สดช.ปักหมุดศูนย์ดิจิทัล 2,222 แห่ง ลดเหลื่อมล้ำ-ยกระดับคุณภาพชีวิต
สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ประกาศเปิดให้บริการ “ศูนย์ดิจิทัลชุมชน” ครบ 2,222 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกจังหวัด เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเท่าเทียม พร้อมเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาว
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการ สดช. เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณกว่า 3,500 ล้านบาท ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (พ.ศ. 2560-2564) โดยการขยายศูนย์เพิ่มอีก 500 แห่งจากเดิม 1,722 แห่ง ทำให้ครอบคลุมครบทั้ง 77 จังหวัด รวมเป็น 2,222 แห่งทั่วประเทศ
ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไม่ได้เป็นเพียงนโยบาย แต่คือการสร้างความพร้อมให้ภาคประชาชนได้รับการเข้าถึงและใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ศูนย์ดิจิทัลชุมชนทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางการเรียนรู้และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ติดตั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และระบบเชื่อมต่อคุณภาพ เพื่อรองรับการใช้งานของทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย คนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ด้อยโอกาส
โดยรัฐบาลและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) เป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้า สดช. ตั้งใจให้ประชาชนกว่า 5 ล้านคนผ่านการพัฒนาทักษะดิจิทัลจากศูนย์ฯ เหล่านี้
เขา กล่าวว่า ศูนย์ฯ ตั้งอยู่ในสถานที่ที่เข้าถึงง่าย เช่น วัด มัสยิด โรงเรียน ห้องสมุด และที่ทำการหมู่บ้าน เพื่อเปิดโอกาสให้คนในชุมชนใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ต่อยอดสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิต โดย สดช. ประเมินว่า ศูนย์ฯ จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจฐานรากจากกิจกรรมการค้าและบริการออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ สดช. ยังเตรียมจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจัดอบรมหลักสูตรทักษะดิจิทัล เช่น การขายสินค้าออนไลน์ การใช้ ปัญญาประดิษฐ์ AI ในการทำเกษตร และการเข้าถึงบริการดิจิทัลภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนในชนบทสามารถก้าวสู่สังคมดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน
“ศูนย์ดิจิทัลชุมชนจะเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมความรู้ ทักษะ และโอกาสจากโลกดิจิทัลไปสู่คนในท้องถิ่น เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท” นายเวทางค์ย้ำ
ดังนั้น สดช.เชื่อว่า ด้วยการลงทุนและการวางแผนในระยะยาว ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 2,222 แห่งทั่วประเทศ จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยพลิกโฉมเศรษฐกิจฐานรากไทยในยุคดิจิทัล และสร้างความเท่าเทียมให้กับสังคมในอนาคต