SUPER แก้ปมสภาพคล่อง.!
ขายอีกแล้วครับท่าน…บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPERของ “เฮียจอมทรัพย์ โลจายะ” โละขายโรงไฟฟ้าอีกแล้วววว..!!
คราวนี้เป็นการขายหุ้นในบริษัท เดซี่ โซล่าร์ จำกัด (DAISY) ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 15 โครงการ กำลังการผลิตรวม 92.60 เมกะวัตต์ โดยจะขายหุ้นที่ตนเองถือและถือผ่านบริษัทลูกในสัดส่วน 100% รวมทั้งขายหุ้นสัดส่วน 75.52% ในบริษัท อพอลโล่ โซลาร์ จำกัด (APL) ซึ่งดำเนินธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 5.40 เมกะวัตต์
โดยคนที่มารับซื้อโรงไฟฟ้าทั้ง 17 โครงการ กำลังการผลิตรวม 98 เมกะวัตต์ต่อจาก SUPERเป็นบริษัท เลวันตา รีนิวเอเบิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (LEVANTA) บริษัทในเครือ Actis Energy Fund 5 กองทุนพลังงานในประเทศอังกฤษ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,006.84 ล้านบาท
หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใด SUPERต้องขายของเก่ากินด้วยละ…เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขายโรงไฟฟ้า..!!
ถ้าย้อนไปช่วงต้นปีที่แล้ว หรือราวเดือน ก.พ. 2567 ก็มีการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 8 โครงการ กำลังการผลิตรวม 139.40 เมกะวัตต์ ดำเนินการภายใต้บริษัท ทานตะวัน โซล่าร์ จำกัด (SUNFLOWER) ให้กับ LEVANTA มาแล้ว…ครั้งนั้นได้เงินไป 4,691 ล้านบาท
แม้จะอ้างว่า เป็นการขายให้กับพันธมิตร ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ของอังกฤษก็เถอะ…แต่ขายบ่อย ๆ อย่างนี้ มันชวนให้คิดไปไกลว่า SUPER กำลังร้อนเงินอ๊ะป่าว..??
ถ้าไปดูความจำเป็นของ SUPERต้องยอมรับว่าเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาถูกต้นทุนทางการเงินตามหลอกหลอนมาโดยตลอด…สารตั้งต้นก็มาจากการที่ SUPER ไม่ได้ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเอง แต่ใช้วิธีโตทางลัดไปซื้อโรงไฟฟ้าที่กำลังจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) หรือไม่ก็ COD อยู่แล้ว เลยทำให้มีต้นทุนค่อนข้างสูง ต้องกู้เยอะและจ่ายดอกเบี้ยแพง
เรียกว่าขายไฟได้เท่าไหร่…ก็หมดไปกับการเคลียร์หนี้จ่ายดอกเบี้ย ซึ่งปีหนี่งหลายพันล้านบาท…
ก่อนหน้านี้มีการแก้หนี้ด้วยการตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (Super EnergyPower plant Infrastructure Fund) หรือ SUPEREIF ขายสินทรัพย์เข้าไป แล้วนำเงินไปใช้หนี้บางส่วนแล้วนะ ก็ทำให้ต้นทุนการเงินดีขึ้น…แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนที่ขายโรงไฟฟ้าไปเมื่อปีที่แล้ว…ก็นำเงินไปใช้หนี้อีกเหมือนกัน ซึ่งยังไม่พอจ่าย
แล้วไหนจะมาเจอปัญหาที่เวียดนาม ทั้งกรณีการไฟฟ้าเวียดนามปรับลดราคารับซื้อไฟฟ้าและงดรับซื้อไฟฟ้าบางโครงการซ้ำเติมอีก…
ทำให้SUPERเป็นบริษัทที่ต้องแบกหนี้ก้อนโต โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 มีหนี้สินส่วนที่ต้องชำระภายในหนึ่งปีสูงถึง 18,137.45 ล้านบาทแบ่งเป็นหนี้สถาบันการเงิน 13,871.67 ล้านบาท และหนี้หุ้นกู้ 4,265.78 ล้านบาท แต่มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 1,372.42 ล้านบาท
ยังดีนะที่มีแต้มบุญ…มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรรกว่า 9,421.98 ล้านบาท
แต่สถานการณ์ก็ยังน่าห่วงอยู่ดีแหละ…เลยเป็นที่มาของการทยอยขายโรงไฟฟ้าอย่างที่เห็น…
ซึ่งชัดเจนว่า การขายโรงไฟฟ้าคราวนี้ หลัก ๆ จะนำเงินไปจ่ายหนี้สถาบันการเงิน เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ย ส่งผลให้หนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลง จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.3 เท่า ส่วนที่เหลือจะเกลี่ยไปขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าที่ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569-2572 อีกทั้งนำไปใช้ลงทุนในโครงการ Direct PPA และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า การขายโรงไฟฟ้าก็เพื่อแก้ปมสภาพคล่อง..!!
ขณะที่ SUPERมีกำลังการผลิตตามปริมาณเสนอขายตาม PPA ที่ 2,169.39 เมกะวัตต์ โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,657.71 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวม 1,486.71 เมกะวัตต์
บ่งบอกว่ายังมีโรงไฟฟ้าให้ขายอีกเยอะ…ซึ่งไม่รู้ว่า SUPERจะขายโรงไฟฟ้าอีกเมื่อไหร่..?? เป็นช็อตที่ต้องจับตา
แต่ตราบใดที่ยังไม่สามารถแก้หนี้ให้เบาบางลงได้…SUPER ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องขายของเก่าอีก…
…ไม่เชื่อก็คอยดูละกัน…
…อิ อิ อิ…