“ออสเตรเลีย” ประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ในยูเอ็น ร่วมอังกฤษ-แคนาดา-ฝรั่งเศส
"ออสเตรเลีย" ชี้การแก้ปัญหาสองรัฐคือความหวังสูงสุดยุติวงจรความรุนแรงและสงครามกาซา ท่ามกลางกระแสชาติพันธมิตรตะวันตกเตรียมรับรองปาเลสไตน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นเดือนหน้า
วันที่ 11 สิงหาคม 2568 เวลา 12.22 น. สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า แอนโทนี อัลบานีซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ออสเตรเลียจะรับรองการมีอยู่ของรัฐปาเลสไตน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เดือนหน้า ร่วมกับสหราชอาณาจักร แคนาดา และฝรั่งเศส
ผู้นำออสเตรเลีย ซึ่งแถลงข่าวร่วมกับเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า การแก้ปัญหาสองรัฐ (two-state solution) คือหนทางเดียวที่จะทำลายวงจรความรุนแรง และช่วยยุติสงครามในฉนวนกาซา พร้อมระบุว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวเลวร้ายเกินกว่าที่โลกเคยคาดคิด
“นี่เป็นช่วงเวลาที่มีโอกาส และออสเตรเลียจะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อคว้าโอกาสนี้” อัลบานีซีกล่าว พร้อมเสริมว่า การตัดสินใจของออสเตรเลียตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ให้คำมั่นว่าจะปลดอาวุธ จัดการเลือกตั้ง รับรองสิทธิในการดำรงอยู่ของอิสราเอล และจะไม่มีบทบาทของกลุ่มฮามาสในรัฐบาลในอนาคต
“การแก้ปัญหาสองรัฐคือความหวังสูงสุดของมนุษยชาติที่จะยุติวงจรความรุนแรงในตะวันออกกลาง และนำมาซึ่งการยุติความขัดแย้ง ความทุกข์ทรมาน และความอดอยากในกาซา …ตราบใดที่รัฐอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างถาวร สันติภาพก็จะคงอยู่ได้เพียงชั่วคราว”
คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากอัลบานีซีได้โทรศัพท์หารือกับเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ซึ่งต่อมาได้จัดแถลงข่าวและวิจารณ์จุดยืนของออสเตรเลียว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย พร้อมปกป้องแผนการของรัฐบาลตนที่จะขยายปฏิบัติการทางทหารกับกลุ่มฮามาสในกาซา ด้วยการเข้าควบคุมเมืองกาซาซิตีทั้งหมด
อัลบานีซีโจมตีรัฐบาลเนทันยาฮูว่าเป็นฝ่ายบ่อนทำลายแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐ โดยชี้ไปที่การขยายตั้งถิ่นฐานและความรุนแรงของกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์ ตลอดจนวิกฤตด้านมนุษยธรรมในกาซาที่เลวร้ายลง
“รัฐบาลอิสราเอลยังคงท้าทายกฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิเสธความช่วยเหลือด้านอาหารและน้ำให้กับประชาชนที่กำลังทุกข์ยาก รวมถึงเด็ก ๆ …ความช่วยเหลือที่จำเป็นนี้ต้องถูกส่งถึงมือผู้ที่ต้องการมากที่สุด นี่ไม่ใช่เพียงการลากเส้นแบ่งบนแผนที่ แต่คือการมอบเส้นชีวิตให้กับชาวกาซา”
การตัดสินใจของออสเตรเลียเพิ่มแรงกดดันต่ออิสราเอล ท่ามกลางปฏิบัติการทางทหารในกาซาที่ดำเนินมากว่าสองปี หลังเหตุโจมตีเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 โดยกลุ่มฮามาสซึ่งคร่าชีวิตชาวอิสราเอล 1,200 คน และจับตัวประกัน 251 คน สงครามดังกล่าวคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 60,000 คน ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซา และองค์การสหประชาชาติเตือนว่ามีประชาชน 500,000 คนในกาซาเสี่ยงอดตายจากภาวะขาดอาหารรุนแรง
สหราชอาณาจักร แคนาดา และฝรั่งเศส ประกาศว่าจะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในที่ประชุมยูเอ็นเดือนหน้า เข้าร่วมกับประเทศสมาชิกกว่า 3 ใน 4 ของสหประชาชาติที่รับรองแล้ว ซึ่งท่าทีนี้ถูกวิพากษ์โดยพันธมิตรใกล้ชิดของอิสราเอลอย่างสหรัฐ
ในวันเดียวกัน นิวซีแลนด์ระบุว่ากำลังพิจารณาที่จะทำเช่นเดียวกัน โดยวินสตัน ปีเตอร์ส รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่ารัฐบาลมองว่าการรับรองเป็นเรื่องของเวลา ไม่ใช่ว่าจะทำหรือไม่ พร้อมเผยว่าคณะรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนว่าจะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในช่วงเวลานี้หรือไม่ รวมถึงเมื่อใดและอย่างไร โดยย้ำว่าวิกฤตด้านมนุษยธรรมในกาซาเป็นประเด็นสำคัญในวาระโลก
อ้างอิง : asia.nikkei.com