวิชั่นคนเราอย่าไปเซ็ทให้มันยากเกินไป มันจะมี 3 ปี 5 ปี สุดท้ายเราจะถึงวิชั่นได้ถ้ามี discipline (วินัย) และ Consistency (ความสม่ำเสมอ) เราจะไขว์คว้าหาความรู้จนสำเร็จได้ แต่เราจะปรับอย่างไร ให้มีเป้าหมายชัดเจนและทำให้ได้จริงๆ

ส่วนอีกเล่มก็จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับนักวิ่งมาราธอน วิ่ง 100 ไมล์ เป็นแชมป์ 3 สมัย เขาบอกกินอะไร ทำไมต้องกินแบบนี้ เขาเป็นมังสวิรัติ เพราะเอนไซม์ในร่างกายมันย่อยของพวกนี้ได้ดี

และเขาจะเล่าให้ฟังว่าระหว่างวิ่ง 10 กม.แรก คิดอะไร และ 60 ไมล์ (คูณ 1.5 แปลงเป็นกม.) คิดอะไร เขาจะบอกว่าเริ่มหลอน เพราะร่างกายมันเหนื่อยใช้น้ำไปเยอะ เขาพยายามคิดถึงเรื่องครอบครัว บียอนซ์ไป

ผมว่าเราจะทำอะไรวาง Goal ไว้ ร่างกายมันทำตาม Goal ที่เราคิด เพราะร่างกายคนเรามันเสามารถปรับตัวไปได้ การปรับตัวไปสู่เป้าหมายเป็นกลไกของร่างกายอยู่แล้ว เราไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร แต่เราต้องทำให้ได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

จาก “วิกฤติ” สู่‘โรงแรมยั่งยืน’ 600ห้อง ภายใต้ผู้นำรุ่นใหม่ ‘หยี่เต้ง ฮอสพิทาลิตี้’

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รฟท. - กทท. เดินหน้าความร่วมมือ ดันขนส่งสินค้าทางรางพุ่ง 2 ล้านตู้

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

HMC Polymers ลุยออกหุ้นกู้ ส.ค.นี้ รับเทรนราคาปิโตรฯ ขาขึ้น

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รฟท. ชงแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ เดินหน้าปี 69 เร่งรายได้เชิงพาณิชย์

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

"หยู้ ทิง หย้วน" ต้อนรับเทศกาลแห่งความผูกพัน เปิดตัวคอลเลกชันขนมไหว้พระจันทร์ปี 2025

Manager Online

Podcast ไม่ใช่แค่เล่าเรื่อง: ศิลปะของการฟังในยุคที่เสียงสำคัญ

TOJO NEWS

ไปเดินตลาดนัด: เรื่องเล่าจากของมือสองถึงวัฒนธรรมร่วมสมัย

TOJO NEWS

จาก “วิกฤติ” สู่‘โรงแรมยั่งยืน’ 600ห้อง ภายใต้ผู้นำรุ่นใหม่ ‘หยี่เต้ง ฮอสพิทาลิตี้’

กรุงเทพธุรกิจ

กยศ. แจ้งความคืบหน้า คำนวณยอดหนี้ใหม่ พร้อมเร่งตรวจสอบก่อนนำขึ้นระบบ

MATICHON ONLINE

NCTzen ไทยเตรียมพบกับ “SF x NCT 127 Topper Cup COMBO SET” สะสมก่อนใครได้ที่เอสเอฟ!

Insight Daily

การบินไทยจะเหมือนเดิมไหม? กลยุทธ์ที่ทำให้การบินไทยกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ พร้อมรายได้ทะยานแสนล้าน

Capital

ว่าด้วยเครื่องบิน สงคราม และบาดแผลเบื้องหลังหายนะในงานของสตูดิโอจิบลิ

The MATTER

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...