โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘คลัง’ผ่อนภัณฑ์เกณฑ์ประกันภัยช่วยเยียวยาผลกระทบไทย-เขมร

ไทยโพสต์

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

‘คลัง’ ผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันชีวิต-ประกันวินาศภัย ครอบคลุมพื้นที่ประสบสาธารณภัย และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีผลถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 ด้านแบงก์รัฐ ‘ออมสิน-ธอส.-บสย.’เร่งอัดมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม

7 ส.ค. 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2568 ได้เป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ กรมสรรพากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รวมถึงผู้แทนจาก 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ทั้งนี้ เป็นการรับฟังความเห็นจาก 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา ถึงผลของมาตรการที่ได้มีการออกไปแล้ว และได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นมาตรการช่วยเหลือด้านประกันชีวิตและประกันวินาศภัยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทั้งในส่วนของการประกันภัย และการประกันวินาศภัย

สำหรับเงื่อนไขผ่อนผันกรมธรรม์ประกันภัยเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย จากอิทธิพลของพายุ และเขตพื้นที่สงครามระหว่างไทย กัมพูชา ครอบคลุมทั้ง ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย โดยมีรายละเอียดดังนี้ มาตรการด้านประกันชีวิต 1.ผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันชีวิต โดยครอบคลุมผู้เอาประกันในพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติและเหตุไม่สงบชายแดน มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2568, 2.กรณีใช้มูลค่าเวนคืนจ่ายเบี้ยโดยอัตโนมัติ หากกรมธรรม์ถูกแปลงเป็นแบบขยายเวลา หรือแบบใช้เงินสำเร็จ ผู้เอาประกันสามารถ ขอกลับเข้าสู่สถานะเดิม ภายใน 6 เดือน บริษัทสามารถ งดการตรวจสุขภาพ และ ยกเว้นดอกเบี้ย ได้ และ 3.กรณีเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเบี้ยประกันภัย หากชำระเบี้ยรายงวดที่น้อยกว่า 1 ปี บริษัทสามารถ ผ่อนผันให้ชำระโดยไม่คิดดอกเบี้ย ได้เป็นระยะเวลา ไม่เกิน 6 เดือน

มาตรการด้านประกันวินาศภัย 1.ผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ในพื้นที่ประสบภัย โดยครอบคลุมภัยธรรมชาติจากพายุ และสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. – 31 ธ.ค. 2568, 2.ขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัย จากเดิม 31 วัน ขยายเป็น 60 วัน นับจากวันครบกำหนดเดิม 3.กรณีกรมธรรม์สิ้นผลจากการขาดชำระเบี้ยหากผู้เอาประกันขอต่ออายุภายใน 6 เดือน บริษัทสามารถ งดการตรวจสุขภาพ และ ยกเว้นดอกเบี้ย ได้เช่นเดียวกับประกันชีวิต

4.ขยายเวลาเก็บเบี้ยประกันภัยสูงสุด 180 วัน สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท ยกเว้น รถยนต์นั่งกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 และ 5.การชดเชยค่าสินไหมทดแทนสำหรับที่อยู่อาศัย กรมธรรม์อัคคีภัยมาตรฐาน ชดเชยสูงสุด 20,000 บาท ภายใต้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ, กรมธรรม์อัคคีภัยแบบไมโครอินชัวรันส์ ชดเชยสูงสุด 10,000 บาท หากแนบท้ายความคุ้มครองภัยลมพายุหรือน้ำท่วม ให้พิจารณาความเสียหายจริง ไม่เกินวงเงินคุ้มครอง

นอกจากนี้ ยังรวมถึงมาตรการเสริมจากหน่วยงานอื่นในสังกัดกระทรวงการคลัง ได้แก่ กรมสรรพากร พิจารณามาตรการทางภาษี เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สนับสนุนมาตรการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เช่น การพักชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้

‘กระทรวงการคลังได้มีการประชุมติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องนโยบายต่าง ของกระทรวง สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และการประกันภัยวินาศภัยของ คปภ. เนื่องจากเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากต่อการทำความเข้าใจ จึงต้องมีการทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายเพื่อให้ประชาชนใน 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เข้าใจและใช้สิทธิ์ของตนเองอย่างต็มที่เพื่อเยียวยาและดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุด’ นายพิชัย กล่าว

นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า ธนาคารมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา และอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สิน การดำรงชีวิต และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจของ

พี่น้องประชาชน ธนาคารจึงได้ออก สินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ 4 ประเภท โดยทุกประเภทคิดอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนแรก ได้แก่ สินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อเสริมสภาพคล่อง ไม่ต้องใช้หลักประกัน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาทต่อราย ไม่ต้องชำระทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นใน 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 0.60% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 24 เดือน สำหรับผู้มีอาชีพ มีรายได้ สัญชาติไทย ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

สินเชื่อฟื้นฟูบ้าน เพื่อต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัย วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 – 24 = 2.000% ต่อปี ปีที่ 3 = MRR – 3.350% และปีที่ 4 เป็นต้นไป = MRR – 0.750% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี สำหรับลูกค้าใหม่ กรณีลูกค้าเดิมผ่อนชำระไม่เกินระยะเวลาคงเหลือตามสัญญาเดิม โดยธนาคารสนับสนุนค่าประเมินหลักทรัพย์ตามจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อราย, สินเชื่อฟื้นฟูรายย่อย เพื่อเป็นเงินทุนหรือซ่อมแซมสถานประกอบการ ไม่ต้องใช้หลักประกัน วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อราย ไม่ต้องชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรก อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 4 เป็นต้นไป = 15.00% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 84 เดือน สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือบุคคลธรรมดา ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และสินเชื่อฟื้นฟูเอสเอ็มอีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการฟื้นฟูกิจการ อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก และเดือนที่ 4 เป็นต้นไป ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% ต่อปี สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจาก ธอส. จัดทำมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนลูกค้าจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ที่อยู่อาศัยหรือหลักประกันเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ โดยลูกค้าสถานะปกติจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.01 % ต่อปีตลอดอายุสัญญา และสำหรับลูกค้าสถานะ NPL สามารถพักชำระหนี้นานสูงสุด 1 ปี จากนั้นผ่อน 0.01% ตลอดระยะเวลาคงเหลือ ล่าสุด ธอส. ได้ขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมกรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายบางส่วน ดังนี้

1.ลูกค้าปัจจุบันของธนาคารสามารถกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ภายใต้โครงการสินเชื่อซ่อม – แต่งและสินเชื่อซ่อม- แต่ง Plus วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 5 ปี โดยวงเงิน1 แสนบาทแรก อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีเพียง 1% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี ในวงเงิน 200,000 บาทถัดมาโดยไม่ต้องจดทะเบียนการจำนองเพิ่มที่สำนักงานที่ดิน 2. ลูกค้าใหม่สามารถกู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้นานสูงสุดนาน 40 ปี อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 - 24 เท่ากับ 2.00% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ MRR-3.30% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบัน เท่ากับ 6.495% ต่อปี) พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักประกัน (1,900 – 2,800 บาท) และค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองไม่เกิน 1% ของวงเงินจำนอง

ด้านนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ล่าสุด บสย. ได้ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ลูกหนี้ที่ถูกจ่ายเคลม และลูกค้าของ บสย. ที่อยู่ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ โดยผ่อนผันการชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน และค่าจัดการค้ำประกันโดยพักชำระออกไปอีก 6 เดือน นับจากวันถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียมสำหรับเอสเอ็มอีลูกค้า บสย. ที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 31 ส.ค. 2568 และขยายการพักชำระค่างวดเป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับเอสเอ็มอีลูกหนี้ที่ถูกจ่ายเคลม ที่อยู่ในระหว่างผ่อนชำระตามแผนปรับโครงสร้างหนี้ และไม่ผิดนัดชำระหนี้

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเสริมสภาพคล่อง ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Power Trade & Bizวงเงินค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันต่อราย 500,000 – 10 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Micro Bizวงเงินค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันต่อราย 10,000 – 500,000 บาท ตอบโจทย์กลุ่มรายย่อย (Micro SMEs) ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน แต่ขาดคนค้ำประกัน และขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยทั้ง 2 โครงการไม่คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก ปีต่อไปชำระต่ำเพียง 1.5% ต่อปี ค้ำประกันสูงสุด 7 ปี.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ทักษิณ เสี่ยงนับโทษใหม่ ศาลรธน.คดีอิงค์ รอดยาก ชิงลาออกก่อนวันลงมติ?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สิ่งที่หยั่งรากอยู่ใน‘อุปนิสัย’ของ‘สมเด็จฮวยเซ็ง’!!!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กว่าจะได้เข็มกลัดธงชาติไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เขมรโกงนานาชาติ รับเงินกู้กับระเบิดมาทำ ร้ายไทยโดนไปอีก3นาย/ค้นภูมะเขือเจอเพียบ!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

เปิดตัวบริการรับชำระภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สะดวก สบาย ทำได้ทุกที่พร้อมให้บริการแล้ววันนี้

VoiceTV

เปิดเหตุผล ทำไม ทำเล รถไฟฟ้าสายสีชมพู ไม่ติดโผท็อป 5 ราคาที่ดินแพง

MATICHON ONLINE

ขนส่ง ประกาศเพิ่ม 10 ตัวอักษรใหม่ ป้ายทะเบียนรถพิเศษ 'สมคิด-อุรัสยา-รวยดี-ปารณ'

MATICHON ONLINE

ดราม่าอีกรอบ! หลังคาเทอร์มินอลใหม่ “สนามบินตรัง” สีฟ้าซีดจาง เร่งแก้ทาสีใหม่คืนความสดใส

เดลินิวส์

NUANOSE เริ่มต้นธุรกิจด้วยพนักงานที่ชื่อว่า AI สลายขอบเขตแบบเดิม

SMART SME

โลกที่เราเห็นหลังปี 2000s…เรามาไกลแค่ไหนแล้ว?

ไทยพับลิก้า

“สุชาติ” นำทัพพาณิชย์รุกสวิส! ส่งเสริมสินค้าไทยผ่าน FTA ไทย–EFTA ดันตลาดไร้ภาษี

สยามรัฐ

6 เดือนแรกปี 68 เปิดโรงงานใหม่หด หั่นกำลังผลิตเกิน 20% | คุยกับบัญชา | 1 ส.ค. 68

BTimes

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...