“พิชัย” บินด่วนคืนนี้ เจรจาภาษี "ไทย-สหรัฐฯ" 3 ก.ค. ย้ำผลประโยชน์ Win-Win
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเดินทางไปเจรจากับสหรัฐอเมริกาในประเด็นการเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐ (Reciprocal Tariffs) ว่า คาดว่าจะสามารถหารือในรายละเอียดได้ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 นี้ โดยยืนยันว่า จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นหลัก พร้อมทั้งออกแบบข้อเสนอที่เกิดประโยชน์กับทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ระบุว่าการเจรจารอบนี้ไม่ใช่เพิ่งเริ่มต้น แต่เป็นการสานต่อจากข้อเสนอที่เคยยื่นไปก่อนหน้านี้หลายครั้ง ครั้งนี้จะเป็นการเก็บรายละเอียดส่วนที่ยังตกค้าง เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่สมดุล และนำข้อจำกัดของสหรัฐมาพิจารณาประกอบกับความต้องการของไทย วางโจทย์ให้เป็นแบบ "Win-Win"
อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะได้ข้อยุติจากการเจรจาหรือไม่ แต่อย่างน้อยจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมกลับมาศึกษาในรายละเอียด ซึ่งอาจกลายเป็นการบ้านให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปทำต่อ ทั้งนี้ แต่ละประเทศย่อมมีข้อจำกัดต่างกัน
นอกจากประเด็นภาษีโดยตรงแล้ว นายพิชัยระบุว่า ยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการค้าแบบไม่มีภาษี (Non-Tariff Measures) เช่น กฎเกณฑ์ กติกา หรือความไม่สะดวกทางการค้าที่อาจเป็นอุปสรรค ซึ่งหากสามารถเจรจาและปรับปรุงให้เหมาะสมได้ ก็จะช่วยให้กระบวนการนำเข้า-ส่งออกคล่องตัวขึ้น
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เชื่อว่าในหลายประเทศที่ไปเจรจากับทาง USTR หากประเทศไหนที่มีข้อเสนอที่ดี น่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการปรับอัตราภาษีของสหรัฐออกไปก่อน สำหรับไทยที่เคยโดน 30% กว่านั้น ขณะที่มีการประเมินว่าไทยจะถูกเรียกเก็บประมาณ 18% นั้น เป็นสิ่งที่นักวิชาการประเมินโดยทั่วไป เพื่อนำมาประกอบการประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่าอัตราจะออกมาเป็นเท่าไหร่ และขอให้รอดูผลการเจรจา
ทั้งนี้ในคืนนี้ (30 มิถุนายน 2568 ) นายพิชัยจะออกเดินทางไปสหรัฐฯในฐานะหัวหน้าคณะเจรจา ถือเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนเพราะหลายฝ่ายมองว่าเส้นตาย (Deadline) อยู่ที่ 8 กรกฎาคม 2568 เหลือเวลาเพียงไม่กี่วัน จึงต้องเร่งดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และต้องเน้นข้อเสนอที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่ให้สหรัฐพอใจ แต่ต้องให้ไทยได้ประโยชน์จริงด้วย
นายพิชัย ระบุในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาระดับนโยบาย ต้องทำหน้าที่กำกับทิศทางการเจรจาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ที่ผ่านมาการเจรจากับสหรัฐนั้นมีความซับซ้อน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฝ่ายสหรัฐมีการมอบหมายหัวหน้าเจรจาหลายหน่วยงาน หลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ (U.S. Department of Commerce) สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังสหรัฐ (Secretary of the Treasury)
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยพร้อมรับมือกับทุกแนวทางที่สหรัฐจะดำเนินการ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องมีการทำงานประสานกันแบบคู่ขนานระหว่างสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)และกรมเจรจาการค้าต่างประเทศ เพื่อให้การเจรจาครอบคลุมในทุกระดับ และไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ
ส่วนกรณีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา หรือล็อบบี้ยิสต์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาประเด็นภาษีตอบโต้กับสหรัฐ นายพิชัย เปิดเผยว่า เรื่องนี้ดำเนินการตามความจำเป็น ความโปร่งใส และความคุ้มค่า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางการค้า และการส่งออกของประเทศไทย เพราะถ้าเราไม่มีตัวช่วยที่ดี ไม่มีทีมที่เข้าใจสหรัฐไม่มีเครื่องมือที่แข็งแรง ประเทศไทยอาจต้องสูญเสียตลาด ส่งออกสะดุด เกษตรกร-ผู้ประกอบการเจ็บหนัก
โดยขอยืนยันความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะอเมริกามีกฎหมายการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมาย FARA (Foreign Agents Registration Act)ซึ่งกำหนดให้สัญญาว่าจ้างที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศทั้งหมดจะต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดบนเว็บไซต์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (U.S. Department of Justice) อย่างชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดเคล็ดลับความสำเร็จ การสร้างแบรนด์ PIPATCHARA กับ คุณเพชร ‘ภิพัชรา’ แก้วจินดา
- “พิชัย” บินด่วนคืนนี้ เจรจาภาษี "ไทย-สหรัฐฯ" 3 ก.ค. ย้ำผลประโยชน์ Win-Win
- ราคาทองคำวันนี้ 30 มิ.ย. 2568 เปิดตลาดร่วง 100 ทองรูปพรรณขาย 51,300 บาท
- ราคาบิตคอยน์วันนี้ (30 มิ.ย. 68) ขยับขึ้น 1.29%
- ยอด Xiaomi YU7 ทะลุ 3 แสนคันชั่วโมงแรก ท้าชน Tesla อาจต้องลดราคา l การตลาดเงินล้าน