ภาษีทรัมป์ 19% จุดเปลี่ยนประเทศไทย? ดีลครั้งใหญ่แลกมาด้วยอะไร
"ภาษีทรัมป์"เขย่าโลก เริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างเป็นทางการแล้ว รอบนี้เป็นการจับตาที่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากมีผลบังคับใช้ หลังจากที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาของการดิ้นรนต่อรองลดภาษี ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ครั้งแรกในวันปลดปล่อยเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยพุ่งเป้าไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ ที่สหรัฐฯขาดดุลการค้า
ประเทศโดยทีมไทยแลนด์ ซึ่งมีนายพิชัย ชุณวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะเจรจา ได้พยายามเจรจาการค้าผ่านข้อเสนอต่างๆ ท่ามกลางความท้าทายที่เข้ามาแทรก คือ การปะทะกันในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา จนกระทั่งมีการตกลงหยุดยิงจากทั้งสองฝ่าย ไทยและสหรัฐฯจึงได้กลับเข้าสู่โต๊ะการเจรจาภาษีอีกครั้ง
และผลออกมาก็คือ ประเทศไทยปิดดีลได้สำเร็จเราได้ลดภาษีเหลือที่ 19% จากเดิม 36% ในการประกาศครั้งล่าสุด ของทางการสหรัฐฯ ก็คือ ซึ่งมีผลในวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา
เรียงลำดับภาษีในกลุ่มอาเซียน ไทยเราถือว่าอยู่ในกลุ่มหัวแถว เป็นรองเพียงแค่สิงคโปร์ที่ถูกเรียกเก็บแค่ 10% ตั้งแต่แรกและไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพราะเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ขาดดุลการค้ากับทางสหรัฐฯ
เราถูกเรียก อัตราภาษี 19 % เท่ากับ กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่สำคัญคือเราได้ภาษีที่ต่ำกว่าเวียดนาม คู่แข่งรายสำคัญ ซึ่งถูกเรียกเก็บภาษีที่ 20%, ตามมาด้วยบรูไน ที่ 25% โดยมีเมียนมาและลาว ที่โดนหนักที่สุดในกลุ่ม อยู่อันดับท้ายสุดของตาราง จากการโดนเรียกเก็บภาษีมากถึง 40%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "อินเดีย" อ่วม ทรัมป์ขึ้นภาษีอีกรอบ พุ่งแตะ 50% ตอบโต้ยังซื้อน้ำมันรัสเซีย ชี้หนุนสงครามยูเครน
- หวานอมขมกลืน? ขนม"ช็อกโกแลต" บนความเสี่ยง"ภาษีทรัมป์" โรงงานอเมริกันต้นทุนหนักกว่าเพื่อนบ้าน
- "ESCAP" ประเมินไร้ผู้ชนะ "ภาษีทรัมป์" เปิด 6 แนวทาง "อาเซียน" รับมือ เสนอเพิ่มการค้า-ต่อรองร่วมกัน
- "คลัง" เปิดรายละเอียด งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.8 หมื่นล้าน ช่วยเพิ่มกำลังแข่งขัน หนุนกยศ.พัฒนาทุนมนุษย์
- อนาคต "ช็อกโกแลต" ใต้เงา "ทรัมป์" ต้นทุนสูง - ภาษีกดดัน