SAV คงลุยธุรกิจกัมพูชา Q3โอเวอร์ไฟลต์คึกงบโต
#SAV #ทันหุ้น – SAV เดินหน้าธุรกิจการบินที่กัมพูชาต่อ มั่นใจสัมปทานที่เหลือ 26 ปี ไม่โดนบอกเลิก เพราะมีภาพลักษณ์เป็นธุรกิจท้องถิ่น พนักงาน 99% เป็นชาวกัมพูชา ส่วนไตรมาส 3 นี้เชื่อผลงานยังขาขึ้น อานิสงส์เวียดนาม-จีนเศรษฐกิจดีขึ้น แถม 1-2 เดือนจากนี้สนามบินเตโช เปิดรองรับคนกว่า 13 ล้านต่อปี พร้อมแย้มจ่อประมูลงานธุรกิจอื่นเพิ่มขยายฐานรายได้ ย้ำเป้าปีกำไรโต 20% ฟากโบรกเชื่อความเสี่ยงต่ำ เป้าพื้นฐาน 18.70 บาท
นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART และในฐานะฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV กล่าวว่า จากกรณีปัญหาชายแดนประเทศไทยและกัมพูชาที่ดำเนินในระยะที่ผ่านมานั้น บริษัทประเมินจะไม่กระทบต่อการเติบโตธุรกิจบริหารการบินของบริษัท
@สัมปทานยาว
ทั้งนี้ SAV ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือ Holding Company มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด หรือ CATs ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศทั่วน่านฟ้าประเทศกัมพูชาเพียงผู้เดียว ครอบคลุมการให้บริการในน่านฟ้าของกัมพูชา รวมถึงสนามบินนานาชาติและสนามบินในประเทศ ตลอดจน โครงสร้างค่าบริการ และการแบ่งรายได้กับรัฐบาล
โดยภาพลักษณ์ของบริษัทที่ดำเนินการในกัมพูชานี้คือ CATs มีความเป็นท้องถิ่นสูงจากจำนวนพนักงานเกือบทั้งหมด 99% เป็นชาวกัมพูชา มีคนไทยเพียง 14 คนเท่านั้น และในอีกแง่มุมบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนให้ทางกัมพูชามาโดยตลอดด้วยความชำนาญซึ่งเป็นความเสี่ยงในเชิงผลตอบแทนหากรัฐบาลกัมพูชาจะดำเนินการเอง
ดังนั้นระยะเวลาสัมปทานที่เหลืออีก 26 ปีที่บริษัทได้รับ (จากทั้งสิ้นรวมระยะเวลาสัมปทาน 49 ปี) จึงมั่นใจว่าจะไม่โดนยกเลิกข้อตกลง รวมถึงมั่นใจว่า บริษัทที่เข้าไปดำเนินการจะไม่ถูกกีดกัน หรือ Banned อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีนโยบายเพิ่มฐานรายได้ในงานอื่นๆ ให้มากขึ้นทั้งไปยังประเทศ สปป. ลาวและโครงการด้านการบินอื่นๆ
@ชะลอขึ้นค่าบริการ
โดยใน 1-2 เดือนจะเข้าประมูลงานเกี่ยวข้องกับการขายอุปกรณ์วิทยุการบินในประเทศไทยคือ ระบบตรวจจับสิ่งแปลกปลอม หรือ FOD และงานด้านวิทยุการบิน ขณะที่การลงนาม MOU ในการเข้าไปบริหารธุรกิจวิทยุการบินในสนามบินของ สปป.ลาว นั้นยังอยู่ระหว่างติดตามความคืบหน้าต่อไป
ส่วนแผนที่บริษัทเคยวางไว้ว่าจะเจรจาเพื่อขอปรับขึ้นค่าบริการ 5-7% จะระงับไปก่อนจนกว่าสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะกลับมาดีขึ้น แล้วจึงค่อยทบทวนพิจารณาอีกครั้ง
@Q3 คาดผลดำเนินงานดี
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าได้ ผลดีของเที่ยวบินผ่านน่านฟ้า หรือ Overflight ที่มากขึ้น จากประเทศรอบข้างที่เศรษฐกิจดี เช่น เวียดนาม และจีน อีกทั้งประเทศกัมพูชาเองมีแผนเปิดสนามบินนานาชาติเตโช ช่วงเดือนกันยายนปีนี้ นับเป็นการเร่งการท่องเที่ยวดึงคนให้กลับมาใช้บริการการบินมากขึ้น โดยสนามบินนี้จะเพิ่มศักยภาพทำให้จากเดิมรองรับได้ราว 2 ล้านคน สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 13 ล้านคนต่อปี
อนึ่งมีรายงานสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า กัมพูชาสนามบินแห่งใหม่ของประเทศกัมพูชาจวนเปิดบริการแล้ว โดยวันที่ 9 กันยายน 2568 น่าจะมีการออกเอกสารประกาศอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะเกี่ยวกับการเปิดดำเนินงานของสนามบินแห่งใหม่นี้ และพิธีเปิดสนามบินอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม 2568 โดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต เป็นประธานในการเปิด
ส่วนทั้งปี 2568 บริษัทมั่้นใจรายได้รวมจะมากขึ้นจากปีก่อนได้ และมีกำไรขยายตัว 20% ตามแผนที่วางไว้
@ครึ่งปีหลังสดใส
ฟากบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด มีมุมมองต่อ SAV ว่า ครึ่งปีหลังนี้ยังคงสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งช่วยสนับสนุนปริมาณเพื่อกบินที่ผ่านนานฟ้ากัมพูชา ทั้งนี้เที่ยวบินประเภท Overfight มีอัตรากำไรสูงกว่าการให้บริการภาคพื้นทั่วไป จึงส่งผลบวกโดยตรงต่อมาร์จิ้น ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์จากการปิดสนามบินพนมเปญจะลดลงอย่างมีนัยในไตรมาส 3 เหลือเพียงราว 3-4 ล้านบาทต่อไตรมาส จากเดิม 8 ล้านบาทต่อไตรมาส จึงประมาณการกำไรทั้งปีที่ 543 ล้านบาท เป็น 50%
ส่วนผลกระทบความไม่สงบชายแดนประเมินว่าความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำและไม่กระทบต่อการดำเนินงานเนื่องจากธุรกิจของ SAV ในกัมพูชามีความจำเป็นเชิงโครงสร้างต่อระบบการบินของประเทศทั้งในแง่ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การใช้บุคลากรท้องถิ่นที่มีสัดส่วนสูง ประเมินราคาเหมาะสมที่ 18.70 บาท