สว. จ่อตั้งญัตติแก้เศรษฐกิจหลังรัฐบาลดันนโยบายแจกเงินหมื่นไม่สำเร็จ หนี้ครัวเรือนสูง
สว. จ่อตั้งญัตติแก้เศรษฐกิจไทย หลังรัฐบาล ‘แพทองธาร’ ดันนโยบายหาเสียง ‘แจกเงินหมื่น-สถานบันเทิงครบวงจร ไม่สำเร็จ หนี้ครัวเรือนสูงสุดในอาเซียน อัด ‘พิชัย’ ทำงานช้า แนะเจรจารอบคอบ อย่ายอมมากหวั่นคนตกงานเพียบ
วันนี้ (12 ก.ค. 68) นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการเสนอญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมวถฒิสภาฯ วันที่ 15 ก.ค. ว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมเจรจา ซึ่งช้าไปจนทำให้ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ไม่ใช่ว่าจะไปยอมทุกอย่าง และไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้เหมือนกับเวียดนาม เพราะเวียดนามเสนอให้สหรัฐ 0% เป็นเพราะอัตราการส่งออกเกิน 50% แต่ไทยอยู่ที่ 18% ของการส่งออก ที่เหลือเราส่งไปประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลทำอะไรด้วยความรอบคอบ หากยอมมากไปคนจะตกงานเยอะขึ้น มองว่า โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตั้งทีมมาเพื่อบีบประเทศในอาเซียนให้มีอำนาจต่อรองไม่มาก ทำให้รู้ว่าเราต้องพึ่งพาเขา
สาระสำคัญของญัตติที่เสนอ ระบุว่า ตามที่รัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กำหนด "10 นโยบายเร่งด่วน" เร่งสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ รวมทั้งมีแผนระยะยาวในการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะมาตรการภาษีนำเข้าตามนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ภาวะสงครามในหลายพื้นที่ ราคาน้ำมันโลกและพลังงานที่ผันผวน
นอกจากนี้ มาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ได้ชะลอโครงการเฟส 3 ออกไป หนี้ครัวเรือนไทยอยู่ในระดับสูงสุดในอาเซียน ภาระดอกเบี้ยสูง เสี่ยงต่อการเกิดหนี้เสีย ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ยังคงกว้าง ขณะที่การสร้างสถานบันเทิงครบวงจรมีเสียงคัดค้านจากหลายภาคส่วน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงขอเสนอญัตติ มีกำหนดระยะเวลาปฏิบัติงานภายใน 90 วัน