โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘ไมโครพลาสติก’ เต็ม บ้าน-รถยนต์ สูดเข้าปอดวันละ 68,000 ชิ้น

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไมโครพลาสติก” ล่องลอยอยู่ในทุกที่ทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ภายในบ้านและรถยนต์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราใช้ชีวิตมากที่สุด ในแต่ละสัปดาห์มนุษย์หายใจเอาไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกายปริมาณเท่ากับหนึ่งช้อน ตามข้อมูลจากการศึกษาใหม่

การศึกษาของ นาเดีย ยาโคเวนโก และคณะจากมหาวิทยาลัยตูลูส รายงานว่า ผู้คนอาจสูดดมอนุภาคไมโครพลาสติก ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-10 ไมโครเมตร ซึ่งสามารถทะลุผ่านปอดได้ ในจำนวนมากถึง 68,000 อนุภาคในแต่ละวัน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึง 100 เท่า

ยาโคเวนโกกล่าวว่า “โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนใช้เวลา 90% อยู่ภายในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ทำงาน ร้านค้า ระบบขนส่งสาธารณะ ฯลฯ และในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับมลพิษไมโครพลาสติกผ่านการหายใจเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราจึงตรวจสอบบ้านและยานพาหนะส่วนตัว ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่มักถูกมองข้าม แต่กลับมีบทบาทสำคัญในการสัมผัสสารมลพิษเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน”

นักวิจัยได้วิเคราะห์ตัวอย่างอากาศ 16 ตัวอย่างจากอพาร์ตเมนต์ และรถยนต์ของตนเอง ซึ่งเป็นสภาพการใช้งานจริง คล้ายกับสิ่งที่พวกเราหลายคนต้องเผชิญอยู่ทุกวัน นักวิจัยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Raman spectroscopy เพื่อวัดความเข้มข้น โดยเฉพาะอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 1-10 ไมโครเมตร ซึ่งแตกต่างจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่อนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 20-200 ไมโครเมตร

ผลการวิจัยสร้างความตกตะลึงให้แก่นักวิจัย เนื่องจากพบอนุภาคไมโครพลาสติกมากกว่างานวิจัยก่อนหน้าถึง 100 เท่าโดยอนุภาคพลาสติกที่ตรวจพบมากกว่า 90% มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร เล็กกว่าฝุ่นละออง และบางกว่าความกว้างของเส้นผมเพียงเส้นเดียวถึง 7 เท่า ซึ่งสามารถซึมเข้าสู่ปอดได้โดยตรง

จากข้อมูลรวมของงานวิจัยนี้และงานวิจัยอื่นๆ นักวิจัยประเมินว่าผู้ใหญ่สูดดมไมโครพลาสติกขนาดใหญ่ประมาณ 3,200 ชิ้น และขนาดเล็กกว่า 68,000 ชิ้นในแต่ละวัน

“ไมโครพลาสติกที่ลอยอยู่ในอากาศ โดยเฉพาะในอาคาร อาจเป็นภัยคุกคามที่มองไม่เห็น ซึ่งเราเพิ่งเริ่มเข้าใจ” ยาโคเวนโกกล่าว

ทีมวิจัยวัดค่ามัธยฐานของอนุภาคไมโครพลาสติกได้ 528 อนุภาคต่อลูกบาศก์เมตรของอากาศภายในบ้าน และ 2,238 อนุภาคต่อลูกบาศก์เมตรในรถยนต์ อนุภาคเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่เส้นใยจากเสื้อผ้า แต่เป็นเศษพลาสติกขนาดเล็กที่หลุดออกมาจากวัสดุทั่วไป เช่น พรม ผ้าม่าน เบาะ หรือแม้แต่สี

บ้านและรถยนต์มีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน โพลีเอทิลีนเป็นวัสดุหลักในบ้าน ในขณะที่โพลีเอไมด์เป็นวัสดุที่พบได้บ่อยกว่าในรถยนต์ เนื่องจากเป็นสารประกอบในผ้าและพลาสติกที่ใช้ในการตกแต่งภายในรถยนต์

เมื่อพูดถึงสถานที่ที่พบไมโครพลาสติก ผู้คนมักนึกไปถึงมหาสมุทรหรือพื้นที่อุตสาหกรรม แต่งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า สภาพแวดล้อมภายในอาคารที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน เป็นแหล่งสำคัญของการสัมผัสสารมลพิษจากพลาสติกของมนุษย์มากที่สุด และไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เข้าใจ

ห้องโดยสารรถยนต์เป็นแหล่งสะสมไมโครพลาสติกที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง เนื่องจากรถยนต์อัดแน่นไปด้วยพลาสติก ตั้งแต่แผงหน้าปัดไปจนถึงผ้าหุ้มเบาะ และต้องเผชิญกับแสงแดด ความร้อน และแรงเสียดทาน สภาวะเหล่านี้สามารถเร่งการสลายตัวของโพลิเมอร์ให้ปล่อยอนุภาคออกสู่อากาศที่ปิดสนิท ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยใช้เวลาขับรถมากกว่า 300 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่สัมผัสอากาศนานพอสมควร

เมื่อสูดดมไมโครพลาสติกเข้าไป อนุภาคขนาดเล็กเหล่านี้สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือระคายเคือง ขณะที่ไมโครพลาสติกมีสารพิษ เช่น บิสฟีนอล เอ หรือพทาเลต สามารถเข้าสู่กระแสเลือดด้

การสัมผัสกับไมโครพลาสติกและสารเติมแต่งในระยะยาวอาจส่งผลต่อปัญหาทางเดินหายใจ ขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ และเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดปกติทางพัฒนาการทางระบบประสาท ความพิการแต่กำเนิดของระบบสืบพันธุ์ ภาวะมีบุตรยาก โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็ง

ไม่ว่าจะมองไปทางไหน มีแต่ไมโครพลาสติก และในปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานคุณภาพอากาศที่กำหนดปริมาณไมโครพลาสติกภายในอาคารอย่างเป็นทางการ ผู้เขียนงานวิจัยหวังว่างานวิจัยชิ้นนี้จะช่วยผลักดันให้หน่วยงานสาธารณสุขมองเห็นถึงปัญหานี้ แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะถึงจุดนั้น

“ฉันหวังว่าผลการวิจัยของเราจะช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับอากาศภายในอาคาร ในฐานะแหล่งสะสมของไมโครพลาสติก ความรู้นี้สามารถช่วยกำหนดแนวทางสำหรับคำแนะนำด้านสาธารณสุขในอนาคต มาตรฐานคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์และวัสดุที่เราใช้” ยาโคเวนโกกล่าวสรุป

สำหรับขั้นตอนต่อไป ทีมวิจัยวางแผนที่จะศึกษาสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่หลากหลายมากขึ้น และสำรวจว่าสภาพแวดล้อมหรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่แตกต่างกันอาจส่งผลต่อระดับการสัมผัสไมโครพลาสติกอย่างไร เป้าหมายสูงสุดคือ การทำความเข้าใจแหล่งที่มาและพฤติกรรมของอนุภาคไมโครพลาสติกภายในอาคารให้ดียิ่งขึ้น เพื่อประเมินผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ไมโครพลาสติกกลายเป็นหนึ่งในปัญหามลพิษที่ใหญ่และแก้ยากที่สุดในยุคของมนุษย์ ซึ่งยังพอจะมีวิธีช่วยลดปริมาณการสูดดมไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายได้อยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายอากาศที่ดีขึ้น หลีกเลี่ยงใช้สิ่งทอสังเคราะห์ และการลดแรงเสียดทานและการสึกหรอบนพื้นผิวพลาสติก

ที่มา: Earth, Phys, Science Alert, ZME Science

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

‘มท.’ สั่งเด้ง ‘นายอำเภอธัญบุรี’ เซ่นผับเถื่อน ปล่อยนักเที่ยวอัพยา

19 นาทีที่แล้ว

กนภ. ไฟเขียว NDC 3.0 ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 109.2 ล้านตัน ในปี 2578

19 นาทีที่แล้ว

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เผยประชาชนสิทธิบัตรทอง 9,000 คน ถูกลอยแพ

29 นาทีที่แล้ว

ภาษีสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 19% โอกาสและความท้าทาย อุตฯ อิเล็กทรอนิกส์ไทย

32 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

กนภ. ไฟเขียว NDC 3.0 ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก 109.2 ล้านตัน ในปี 2578

กรุงเทพธุรกิจ

‘เปิดประสบการณ์เหนือจินตนาการ กับ Flagship แห่งใหม่ของ Cartier!’

GM Live

สัตว์เลี้ยงกับสุขภาพจิต ทำไมเพื่อนขนฟูถึงช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้จริง

sanook.com

Laufey ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นหญิงอันแสนเปราะบางผ่านซิงเกิลใหม่ Snow White

THE STANDARD

ทำดีไม่เคยเห็น? ลูกจ้าง 48% ชี้ หัวหน้าประเมินงานให้ต่ำเกินจริง

กรุงเทพธุรกิจ

เป๊ก ผลิตโชค ขอใช้สิทธิผู้ป่วย ปฏิเสธการตรวจเลือด และไม่เผยข้อมูลการรักษา

THE STANDARD

การสักยันต์ เครื่องรางที่ไม่ต้องพกพา เพราะใช้ร่างกายในการ “สัก”

ศิลปวัฒนธรรม

รูปสลักพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 บนเกาะลังกา มีอยู่จริงหรือ!?

ศิลปวัฒนธรรม

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...