‘ตั๊กแตน’ บุก ‘ยูเครน’ ทำลายพืช ผลจากสงคราม-ความแห้งแล้ง
“ตั๊กแตน” หลายล้านตัวกำลังบุกโจมตีหมู่บ้านและกัดกินพืชผลทางการเกษตรในเขตดนีปรอและซาปอริซเซียทางตอนใต้ของยูเครน และในเขตไครเมียที่รัสเซียควบคุม ด้วยเหตุสงครามทำให้ไม่สามารถใช้วิธีการควบคุมศัตรูพืชแบบดั้งเดิมได้ เจ้าหน้าที่และผู้ผลิตกล่าว
ภาพวิดีโอที่บันทึกได้ในเขตดนีปรอแสดงให้เห็นว่า มีตั๊กแตนหลายพันตัวกำลังรบกวนหมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยรายงานว่ามีตั๊กแตนหนาแน่นถึงประมาณ 50 ตัวต่อตารางเมตร ตั๊กแตนบินจำนวนมากปกคลุมใจกลางเมือง
จากรายงานข่าวในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมาพบว่า ตั๊กแตนน่าจะกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก โดยตั๊กแตนที่พบมากที่สุดมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ตั๊กแตนโลคัสตา (Locusta Migratoria) และตั๊กแตนอียิปต์ (Anacridium Aegyptium)
อันเดรย์ เพียตนิตสกี รองนายกเทศมนตรีเมืองซาปอริฌเฌีย กล่าวว่า “มีตั๊กแตนเป็นจำนวนมาก ท้องฟ้ามีแต่แมลง แต่ผมขอยืนยันอีกครั้งว่านี่ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน”
หน่วยงานรัฐบาลยูเครนระบุว่า การที่ตั๊กแตนจำนวนมากบุกเข้าในเมือง เป็นผลมาจากแนวชายฝั่งทางเหนือของทะเลดำและทะเลอาซอฟแห้งแล้งผิดปรกติ และความเสียหายต่อระบบนิเวศในท้องถิ่นจากสงครามที่ดำเนินมานานกว่าสามปี
สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคแห่งรัฐยูเครน แถลงว่า การที่กองทัพรัสเซียรื้อถอนเขื่อนคาคอฟวา เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดยักษ์บนแม่น้ำดนีปรอ น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ฝูงตั๊กแตนหนาแน่นมากขึ้น เนื่องจากทำให้พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะที่เคยจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอยู่อาศัยตั๊กแตนเสียหาย
กองทัพรัสเซียรื้อถอนเขื่อนเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าลดลง และทำให้เกิดน้ำท่วมคร่าชีวิตผู้คนไป 50-100 คน และทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
นอกจากนี้ พื้นที่รกร้างและพื้นที่เพาะปลูกที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ใกล้แนวรบยังกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ตั๊กแตนที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติมในภูมิภาคนี้ เนื่องจากกิจกรรมการสู้รบขัดขวางการทำเกษตรกรรมและการไถพรวนดิน ทำให้พื้นที่ที่อยู่อาศัยของตั๊กแตนมีขนาดใหญ่ขึ้น
แนวรบระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครนในเขตซาปอริซเซียของยูเครนและเขตโดเนตสค์ที่อยู่ติดกันมีความยาวประมาณ 150 ก.ม. และในพื้นที่ส่วนใหญ่กว้าง 30-40 ก.ม.
พื้นที่สองฝั่งแม่น้ำดนีปรอตอนล่างส่วนใหญ่เป็นที่ราบสเตปป์ เต็มไปด้วยดินร่วนสีดำหนาทึบ ทำให้ภูมิภาคนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ให้ผลผลิตสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยพืชผลที่นิยมปลูก ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง และทานตะวัน ล้วนอาหารโปรดของตั๊กแตน
นิตยสารข่าวอิสระ Ukrainska Pravda รายงานว่า ตั๊กแตนเหล่านี้ได้ทำลายดอกทานตะวันไปแล้ว 27 ตร.กม. แต่ในขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้แล้วในภูมิภาคซาปอริฌเฌีย
ขณะที่ ข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า ตั๊กแตนได้ทำลายพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดไปแล้ว 1,250 ไร่ ในเขตพื้นที่ที่เครมลินควบคุม โดยเฉพาะในเขตวาซิลลิฟสกี โดยให้สาเหตุตรงกันว่าการปรากฏตัวของตั๊กแตนเป็นผลมาจากสภาพอากาศแห้งแล้งและการไม่ได้ใช้พื้นที่เพาะปลูกอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเพาะพันธุ์ตั๊กแตนจำนวนมาก
“แมลงเหล่านี้กำลังอยู่ในช่วงขยายพันธุ์ ซึ่งจะทำให้การจัดการกับพวกมันมีความซับซ้อนมากขึ้นอย่างมาก” แถลงการณ์บางส่วนระบุ
อังเดรย์ ซิกูตา เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียประจำภูมิภาคไครเมียที่ถูกยึดครอง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และ “กำลังดำเนินมาตรการต่าง ๆ” เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงเหล่านี้โจมตีพืชผลเป็นจำนวนมาก
ส่วนสำนักงานคุ้มครองอาหารและผู้บริโภคของยูเครนเรียกร้องให้เกษตรกรเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและเฝ้าระวังพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อพืชผล