อย่าคิดว่าแค่สิวๆ เตือน "ก้อนนูน" ขึ้นมา 3 แบบนี้ อาจเป็นมะเร็งร้าย ไม่เลือกเพศหรืออายุ!
เตือน 3 ประเภท “ก้อนนูน” บนร่างกายที่อาจเป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือหญิง อายุเท่าไหร่ก็ไม่ควรมองข้าม
ผู้คนล้วนกลัวโรคมะเร็ง เพราะโรคมะเร็งหลายชนิดเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลาม มักไม่สามารถรักษาให้หายได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการตรวจพบให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันก็อาจมีหลายคนเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ เผลอสัมผัสบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกาย แล้วจู่ๆ ก็พบว่ามีก้อนเกิดขึ้น พอค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็พบว่ามีคนบอกว่าเป็นต่อมน้ำเหลือง บางคนก็บอกว่าเป็นมะเร็ง จนรู้สึกสับสนและกังวลมาก
โดยทั่วไป ก้อนเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันมักเป็นอาการอักเสบภายในร่างกาย และเมื่อก้อนโตขึ้นพร้อมอาการเจ็บปวด ก็อาจเป็นสัญญาณว่าระบบน้ำเหลืองต้องการความช่วยเหลือ ก้อนที่สามารถสัมผัสได้ด้วยมือมักกระจายอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ เช่น ใต้ผิวหนังทั่วร่างกาย, อวัยวะที่อยู่ใกล้ผิว เช่น เต้านมและต่อมไทรอยด์, ลำคอ รักแร้ ขาหนีบ เป็นต้น เราควรระมัดระวังกับก้อนเหล่านี้ เพราะอาจเกิดจาก 3 สาเหตุหลักดังนี้
1. ก้อนเนื้อจากการอักเสบภายในร่างกาย นี่เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ เหงือกอักเสบ คออักเสบ ฯลฯ ก้อนลักษณะนี้มักมีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย ขนาดมักไม่เกิน 3 ซม. สัมผัสแล้วเคลื่อนไหวได้ อ่อนนุ่ม และจะค่อยๆ หายไปเมื่อการอักเสบลดลง
2. ก้อนเนื้อที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน เกิดจากโรคต่างๆ เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคลูปัส (SLE) และโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ
3. ก้อนเนื้อที่เกิดจากมะเร็ง ก้อนลักษณะนี้ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เช่น
มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมไทรอยด์ อาจมีลักษณะเป็นก้อนหรือตุ่มเฉพาะที่
มะเร็งร้ายบางชนิดเมื่อลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง อาจทำให้บริเวณนั้นเกิดก้อน
มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ก็อาจทำให้ต่อมน้ำเหลืองขยายใหญ่ขึ้นอย่างผิดปกติ
แล้วควรทำอย่างไรเมื่อพบก้อนผิดปกติ? เมื่อสัมผัสพบก้อนผิดปกติ คำถามต่อไปนี้จะช่วยให้คุณประเมินเบื้องต้น และมีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยภายหลัง พบกี่ก้อน?, ก่อนพบก้อนนั้นมีเหตุการณ์ผิดปกติอะไรหรือไม่? (เช่น บาดเจ็บ, สัมผัสผู้ป่วยโรคติดเชื้อ) มีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่? (ไข้, เจ็บหน้าอก, เหนื่อยง่าย, อาเจียนหรือไอเป็นเลือด, มีเลือดในอุจจาระ, น้ำหนักลดรวดเร็ว, สีผิวเปลี่ยน, เจ็บคอ)มีกรณีคล้ายกันเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว หรือในชุมชนที่คุณอาศัยอยู่หรือไม่?
อย่างไรก็ตาม คำถามข้างต้นนี้เป็นเพียงการประเมินเบื้องต้น สิ่งสำคัญในเบื้องต้นคือควรใส่ใจลักษณะต่อไปนี้ของก้อนเนื้อ
ก้อนดังกล่าวเจ็บหรือไม่? ก้อนเนื้อที่เกิดจากการอักเสบ มักเจ็บชัดเจน ส่วนก้อนจากมะเร็ง โดยทั่วไปไม่เจ็บเมื่อสัมผัส
ขนาดของก้อน หากก้อนเนื้อเกิดบริเวณต่อมน้ำเหลือง มีขนาดต่ำกว่า 1 ซม.มักเป็นก้อนปกติ (แต่ไม่แน่นอน) หากขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. หรือโตต่อเนื่อง "ควรระวัง" ส่วนก้อนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ต่อมน้ำเหลือง ไม่ว่าจะขนาดเท่าใด หากมีลักษณะเป็นก้อนนูน ควรตรวจสอบโดยแพทย์ โดยเฉพาะถ้าขนาดใหญ่กว่า 1 ซม. หรือโตเร็ว
ลักษณะของก้อน โดยก้อนเนื้อธรรมดา มักมีเยื่อหุ้มชัดเจน ผิวเรียบ ขอบเขตชัด ส่วนก้อนมะเร็ง มักลุกลาม ไม่มีขอบชัด เกาะติดกับเนื้อเยื่อโดยรอบ
ความแน่นหรือความนุ่มของก้อน โดยก้อนเนื้อธรรมดามักสัมผัสได้ว่านุ่ม ขณะที่ก้อนมะเร็งมักจะแข็งกว่า (ไม่ควรใช้เกณฑ์ข้อนี้เพียงอย่างเดียวในการวินิจฉัย ต้องพิจารณาร่วมกับอาการอื่น)
การเคลื่อนไหวของก้อน โดยก้อนเนื้อธรรมดามักขยับได้ ไม่ยึดติด สามารถเลื่อนได้เมื่อสัมผัส ส่วนก้อนมะเร็งจะขยับไม่ได้ ยึดติดกับเนื้อเยื่อรอบข้าง
ท้ายที่สุดของย้ำว่า หากคุณสัมผัสพบก้อนผิดปกติบนร่างกาย ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายโดยแพทย์เฉพาะทาง แพทย์จะประเมินโดยการคลำ ตรวจร่างกาย และอาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยอย่างแม่นยำ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป