เกิดอะไรขึ้นในวอชิงตัน ดี.ซี.? ทรัมป์สั่งตำรวจ-ทหารลงถนน ล่าอาชญากร
ไล่ล่าผู้ต้องสงสัย ลำเลียงรถหุ้มเกราะเข้าเมือง
CNN รายงานว่า กลางดึกเมื่อคืนนี้ มีผู้ถูกจับกุมในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ มากกว่า 20 คน หลังจากที่ทำเนียบขาวส่งเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางหลายร้อยนาย เร่งปราบปรามอาญกรรมในเมืองหลวงของสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านอาชญากรรมในเมืองหลวง
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า “ทำเนียบขาวได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่และตัวแทนจากรัฐบาลกลางราว 850 นาย และพวกเขาได้จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 23 ราย รวมถึงผู้ต้องสงสัยอีกหลายรายเมื่อคืนนี้ ในข้อหาที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ฆาตกรรม ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ครอบครองอาวุธปืนเพื่อจำหน่าย, ยาเสพติด, หลีกเลี่ยงค่าโดยสาร, กระทำอนาจาร, สะกดรอยตาม, ครอบครองปืนแมกกาซีนความจุสูง ขับรถขณะมึนเมาและขับรถโดยประมาท ด้านสำนักข่าวเอพีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังได้ยึดอาวุธปืนผิดกฎหมายอีก 6 กระบอกด้วย
CNN รายงานว่า สำนักงานสอบสวนกลางหรือ FBI อาจมมีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย ด้านแคช ปาเตล ผู้อำนวยการ FBI เขียนบน X ระบุว่า “ในการผลักดันครั้งใหญ่ครั้งแรกของ FBI ที่ให้การสนับสนุนโครงการ @realDonaldTrump ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อทำให้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ปลอดภัยอีกครั้ง FBI รายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 10 รายพร้อมกับพันธมิตร”
เขายังโพสต์เพิ่มเติมว่า “นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เราเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อคุณปล่อยให้ตำรวจที่ดีทำหน้าที่ตำรวจ พวกเขาก็สามารถทำความสะอาดถนนของเราได้และทำได้อย่างรวดเร็ว”
ในขณะเดียวกัน CNN พบเห็นหน่วยลาดตระเวนชายแดนและหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรอยู่ด้านนอกสถานีรถไฟ Union Station ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมกันนี้ รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ 5 คันจอดอยู่ใกล้กับอนุสาวรีย์วอชิงตันตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยเปิดสวิตช์กุญแจรถไว้ และเคลื่อนออกไปไม่นานหลังจากเวลา 20.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ไม่ชัดเจนว่ากองกำลังรักษาดินแดนกำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ใดของเมือง
ปราบอาชญากรรม ท่ามกลางเสียงค้าน
ขณะนี้ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กำลังอยู่ในภาวะที่เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมกรมตำรวจนครบาลของวอชิงตัน ดี.ซี. โดยตรง และสั่งให้กองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) จำนวนหลายร้อยนายลงระดมกำลังในพื้นที่ แต่ที่มาที่ไปของความเคลื่อนไหวดังกล่าวคืออะไร เหตุใดต้องประกาศภาวะฉุกเฉินกับเมืองหลวงของสหรัฐฯ เช่นนี้
ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เกิดเหตุเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหนุ่มวัย 19 ปีคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงประสิทธิภาพสหรัฐฯ หรือ DOGE ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างที่คนร้ายพยายามจี้และขโมยรถยนต์ของเขา ทรัมป์อ้างถึงเหตุรุนแรงนี้โดยโพสต์ภาพของชายหนุ่มที่เลือดเปื้อนตัว เขาจุดประกายว่ากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีปัญหาอาชญากรรมและความรุนแรงสูงเกินไป และประกาศว่าจะ "ทวงคืนเมืองหลวง"
การดำเนินการนี้อ้างอิงอำนาจตามมาตรา 740 ของกฎหมาย Home Rule Act ของวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งให้อำนาจประธานาธิบดีเข้าควบคุมกองกำลังตำรวจในสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้ก็สร้างความไม่พอใจให้กับนายกเทศมนตรีของวอชิงตัน ดี.ซี. คือ มูเรียล บาวเซอร์ และชาวเมืองบางส่วนที่ออกมาประท้วง เนื่องจากพวกเขามองว่าเป็นการแทรกแซงการบริหารเมืองและอาจคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะสถิติชี้ให้เห็นว่ากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี
เบื้องหลังปฏิบัติการ มีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่?
แม้ล่าสุด นายกเทศมนตรีมูเรียล บาวเซอร์ จะได้เข้าประชุมร่วมกับรัฐบาลกลางและหน่วยงานด้านกองกำลังต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และท้ายที่สุด เธอจำเป็นต้องให้การสนับสนุนการาทำงานของรัฐบาลกลางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่เมื่อเธอถูกถามระหว่างการสัมภาษณ์ทางวิทยุกับ "The Breakfast Club" ว่า การที่ทรัมป์ส่งกองกำลังป้องกันชาติไปนั้นมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย "จริงๆ" หรือ "มีแรงจูงใจทางการเมือง" ซึ่งบาวเซอร์ตอบตามตรงว่า ทรัมป์มีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างชัดเจน
บาวเซอร์กล่าวว่า คำตอบสั้น ๆ ก็คือ เขาต้องการส่งสารไปยังเมืองต่าง ๆ ว่าเขามีอำนาจในการใช้กฎหมายเพื่อประกาศสภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ หากเขามีอิสระที่จะเปิดปฏิบัติการนี้ในลอสแอนเจลิส และวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ เขาก็จะทำเรื่องนี้ได้ในนิวยอร์ก บัลติมอร์ ชิคาโก หรือที่อื่นๆ ที่มีผู้คนหลายล้านคนอาศัย ทำงาน และทำทุกอย่างอย่างถูกต้อง เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า นี่คือก้าวสำคัญของลัทธิฟาสซิสต์ เมื่อรัฐบาลกลางสามารถก้าวข้ามรัฐที่มีอำนาจอธิปไตยได้ และนั่นไม่ควรเกิดในสหรัฐอเมริกาของเรา
ทั้งนี้ ก่อนการส่งกำลังพลประจำการในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ได้ใช้กองกำลังป้องกันชาติในลอสแองเจลิสในเดือนมิถุนายนเพื่อปราบปรามการประท้วงเกี่ยวกับการบุกจับผู้อพยพ
ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ เวส มัวร์ จากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งกองกำลังรักษาดินแดนมาประจำการที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยระบุว่า เป็นแผนการทางการเมืองเช่นกัน เขากล่าวว่า “ตอนนี้ทรัมป์กำลังใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือ” มัวร์กล่าวกับแอนเดอร์สัน คูเปอร์ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น “เขากำลังใช้ทหาร ทหารพลเมืองเหล่านี้ เป็นกระบองและเป็นเครื่องมือเพื่อผลักดันจุดประสงค์ทางการเมืองของเขา”