EGCO ลุยต่อครึ่งปีหลัง จ่อปิดดีลลงทุนเพิ่มโรงไฟฟ้าต่างประเทศ
ดร.จิราพา ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน)หรือ EGCO เปิดเผยถึง ทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงหาโอกาสลงทุนโครงการใหม่โดยเฉพาะในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการลงทุนในประเทศยังต้องรอแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) ฉบับใหม่ ซึ่งจะมีโครงการโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของเอกชนอยู่ในแผนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ EGCO มีแผนในการเจรจาร่วมทุนหรือซื้อกิจการ ในต่างประเทศ 4-5 โครงการ ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่เป็นเป้าหมายของการลงทุนอยู่แล้ว ทั้งสหรัฐฯ ตะวันออกกลางและรวมทั้งไต้หวัน โดยเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่อีก 1,000เมกะวัตต์
สำหรับการเข้าไปลงทุนในสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน เกือบ2,000 เมกะวัตต์ โดยเป็นการลงทุนที่รับรู้กำไรสัดส่วน 16-17% ของกำไรรวม เป็นผลการดำเนินงานที่ดี
“ปีนี้ยังมองหาการลงทุนในประเทศที่ไม่มีความเสี่ยง ซึ่งยังอยู่ในกลุ่ม 7 ประเทศที่มีการลงทุนอยู่แล้ว โดยเฉพาะการลงทุนในสหรัฐนับเป็นประโยชน์กับไทยสอดคล้องกับนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ต่างชาติเข้าไปลงทุน และอาจทำให้ได้รับการพิจารณาในเรื่องการแลกเปลี่ยนการค้าต่างๆได้
ปัจจุบันตลาดพลังงานสหรัฐเติบโตดีมาก ซึ่ง EGCO ยังมองหาโอกาสลงทุนใหม่ๆเพิ่มเติม ทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซฯและพลังงานหมุนเวียน รวมถึงโครงการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)จากรัฐอะแลสกา ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปตท.และ EGCO ถึงความร่วมมือทางธุรกิจ
ดร.จิราพร กล่าวถึง โครงการโรงไฟฟ้า Yunlin ในไต้หวัน ว่า เป็นโครงการที่มีศักยภาพ โดย EGCO Group เริ่มเข้าไปลงทุนในไต้หวันปลายปี 2562 ด้วยการเข้าถือหุ้นใน บริษัท ยุนเหนิง วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunlin ด้วยเล็งเห็นว่า ไต้หวันมีนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาดที่ชัดเจน การตั้งเป้าลดการพึ่งพานิวเคลียร์และถ่านหิน ผลักดันให้พลังงานสะอาดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งเป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพในการลงทุนพลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณช่องแคบไต้หวันเป็นตำแหน่งที่มีลมแรงเป็น ลำดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งรัฐบาลไต้หวันได้ส่งเสริมการลงทุนแก่นักลงทุนต่างชาติ โดยจัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและเศรษฐกิจสีเขียว
ทั้งนี้ Yunlin ดำเนินการโดย บริษัท ยุนเหนิง วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Skyborn Renewables ถือหุ้น 31.98% TotalEnergies ถือหุ้น 29.46% EGCO Group ถือหุ้น 26.56% และ Sojitz Corporation ถือหุ้น 12% ภายหลังได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า (Electricity Business License - EBL) เพื่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัท TotalEnergies รับหน้าที่หลักด้านการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operations and Maintenance - O&M) ในขณะที่บริษัท Skyborn Renewables ดูแลด้านงานบริหารจัดการโครงการ โดยในส่วนของผู้ถือหุ้นอีกสองราย EGCO Group และ Sojitz Corporation มีบทบาทให้การสนับสนุนด้านการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าและการบริหารธุรกิจในไต้หวัน รวมถึงตัดสินใจในการบริหารงานสำคัญ ต่าง ๆ ของโครงการ
ด้านทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของมณฑลหยุนหลินในไต้หวันเป็นระยะทางประมาณ 8-17 กิโลเมตร ที่ระดับความลึกของน้ำทะเลในช่วง 7-35 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 82 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยกังหันลม 80 ต้น กำลังผลิตต้นละ 8 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิตทั้งหมด 640 เมกะวัตต์ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งเข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้าของไต้หวันผ่านสถานีไฟฟ้าบนฝั่ง 2 แห่ง บริเวณตำบลไถซีและซื่อหู ในมณฑลหยุนหลิน เพื่อขายให้กับ Taiwan Power Company (TPC) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้า 2,400 ล้านหน่วยต่อปี ซึ่งสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับภาคครัวเรือนไต้หวันมากกว่า 600,000 หลังคาเรือน คิดเป็น 90% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนทั้งหมดของมณฑลหยุนหลิน และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี
อย่างไรก็ตาม Yunlin เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งแห่งแรกของ EGCO Group ที่ดำเนินการในไต้หวัน นอกจากช่วยสร้างพลังงานสีเขียวให้กับไต้หวันแล้ว ยังช่วยเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนตามสัดส่วนการถือหุ้นให้ EGCO Group ประมาณ 170 เมกะวัตต์ ในขณะเดียวกัน ยังช่วยสนับสนุนให้ EGCO Group บรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2573 ด้วย
สำหรับผลการดำเนินงาน คาดว่า Yunlin จะสร้างกระแสเงินสดให้ EGCO Group เฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม - พฤษภาคม 2568) Yunlin มีอัตราการผลิตไฟฟ้า (Capacity Factor) ประมาณ 35% ซึ่ง Capacity Factor เฉลี่ยในระดับที่สูงนี้ ยืนยันศักยภาพของพลังงานลมในพื้นที่ช่องแคบไต้หวันและการสร้างรายได้ในอนาคต
“ความสำเร็จจากการลงทุนใน Yunlin สร้างโอกาสต่อยอดการลงทุนโครงการอื่น ๆ ในไต้หวันในอนาคต เนื่องจากYunlin เปิดตลาดการลงทุนให้ EGCO Group ในไต้หวัน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการลงทุนพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน รัฐบาลไต้หวันรู้จัก EGCO Group ในฐานะนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพและมีความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการให้สำเร็จ EGCO Group มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งจากโครงการ Yunlin และมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง โดยบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อม และแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ โดยเฉพาะในโครงการพลังงานหมุนเวียนและก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสม ก็จะใช้องค์ความรู้ที่ได้จากโครงการนี้เป็นปัจจัยพื้นฐานในการร่วมพิจารณาต่อไป” ดร.จิราพร กล่าว