จับยกแก๊ง! ส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางหลอกลวงประชาชน 1.2 แสนครั้ง สูญ 43 ล้านบาท
ตัดวงจรอาชญากร “ส่งด่วน” ตำรวจภูธรภาค 2 จับยกแก๊ง ซิวหัวโจกคนจีน ส่งพัสดุสินค้าออนไลน์ หลอกให้จ่ายเก็บเงินปลายทาง กว่า 120,000 ครั้ง
7 สิงหาคม 2568 - พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ท.อิทธิพร โพธิ์ทอง ผทค.พิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง แถลง ตำรวจสืบภาค 2 ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ร่วมทลายเครือข่ายคนจีนทำผิดกฎหมาย ตั้งแก๊งอาชญากร “ส่งด่วน” ยัดเยียดให้ซื้อสินค้า โดยส่งพัสดุสินค้าออนไลน์ถึงบ้านทั้งที่ไม่มีการสั่งซื้อจริง แล้วหลอกเก็บเงินปลายทาง
โดยสินค้าส่วนใหญ่ไร้คุณภาพ เหยื่อบางรายได้รับของที่ใช้แล้ว ตรวจสอบพบว่า ในช่วงเวลา 4 เดือน มกราคม – เมษายน 2568 แก๊งนี้ส่งสินค้าออนไลน์หลอกเก็บเงินปลายทางไปทั่วประเทศแล้วกว่า 120,000 ครั้ง หากส่งสำเร็จทั้งหมดจะมีมูลค่าความเสียหายรวม กว่า 43 ล้านบาท ทั้งนี้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ 7 คน จับกุมได้แล้ว 6 คน เป็นชาวจีน 2 คน เป็นเจ้าของ ผู้สั่งการ รับผลประโยชน์ และคนไทยร่วมทำผิดอีก 4 คน
ผบช.ภ.2 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากการตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ตำรวจสืบภาค 2 ร่วมกับ สภ.เมืองระยอง และฝ่ายปกครองจังหวัดระยอง ได้เข้าตรวจค้นโกดังพบของกลางสำคัญจำนวนมาก อาทิ รถบรรทุก เครื่องแพ็กสินค้า กระสอบพัสดุตีกลับ กระสอบพัสดุรอจัดส่ง สติ๊กเกอร์ LABEL ของบริษัทขนส่งรายใหญ่ ระบุชื่อผู้ส่ง – ผู้รับ พร้อมได้จับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายซึ่งได้ลักลอบทำงานอยู่ในสถานที่ดังกล่าวจำนวน 3 ราย
จากนั้นตำรวจภูธรภาค 2 ขยายผลต่อพบว่า โกดังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า ของแก๊งอาชญากรส่งพัสดุสินค้า เช่น รองเท้า, ยาสีฟัน, เสื้อผ้า ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ ส่งไปยังประชาชนทั่วประเทศ ทั้งที่ไม่มีการสั่งซื้อจริง โดยแอบอ้างชื่อผู้รับจากฐานข้อมูลลูกค้าเดิม และใช้บริการจัดส่งแบบเก็บเงินปลายทาง หรือ Cash On Deliverly (COD) สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน ใช้เล่ห์กลโดยส่งสินค้าราคาไม่สูงอยู่ในหลักร้อยทำให้เหยื่อหลงเชื่อและชำระเงินค่าพัสดุโดยง่าย รวมความเสียหายตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 19 เมษายน 2568 ส่งของสำเร็จมีเหยื่อยอมจ่ายเงิน รวม 12,740 ครั้ง มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท จากความพยายามในการส่งของไปยังประชาชนทั่วประเทศกว่า 120,000 ครั้ง
พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องรวม 7 ราย ได้แก่ 1.นายหยัง สัญชาติจีน ทำหน้าที่ ผู้สั่งการ, ผู้รับผลประโยชน์ 2.นายหวัง สัญชาติจีน เป็นผู้รับผลประโยชน์ 3.นางหยาง สัญชาติจีน เป็นผู้รับผลประโยชน์
4.นางสาวกรรณิกาฯ สัญชาติไทย ทำหน้าที่เปิดสัญญาขนส่งสินค้า VIP 5.นางสาวอภิรญาฯ สัญชาติไทย ทำหน้าที่เปิดสัญญาขนส่งสินค้า VIP 6.นางสาววณิกรณ์ฯ สัญชาติไทย ทำหน้าที่ควบคุมการแพ็กสินค้า 7.นางเนตรนภาฯ สัญชาติไทย ทำหน้าที่ ล่ามแปลภาษาถ่ายทอดคำสั่งของนายหยัง
ตำรวจภูธรภาค 2 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 6 ราย ทั้งผู้สั่งการ ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ร่วมขบวนการ ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ส่วน นางหยาง ขณะนี้อยู่ระหว่างการออก หมายแดง หรือ Red Notice โดยจะประสานกับหน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ผบช.ภ.2 กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ช่องโหว่ของระบบ “เก็บเงินปลายทาง” ทำให้ประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ ดังนั้นขอย้ำเตือนให้ประชาชนตรวจสอบทุกครั้งก่อนรับพัสดุ โดยเฉพาะหากไม่ได้สั่งซื้อของจากที่ใด อย่ารับ อย่าจ่ายเด็ดขาด และอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนร้ายไม่เกรงกลัว เพราะมูลค่าความเสียหายของเหยื่อแต่ละรายเพียงหลักร้อย ทำให้เหยื่อไม่อยากแจ้งความ อาชญากรเหล่านี้ได้ใจ ก่อเหตุซ้ำ ๆ ดังนั้นขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนหากเกิดเหตุเช่นนี้ พบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือโทร 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง