ถอดรหัส “ศิลาวดี สมุย” จากผู้ผลิตแอร์ สู้ศึกอินเตอร์เชน ก้าวสู่ท็อปลิสต์ รีสอร์ทหรู

จากผู้ผลิตแอร์ แตกไลน์สู่ธุรกิจรีสอร์ทหรู

จุดเริ่มต้นของ ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท เกาะสมุย เกิดจากวิสัยทัศน์ของคุณพ่อ (ณรงค์ศักดิ์ สุนทรวสุ) ผู้ก่อตั้งอีมิเน้นท์ แอร์ (Eminent Air) เครื่องปรับอากาศแบรนด์ไทย ที่เห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวไทยยังไปได้อีกไกล บวกกับคุณพ่อเป็นนักเดินทาง และมักซื้อที่ดินในโลเคชั่นต่างๆเก็บไว้

รวมถึงเกาะสมุย พอหลังเกิดสึนามิฝั่งอันดามันปี 2547 ปรากฏว่าเกาะสมุยบูมมาก มีคนมาติดต่อขอซื้อที่ดินจากคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อมองว่า แทนที่จะขายที่ดินได้เงินก้อนแล้วจบ ไม่สู้พัฒนาที่ดินของตัวเอง เพื่อเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ เลยตัดสินใจมาทำธุรกิจโรงแรม บนพื้นที่ 7 ไร่ ลงทุน 300 ล้านบาท

ด้วยความที่ครอบครัวไม่ได้มีแบ็กกราวด์ ในธุรกิจโรงแรมมาก่อน และคุณพ่อก็ไม่ได้คิดว่าจะให้เชนโรงแรมเข้ามาบริหาร การตัดสินใจทุกอย่างเลยไม่อยู่ในกรอบใดๆ อาศัยประสบการณ์ในฐานะนักเดินทาง และวิธีคิดในมุมของลูกค้า เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมพูล วิลล่า ของ ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท นอกจากจะออกแบบให้มีสเปซกว้างขวาง ยังมาพร้อมสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สามารถว่ายน้ำได้เลย

อีกหนึ่งข้อดีที่กลายเป็นจุดเด่นของศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท คือ พอออกแบบโดยไม่มีข้อจำกัด ทำให้สามารถทำตามคอนเซ็ปต์ “หวนคืนสู่ธรรมชาติ” (Back to the nature) ได้เต็มที่ เพราะด้วยความที่โลเคชั่นของโรงแรมมีหินเยอะมาก (เลยกลายเป็นที่มาของชื่อ ศิลาวดี) และยังเป็น Cliff View ที่มีการไล่ระดับ มีพื้นที่บางส่วนติดหาด

ทำให้ช่วงแรกๆ ที่จะพัฒนาที่ดินตรงนี้ ก็มีคนแย้งว่า แลนด์สเคปแบบนี้ นักท่องเที่ยวไม่น่าชอบ แต่คุณพ่อกลับคิดต่าง มองว่า การเป็น Cliff View ทำให้ศิลาวดีฯ ยิ่งมีความแตกต่าง และทุกห้องพักมองเห็นวิวทะเลได้ ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ติดหาดให้พักผ่อน

คุณพ่อยังเลือกรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่หรือก้อนหินใหญ่ทุกก้อนและสภาพภูมิประเทศเดิมมากที่สุด ห้องพักของเราอาจจะไม่ได้เหมือนกันเป๊ะ 100% หรือ อย่าง วิวของแต่ละห้องก็แตกต่าง แต่กลายเป็นทำให้ลูกค้าประจำเขาสนุกกับการมาเข้าพัก และเปลี่ยนห้องไปเรื่อยๆ

ในด้านการบริหาร จริงๆ ก็มีเชนโรงแรมหลายแห่งที่ติดต่อเข้ามา แต่คุณพ่อชัดเจนตั้งแต่วันแรกว่า จะเป็นโรงแรมไทย ที่บริหารโดยคนไทย ถึงจะไม่เคยทำโรงแรมมาก่อน แต่ถือคติว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อยากลองทำด้วยตัวเองให้ดีที่สุดก่อน

ต้องบอกว่าความมุ่งมั่นของคุณพ่อก็จุดประกายให้เรา ในฐานะคนทำงานไปด้วยว่าอยากจะพัฒนาระบบที่ได้มาตรฐานของตัวเอง เพราะคนไทยขึ้นชื่อเรื่อง Service Mind อยู่แล้ว ตอนนั้นถามว่าจะทำได้ไหม ไม่รู้ รู้แค่ต้องลอง โดยเราก็ต้นตั้งจากการสร้างทีม เพราะธุรกิจโรงแรม คนคือหัวใจสำคัญ เราจ้างหัวหน้าทีมที่มีประสบการณ์มาทำงาน สร้างวัฒนธรรมการทำงาน และมาตรฐานในการให้บริการในแบบของเรา

จนวันนี้ผ่านมา 17 ปี เราคิดว่าเรามาถูกทาง และกลายเป็นจุดแข็งของ ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท ที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะเทรนด์การท่องเที่ยวยุคนี้ ที่นักท่องเที่ยวมองหาโรงแรมที่มีความเป็นโลคัล ไม่ใช่ International Chain แต่ในช่วงแรกๆ ก็ต้องยอมรับว่า การเป็นโลคัล แบรนด์ อาจจะยากในการตีตลาด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ แต่สุดท้ายถ้าโปรดักซ์ดี โลเคชั่นใช่ ยังไงก็ไปต่อได้

ทุ่ม 300 ล้านต่อยอดลงทุนต่อเนื่องขยายธุรกิจ

จากการลงทุนสร้างโรงแรมในเฟสแรก บนพื้นที่ 7 ไร่ ด้วยการสร้าง 19 วิลลา ต่อมาเราได้ขยายพื้นที่อีก 3 ไร่ สร้าง 25 วิลลา ลงทุน 200 ล้านบาท ล่าสุดเราได้ขยายพื้นที่ 3 ไร่ ลงทุน 250 ล้านบาท สร้าง 18 วิลลา เปิดให้บริการปี 2570 เนื่องจากเราพบเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป นับตั้งแต่เกิดโควิด -19 และทำให้เกิดเทรนด์การทำงานจากที่ไหนก็ได้ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวนานขึ้นจาก 3 คืน เป็น 5-7 คืน

อีกเทรนด์ที่เห็นชัดเจน คือ นักท่องเที่ยวยุคนี้ ไม่ได้มีแต่กลุ่มคู่รัก แต่นิยมเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่หรือมากันเป็นกลุ่มเพื่อน นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ในปีนี้ ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท ตัดสินใจทุ่มงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อสร้างพูลวิลล่า เฟสใหม่ อีก 18 หลัง ที่มาพร้อมห้องพักขนาด 2, 3 และ 4 ห้องนอน บนพื้นที่ 3 ไร่ เพื่อรองรับดีมานด์ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

คอนเซ็ปต์หลักเรายังอิงกับแนวคิด Back to the nature แต่เพิ่มความโมเดิร์นเข้าไป พร้อมตีความนิยามของลักซ์ชัวรี่ใหม่ เพราะเรามองว่าความลักซ์ชัวรี คือ การมีสเปซ ความเป็นส่วนตัว และความสะดวกสบาย เราจึงสร้างพูลวิลล่าที่มีสเปซใหญ่ขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไปตอบโจทย์ในห้องพัก

ขณะเดียวกันยังมอบความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบ เพราะเพียงเดินออกมายังระเบียง ก็จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของความเป็นธรรมชาติ ที่เราพยายามรักษาไว้ มีสระส่วนตัวในพูลวิลล่า ที่เราตั้งใจออกแบบให้มีความยาว 12 เมตร สามารถดื่มด่ำกับความเป็นส่วนตัวในการว่ายน้ำได้โดยไม่ต้องมาใช้สระส่วนกลาง

นอกจากนี้ เพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น เรายังมีการรีโนเวทร้านอาหาร The Height ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดดเด่นด้วยเมนูอาหารไทยและอาหารใต้ต้นตำรับที่สะท้อนรสแท้ของวัตถุดิบท้องถิ่น พร้อมปรับปรุงฟิตเนสให้กว้างขวาง มาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย และสปาที่ได้รับการตกแต่งใหม่อย่างพิถีพิถัน เพิ่มห้องทรีตเมนต์

สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของเกาะสมุย จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 90% แต่ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท กลับเลือกที่จะรักษาสัดส่วนของฐานลูกค้าไว้ที่ ต่างชาติ 80% คนไทย 20%

“โจทย์ที่คุณพ่อให้ตั้งแต่วันแรก คือ ให้เจาะทุกตลาด เพราะมองว่า ถ้าโฟกัสแค่ตลาดใดตลาดหนึ่งจะเสี่ยงเกินไป ดังนั้นในฝั่งลูกค้าต่างชาติ เราไม่ได้เน้นเฉพาะยุโรป อย่าง ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ หรือสวิสเซอร์แลนด์ แต่เราจับกลุ่มเอเชีย รวมถึงคนไทยด้วย โดยมีฐานลูกค้าคนไทยในพอร์ตประมาณ 20% มาตลอด ซึ่งฐานลูกค้าคนไทยนี้เองช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 มาได้ จนพอสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราก็ขยายตลาดเพิ่ม ไปยังซาอุดิอาระเบีย ตะวันออกกลาง รวมถึงสหรัฐฯ โดยช่องทางที่ลูกค้าเข้ามาหาเรา มีทั้งจองตรงกับโรงแรม และผ่านเอเย่นต์”

ปัจจุบัน ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท เกาะสมุย” ประกอบด้วยห้องพักทั้งสิ้น 80 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักประเภทดีลักซ์ขนาด 50 ตารางเมตร จำนวน 36 ห้อง พูลวิลล่าจำนวน 40 หลัง และพูลวิลล่าสวีท จำนวน 4 หลัง หลังจากการเปิดตัวเฟสใหม่ ชลลดา คาดว่า จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ที่มีการเติบโตต่อเนื่องปีละ 12-15% โดยคาดว่า หลังจากเปิดเฟสพูล วิลล่า เฟสใหม่ จะดันรายได้แตะ 500 ล้านบาท และเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจจะยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการขยายตัวของเกาะสมุย

ดันธุรกิจเติบโตบนวิถีแห่งความยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา แม้การเติบโตทางธุรกิจของศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท ทั้งในเชิงรายได้ และเสียงตอบรับจากแขกที่มาเข้าพักจะเป็นไปอย่างน่าพอใจ มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) อยู่ที่ 80% และมีลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซ้ำเป็นจำนวนมาก แต่อีกหนึ่งหัวใจที่ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท ให้ความสำคัญ ไม่แพ้กัน คือ แนวคิดในการทำธุรกิจบนวิถีแห่งความยั่งยืน (Sustainability)

เราคิดเสมอว่า เรามาทำธุรกิจอยู่ที่เกาะสมุย นอกจากเราจะมาสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เราก็ต้องมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อการเติบโตของสมุย ซึ่งเราให้ความสำคัญมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มก่อสร้าง ที่นอกจากจะพยายามรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด ยังเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในด้านการบริหารจัดการภายในโรงแรม เรามีการแยกขยะ และนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) มาใช้ เนื่องจากเรามองว่าธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจที่สร้างขยะอาหารจำนวนมาก (food waste) เราเลยต้องมีการจัดการขยะอาหารให้ถูกวิธี

โดยเรามีการทำฟาร์ม เพื่อปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ โดยนำขยะอาหารมาเป็นอาหารสัตว์ และนำมูลที่ได้จากสัตว์บางส่วนมาทำปุ๋ยสำหรับแปลงผัก เพื่อป้อนให้ทางโรงแรม พร้อมกันนี้ยังสนับสนุนชุมชน ด้วยการสนับสนุนสินค้าของชุมชน ทั้งในส่วนของวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร หรือ อย่างกาละแม ที่เราให้บริการแขกในห้องพัก รวมทั้งเครื่องจักรสานต่างๆ เราก็เลือกใช้ของในท้องถิ่น

ผลจากความมุ่งมั่นนี้เอง ไม่เพียงทำให้ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท สามารถคว้ามาตรฐาน ISO 22000:2018 ในด้านระบบบริหารความปลอดภัยของอาหาร แต่ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกในเกาะสมุยที่ได้รับการรับรองระดับ Gold จาก Travelife ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน

“การได้รับรางวัลนี้ว่ายากแล้ว แต่การจะรักษามาตรฐานนี้ต่อไปเรื่อยๆ ยากกว่า แต่เราเชื่อว่าไม่เกินความพยายาม ที่เราในฐานะโรงแรมคนไทย ที่บริหารโดยคนไทยตั้งใจสร้างมาตรฐานตรงนี้ให้เกิดขึ้น เพื่อให้โรงแรมของเรามีมาตรฐานที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่าเชนโรงแรมอื่นๆ เพราะเป้าหมายในระยะยาวของเรา คือ การเป็นเชนโรงแรมของคนไทยที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก นึกถึงสมุยต้องนึกถึงศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท และถ้าในอนาคต เราเล็งเห็นโอกาสอาจจะมีการขยายไปยังหัวเมืองอื่นๆ ที่ครอบครัวมีที่ดินอยู่แล้ว เช่น เชียงใหม่ และ เขาใหญ่” ชลลดากล่าวทิ้งท้าย

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,110 วันที่ 3 - 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568