ศาสนาเสื่อม-สังคมสั่นคลอน! พรรคกล้าธรรมดันร่างกม.สงฆ์ ส.ว.สะท้อนแรงศรัทธาถดถอย วัดโยงสีกา-งบพัดยศถูกหั่น
นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม(กธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคกล้าธรรม มีความกังวลต่อกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับพระภิกษุสงฆ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา พรรคจึงอยู่ระหว่างจัดทำร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับพระสงฆ์ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ รวมถึงการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการบรรพชาอุปสมบท เช่น ระยะเวลาในการบวช และมาตรการตรวจสอบเพื่อสร้างความโปร่งใส
“เราห่วงใยความรู้สึกของพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง พระสงฆ์คือที่พึ่งทางใจของคนไทย เราจึงต้องช่วยกันนำความเลื่อมใสและศรัทธาในพระพุทธศาสนากลับคืนมา” นายสะถิระ กล่าวและว่า
ทั้งนี้ ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบในด้านข้อกฎหมายโดยนักกฎหมายของพรรค และเมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จ พรรคจะยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป
"ส.ว.ภิญญาพัชญ์" หารือกลางที่ประชุมวุฒิสภา
ด้านน.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา ได้ลุกขึ้นหารือในที่ประชุมวุฒิสภา โดยแสดงความกังวลต่อกระแสความเสื่อมศรัทธาที่ถาโถมวงการสงฆ์อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากกรณี “สีกา” ที่เกี่ยวโยงกับพระผู้ใหญ่ และนำไปสู่การจับสึก รวมถึงการเปิดโปงขบวนการฟอกเงินที่ใช้วัดเป็นช่องทางอำพราง
“ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เริ่มตั้งคำถามว่ายังควรศรัทธากับวัดได้หรือไม่” เธอกล่าว พร้อมเปิดเผยกรณีล่าสุดจากวัดชื่อดังที่ต้องยกเลิกพิธีเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา เพราะเจ้าอาวาสหายตัว ก่อนมีชื่อโยงกับสีกาคนเดิม
“ศาสนาอ่อนแรง สังคมก็อ่อนแอ พระดีต้องถูกเหมารวม นี่คือความอยุติธรรมที่ต้องได้รับการแก้ไข” ส.ว.ภิญญาพัชญ์ กล่าว พร้อมเสนอให้มีแผนฟื้นฟูศรัทธาอย่างเร่งด่วน การตรวจสอบทรัพย์สินวัดอย่างโปร่งใส และสร้างพื้นที่ให้พระสงฆ์ดีมีที่ยืนในสังคม
เธอทิ้งท้ายเรียกร้องให้วุฒิสภาทำหน้าที่เป็น “กระจกส่องสังคม” และเป็นแรงผลักสำคัญในการคืนศักดิ์ศรีให้พระพุทธศาสนา ย้ำว่า “การอภิปรายนี้ไม่ใช่เพื่อลดทอนศาสนา แต่เพื่อรักษาสิ่งที่ควรค่าแก่การปกป้อง”
"ณพลเดช"เผยสำนักพุทธฯ ต้องปรับลดงบจัดทำพัดยศพระสงฆ์
ดร.ณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการงบประมาณฯ และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ในการประชุมพิจารณางบประมาณประจำปี 2569 ณ อาคารรัฐสภา มีการปรับลดงบประมาณสำหรับพัดยศพระสงฆ์ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จากเดิม 16.5 ล้านบาท เหลือเพียง 8.1 ล้านบาท หลังมีประกาศราชกิจจานุเบกษายกเลิกการสถาปนาสมณศักดิ์พระสงฆ์จำนวน 81 รูป ส่งผลให้ต้องยกเลิกการจัดทำพัดยศจำนวนมากตามไปด้วย
ดร.ณพลเดช ยังกล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวงการพระพุทธศาสนาในภาพรวม พร้อมเสนอให้ภาครัฐเพิ่มมาตรการควบคุม โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอก—โดยเฉพาะผู้มีเจตนาไม่บริสุทธิ์—แทรกแซงหรือหาประโยชน์จากพระสงฆ์ ซึ่งเคยนำไปสู่คดีปาราชิกในอดีต และเรียกร้องให้เร่งออกกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อเสริมบทบาทพระสงฆ์ที่ดีและฟื้นฟูศีลธรรมในสังคมไทย