ความสำคัญของวัฒนธรรมต่อการเลือกผู้นำในธุรกิจครอบครัว
ในยุคที่โลกหมุนเร็วกว่าเคย การเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกธุรกิจต้องเผชิญ แต่ในท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ “ธุรกิจครอบครัว” กลับยังคงเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก และสิ่งที่ครอบครัวส่งต่อกันไม่ใช่แค่ทรัพย์สินหรือกิจการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณค่าทางจิตวิญญาณ (ethos) ที่สั่งสมมาตลอดหลายรุ่น ซึ่งปรากฏผ่านความไว้วางใจ ความจงรักภักดี และความรับผิดชอบต่อสังคม
คุณค่าดังกล่าวกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ฝังลึกอยู่ในวิธีคิดและวิธีทำงานของทุกคนในองค์กร ซึ่งวัฒนธรรมนี้เองคือสิ่งที่ช่วยเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนผู้นำ
ผู้นำที่ใช่…ไม่เพียงแค่เก่ง แต่ต้องเข้ากับวัฒนธรรม
การเติบโตของธุรกิจครอบครัวในระยะยาวจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์หรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ยังอยู่ที่การเลือก “ผู้นำ” ให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์กรอย่างแท้จริงด้วย
วัฒนธรรมองค์กรในธุรกิจครอบครัวไม่สามารถเขียนลงบนกระดาษได้ทั้งหมด แต่แสดงออกผ่านการตัดสินใจเล็กๆ การสื่อสารภายในทีม และวิธีการเผชิญวิกฤตต่างๆ การเฟ้นหาผู้นำจึงไม่ใช่แค่ดูจากประวัติการทำงานหรือดีกรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ต้องประเมินความเข้าใจในบริบทของครอบครัวและความเคารพต่อรากเหง้าทางวัฒนธรรมด้วย
ผู้นำจากภายนอก คือโอกาสที่มาพร้อมความท้าทาย
ในโลกที่แข่งขันสูงธุรกิจครอบครัวหลายแห่งเริ่มเปิดกว้างมากขึ้นในการนำมืออาชีพจากภายนอกเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามการเปิดรับผู้นำที่ไม่ได้เติบโตมากับค่านิยมของครอบครัวนั้นอาจเป็นดาบสองคมได้เช่นกัน
หากไม่มีการเตรียมพร้อมหรือสะพานเชื่อมระหว่างรุ่น การเปลี่ยนผู้นำก็อาจกลายเป็นชนวนของความขัดแย้ง ความไม่ไว้วางใจ หรือการตัดสินใจที่ไม่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ดั้งเดิม เป็นต้น รวมถึงผู้นำจากภายนอกที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมองค์กรอาจต้องเผชิญกับแรงต้านที่มองไม่เห็น และนั่นอาจนำไปสู่ความล้มเหลวเชิงกลยุทธ์ได้
วัฒนธรรมคือสิ่งที่ต้องส่งต่อ ไม่ใช่แค่ตำแหน่ง
แม้หลายครอบครัวจะมีแผนการสืบทอดธุรกิจในระดับตำแหน่งและโครงสร้างอยู่แล้ว แต่สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือการส่งต่อวัฒนธรรมซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรมีเอกลักษณ์และความยั่งยืน
โดยองค์ประกอบสำคัญของการส่งต่อวัฒนธรรม ได้แก่ การสื่อสารอย่างเปิดเผย ความโปร่งใส และการมีระบบพี่เลี้ยง (mentoring) ที่ช่วยให้ผู้นำรุ่นใหม่เข้าใจรากฐานขององค์กรอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกครอบครัวหรือผู้บริหารจากภายนอก ทุกคนล้วนต้องเรียนรู้ภาษาที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรนี้
ผู้นำที่เคารพวัฒนธรรม…ดีกว่าผู้นำที่พยายามเปลี่ยนวัฒนธรรม
ธุรกิจครอบครัวที่มีความยั่งยืนยาวนานให้บทเรียนอันล้ำค่าว่า การเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับอดีต หากวัฒนธรรมเป็นเหมือนเข็มทิศที่ช่วยนำทางให้การเปลี่ยนแปลงดำเนินไปอย่างมีทิศทาง ดังนั้นการเลือกผู้นำที่เข้าใจบริบทองค์กร เคารพในคุณค่าที่สั่งสมมายาวนาน และพร้อมจะปรับตัวอย่างยืดหยุ่น จึงเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารในยุคที่โลกไม่เคยหยุดนิ่งนี้
ที่มา: Floros, N. (2024, December 23). Cultural fit and leadership in family‑owned companies. CFR Global Executive Search. https://www.cfr-group.com/cultural-fit-and-leadership-in-family-owned-companies