ทำเนียบขาวเปิดการปรับเปลี่ยนอัตราภาษีตอบโต้เพิ่มเติม
เปิดรายชื่อ 70 ประเทศ-ดินแดน “สหรัฐ” เก็บภาษีนำเข้าใหม่ สูงสุด 41% “ไทย” โดน 19% ส่วนเมียนมา-ลาวโดนหนัก 40%
วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เว็บไซต์ทำเนียบขาวรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อปรับอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ โดยมีอัตราภาษีใหม่สูงสุดถึง 41% ซึ่งมีผลต่อหลายสิบประเทศทั่วโลก พร้อมบทลงโทษรุนแรงต่อการหลีกเลี่ยงภาษีผ่านการ“เปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้า” หรือ transshipment
คำสั่งฉบับนี้เป็นการแก้ไขและขยายผลจากคำสั่งเดิม Executive Order 14257 ลงวันที่ 2 เมษายน 2025 ซึ่งประธานาธิบดีได้ประกาศให้ “การขาดดุลการค้าสินค้าของสหรัฐฯ อย่างเรื้อรังและเป็นวงกว้าง” เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยถือเป็น ภาวะฉุกเฉินระดับชาติ (national emergency)
ทรัมป์ระบุว่า คำสั่งฉบับใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากได้รับข้อมูลและข้อเสนอแนะจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการค้า ความมั่นคง เศรษฐกิจ และการต่างประเทศ ซึ่งสะท้อนว่าความไม่เป็นธรรมด้านภาษีและอุปสรรคทางการค้าของประเทศต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกของสหรัฐฯ ภารกิจเสริมสร้างฐานการผลิตในประเทศ ห่วงโซ่อุปทาน และความมั่นคงของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ จำเป็นต้องมีมาตรการเชิงรุก ประเทศคู่ค้าบางส่วนยังไม่ให้ความร่วมมือ หรือเสนอเงื่อนไขการเจรจาที่ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาการค้าไม่สมดุล
สาระสำคัญของคำสั่งฉบับใหม่
1. การปรับอัตราภาษีนำเข้า :
ตามบัญชีแนบท้าย (Annex I) สินค้านำเข้าจากแต่ละประเทศจะถูกกำหนดอัตราภาษี “แบบตอบโต้” ใหม่ (Reciprocal Tariff) โดยสูงสุดถึง 41% (ซีเรีย)
ประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม อยู่ที่ 19–20%
แคนาดา ถูกเก็บภาษีใหม่ที่ 35% สำหรับสินค้าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อตกลง USMCA
สินค้าจากประเทศที่ไม่ได้ระบุไว้ใน Annex I จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10%
2. สหภาพยุโรป (EU) มีการใช้สูตรเฉพาะหากอัตราภาษีเดิมต่ำกว่า 15% → ต้องชำระภาษีเพิ่มจนถึง 15% หากอัตราเดิม 15% ขึ้นไป → ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มเติม
3. การลงโทษการหลีกเลี่ยงภาษี (Transshipment) สินค้าใดที่สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) ระบุว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางขนส่งเพื่อเลี่ยงภาษี จะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติม 40% พร้อมโทษปรับตามกฎหมาย
4. การบังคับใช้ อัตราภาษีใหม่จะมีผลกับสินค้าที่ “นำเข้าเพื่อการบริโภค” หรือ “ถอนออกจากคลังสินค้าเพื่อการบริโภค” ตั้งแต่เวลา 00:01 น. (EDT) ภายใน 7 วัน หลังวันออกคำสั่ง สินค้าที่อยู่ระหว่างการขนส่งก่อนกำหนด จะยังคงใช้อัตราภาษีเดิม
5. การติดตามและรายงาน CBP และกระทรวงพาณิชย์จะต้องรายงานชื่อประเทศและสถานประกอบการที่มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี ทุก 6 เดือน เจ้าหน้าที่ระดับสูงจะให้คำแนะนำเพิ่มเติมหากเห็นว่าต้องมีมาตรการเสริม หรือเมื่อมีประเทศใดแสดงท่าทีร่วมมืออย่างจริงจังในการเจรจา
รายชื่อประเทศและดินแดนที่ถูกกำหนดอัตราภาษีนำเข้าใหม่ดังนี้
อัฟกานิสถาน 15%
แอลจีเรีย 30%
แองโกลา 15%
บังกลาเทศ 20%
โบลิเวีย 15%
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 30%
บอตสวานา 15%
บราซิล 10%
บรูไน 25%
กัมพูชา 19%
แคเมอรูน 15%
ชาด 15%
คอสตาริกา 15%
ไอวอรีโคสต์ (โกตดิวัวร์) 15%
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 15%
เอกวาดอร์ 15%
อิเควทอเรียลกินี 15%
สหภาพยุโรป (EU):
สินค้าที่มีภาษี Column 1 > 15% 0%
- สินค้าที่มีภาษี Column 1 < 15% 15% – Column 1 Rate
หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ 10%
ฟิจิ 15%
กานา 15%
กายอานา 15%
ไอซ์แลนด์ 15%
อินเดีย 25%
อินโดนีเซีย 19%
อิรัก 35%
อิสราเอล 15%
ญี่ปุ่น 15%
จอร์แดน 15%
คาซัคสถาน 25%
ลาว 40%
เลโซโท 15%
ลิเบีย 30%
ลิกเตนสไตน์ 15%
มาดากัสการ์ 15%
มาลาวี 15%
มาเลเซีย 19%
มอริเชียส 15%
มอลโดวา 25%
โมซัมบิก 15%
เมียนมา (พม่า) 40%
นามิเบีย 15%
นาอูรู 15%
นิวซีแลนด์ 15%
นิการากัว 18%
ไนจีเรีย 15%
นอร์ทมาซิโดเนีย 15%
นอร์เวย์ 15%
ปากีสถาน 19%
ปาปัวนิวกินี 15%
ฟิลิปปินส์ 19%
เซอร์เบีย 35%
แอฟริกาใต้ 30%
เกาหลีใต้ 15%
ศรีลังกา 20%
สวิตเซอร์แลนด์ 39%
ซีเรีย 41%
ไต้หวัน 20%
ประเทศไทย 19%
ตรินิแดดและโตเบโก 15%
ตูนิเซีย 25%
ตุรกี 15%
ยูกันดา 15%
สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) 10%
วานูอาตู 15%
เวเนซุเอลา 15%
เวียดนาม 20%
แซมเบีย 15%
ซิมบับเว 15%