“อียู” เบรกปฏิญญาสภาพภูมิอากาศร่วม “จีน” กดดันลดปล่อยก๊าซจริงจังก่อนลงนาม
"อียู" เบรกปฏิญญาสภาพภูมิอากาศร่วม "จีน" เหตุจีนยังไม่ให้คำมั่นใหม่ที่ชัดเจนในการลดก๊าซเรือนกระจก อียูต้องเร่งส่งเป้าหมายใหม่ปี 2035 ให้ยูเอ็นกลาง ก.ย.
วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.04 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) ชะลอการลงนามในปฏิญญาร่วมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับจีน ซึ่งเดิมตั้งใจให้เป็นหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของการประชุมสุดยอดระหว่างสองฝ่ายในเดือนนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ตามรายงานของ Financial Times ที่อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสิ่งแวดล้อมของอียู เมื่อวันจันทร์
แม้เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของอียูจะถือว่าทะเยอทะยานที่สุดในโลก แต่เป้าหมายเหล่านั้นยังคงมุ่งเน้นเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซภายในประเทศเท่านั้น ปัจจุบันอียูต้องเร่งจัดทำเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศปี 2578 ใหม่เพื่อส่งต่อองค์การสหประชาชาติก่อนกำหนดกลางเดือนกันยายน
เจ้าหน้าที่อียู กล่าวว่าบรัสเซลส์ปฏิเสธคำร้องขอซ้ำ ๆ ของปักกิ่งที่ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายออกคำมั่นร่วมกันเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศหลังการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เว้นแต่จีนจะให้คำมั่นใหม่ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โวปเก โฮคสตรา กรรมาธิการด้านสภาพภูมิอากาศของอียู กล่าวกับ Financial Times ว่า “สำหรับมุมมองของเรา การออกแถลงการณ์ร่วมจะมีความหมายก็ต่อเมื่อมีเนื้อหาสาระที่เป็นรูปธรรมและมีความทะเยอทะยานที่แสดงออกอย่างชัดเจน”
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวตอบโต้ว่าจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำมาโดยตลอด
โฆษกเหมา หนิง กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันว่า “เราจะเดินหน้าทำงานร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีส่วนสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมนุษยชาติ”
ทั้งนี้จีนยังคงเผชิญความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดความเข้มข้นของการปล่อยคาร์บอนลง 18% ภายในระยะเวลา 5 ปีที่สิ้นสุดในปีนี้
อ้างอิง : www.reuters.com