โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

วิกฤติแบรนด์นอกในจีน ยอดขายวูบ แห่ปิดสาขา สังเวยยุคเศรษฐกิจซบเซา

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอนิ่งโพสต์ รายงานว่ากำลังเกิดปรากฏการณ์แบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกกำลังปิดสาขาทั่วประเทศใน “จีน” สะท้อนแนวโน้มของแบรนด์ต่างชาติที่กำลังถอนตัวจากตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยหันมาให้ความสำคัญกับสินค้าที่ใช้งานได้จริง และคุ้มค่ามากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้แบรนด์ท้องถิ่นจีนสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น

Pandora จ่อปิด 100 สาขา

Pandora แบรนด์เครื่องประดับชื่อดังจากเดนมาร์ก ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มียอดขายสูงถึง 100 ล้านชิ้นต่อปี กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ โดยแบรนด์ได้ประกาศเมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 ที่ผ่านมาว่า จะเพิ่มแผนการปิดร้านค้าในจีน จากเดิม 50 สาขา เป็น 100 สาขา ภายในปีนี้

การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยรายงานประจำปีของ Pandora ระบุว่า ยอดขายในจีนเคยพุ่งสูงสุดในปี 2562 ด้วยตัวเลข 1.97 พันล้านโครนเดนมาร์ก หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่หลังจากเกิดวิกฤติโรคระบาด ยอดขายก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง

  • ปี 2564 : ยอดขายลดลงเหลือ 5.71 พันล้านบาท
  • ปี 2565 : ลดลงอีกเหลือ 3.74 พันล้านบาท
  • ปี 2566 : ลดลงเหลือ 2.86 พันล้านบาท
  • ปี 2567 : ยอดขายเหลือเพียง 2.11 พันล้านบาท หรือลดลงเหลือไม่ถึง 1 ใน 4 ของยอดขายสูงสุดในปี 2562

Vicky Wang จากมณฑลเจียงซู หนึ่งในลูกค้าประจำของ Pandora เปรียบเทียบเครื่องประดับเหล่านี้ว่าเป็นสินค้าแฟชั่นที่ซื้อตามกระแสมากกว่าสินทรัพย์ที่สามารถเก็บสะสมเพื่อเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้ สะท้อนความสนใจผู้บริโภครุ่นใหม่จำนวนมากกำลังเปลี่ยนไปสู่การลงทุนที่ปลอดภัย

“ผมเริ่มหมดความสนใจแล้ว เพราะเมื่อเทียบมูลค่ากับทองคำแล้ว Pandora ขายต่อไม่ได้เลย” Wang กล่าว

อย่างไรก็ดี Pandora ซึ่งไม่ได้ตอบกลับทันทีต่อคำขอความคิดเห็นผ่านอีเมลของสำนักข่าว

แบรนด์ต่างชาติแห่ถอนตัวจาก ‘จีน’

นอกจากแบรนด์เครื่องประดับแล้ว ก่อนหน้านี้แบรนด์ไลฟ์สไตล์มินิมอลชื่อดังจากญี่ปุ่นอย่าง มูจิ (MUJI) กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในจีนเช่นเดียวกัน โดยมีรายงานว่าหลายสาขาในเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ซูโจว และฉางซา รวมถึงมณฑลเจ้อเจียงได้ทยอยปิดตัวลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

โลกออนไลน์ของจีนกำลังพุ่งเป้าไปที่มูจิ โดยผู้บริโภคหลายรายวิพากษ์วิจารณ์ว่าสินค้าของแบรนด์นี้มีราคาแพงเกินไป และคุณภาพไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ทางมูจิจะยังไม่ได้ให้ความเห็นโดยตรงต่อเรื่องนี้ แต่สำนักข่าว China Business Network ได้รายงานว่าการปิดร้านค้าบางแห่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

ขณะเดียวกัน หลายบริษัทต่างชาติก็กำลังทยอยปิดสาขาในจีนเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ธุรกิจเหล่านี้กำลังเผชิญอยู่ในตลาดจีน

แบรนด์ต่างชาติที่ถอนตัวจากตลาดจีน

  • แบรนด์เสื้อผ้า และแฟชั่น คือ GU (ในเครือ Fast Retailing Group) จากญี่ปุ่น และ Zara จากสเปน
  • แบรนด์ความงาม และสกินแคร์ คือ Aesop จากออสเตรเลีย และ Decorte จากญี่ปุ่น
  • เครือร้านค้าปลีก คือ Walmart จากสหรัฐอเมริกา และAeon จากญี่ปุ่น

การถอนตัวของแบรนด์ดังเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในตลาดจีนมีความรุนแรงมากขึ้น และผู้บริโภคชาวจีนมีทางเลือกที่หลากหลายจากแบรนด์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพและราคาที่คุ้มค่ากว่า

แบรนด์จีนผงาด ชิงส่วนแบ่งตลาด

จากการสำรวจ China Shopper Report 2025 ที่จัดทำโดย Bain & Company และ Worldpanel พบว่าแบรนด์ท้องถิ่นของจีนกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดจากแบรนด์ต่างประเทศได้มากขึ้นเรื่อยๆ

รายงานล่าสุดระบุว่า ส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ภายในประเทศได้เพิ่มขึ้นจาก 66% ในปี 2555 จนแตะ 76% ในปี 2567 ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา

  • ปี 2555 : 66%
  • ปี 2564 : 73%
  • ปี 2565 : 74%
  • ปี 2566 : 75%
  • ปี 2567 : 76%

ตลาดกำลังเข้าสู่ยุค ‘ราคาประหยัด’

นักวิเคราะห์ชี้ว่าการที่แบรนด์ต่างชาติหลายแห่งต้องถอนตัวจากตลาดจีน มีสาเหตุมาจากปัจจัยหลัก 2 ประการคือ การลดลงของการใช้จ่ายของผู้บริโภคท่ามกลางภาวะเงินฝืด และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีน

เฉิน ลี่ผิง ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแคปิตอลด้านเศรษฐศาสตร์และธุรกิจให้ความเห็นว่า ในทศวรรษข้างหน้าจะเป็นยุคของ "การค้าปลีกราคาประหยัด" ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญที่กำลังจะมาถึงสำหรับหลายบริษัท สถานการณ์ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่ความท้าทายในการดำเนินงาน แต่เป็นเรื่องของการอยู่รอดว่าบริษัทเหล่านั้นจะสามารถปรับตัวและเอาตัวรอดในตลาดจีนได้หรือไม่

ขณะเดียวกัน ตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนเองก็สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายนี้เช่นกัน จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนก.ค.ที่ยังทรงตัวจากปีก่อนหน้า และภาวะเงินฝืดของผู้ผลิตยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศของจีนยังคงอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ

อ้างอิง scmp

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

OPPO แถลงการณ์สวน! สยบข่าว Apple ฟ้อง OPPO "คดีไม่เกี่ยวกับบริษัท"

28 นาทีที่แล้ว

‘สมศักดิ์’ เผย จ่อคุมเข้ม ‘กระท่อม’ ห้ามต้มผสมยาแก้ไอ ขายข้างทาง

46 นาทีที่แล้ว

เปิดตัว ดร.ชญานันท์ ปลัดใหม่ ทส. ประเดิมงานแรก SX2025 ชวนพลิกวิกฤติโลกเดือด

55 นาทีที่แล้ว

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐ เริ่มพก 'ปืน M17 - ไรเฟิล M4' ลาดตระเวนวอชิงตัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

เสียของที่สุดในโลก! ส่วนนี้ของ "สับปะรด" ที่มักถูกทิ้ง จริงๆ แล้วมีสรรพคุณสารพัด

sanook.com
วิดีโอ

เขมรคบไม่ได้! ล่าสุด บุกรื้อลวดหนามพร้อมเข้าประชิดทหารไทย2

THE ROOM 44 CHANNEL

อังกฤษเลื่อนการตัดสินเรื่องสถานทูตจีน หลังปักกิ่งกั๊กรายละเอียดแผนการ

เดลินิวส์

เตือนภัย "ท่านอน" เสี่ยงอัมพาต หนุ่มวัย 19 ทำเป็นนิสัย เลือดคั่งกดทับไขสันหลัง

sanook.com

ไต้ฝุ่น “คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนาม อพยพประชาชนแล้วกว่า 586,000 คน

เดลินิวส์

แชมป์โอลิมปิก 100 เมตรไม่ลงสนามชิงแชมป์โลก

AFP

สื่อนอกรายงาน สวีเดน ลงนามขาย 'กริพเพน' 4 ลำ ให้ไทยแล้ว ชี้ยินดีต้อนรับ ผู้ใช้งานรายใหม่

MATICHON ONLINE

‘รัสเซีย–ยูเครน’ แลกตัวเชลยศึกฝ่ายละ 146 คน โดยมี ‘สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์’ ทำหน้าที่สักขีพยาน

THE STATES TIMES

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...