โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ขอมไม่ใช่เขมรในแบบเรียนไทย ปรากฏครั้งแรกเมื่อไหร่?

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพวาดเขาพระวิหาร และเส้นทางเดินสู่ตัวปราสาทแต่ละชั้น (ภาพจาก “โบราณวัตถุสถานทั่วราชอาณาจักร” กรมศิลปากร)

ขอมไม่ใช่เขมรในแบบเรียนไทย ปรากฏครั้งแรกเมื่อไหร่?

“แบบเรียน” ในระบบการศึกษา คือสื่อในการสร้างเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการผลิตเนื้อหาของแบบเรียนใดๆ ย่อมมีวัตถุประสงค์ ทัศนคติ ค่านิยม บางอย่างอยู่ในนั้น

โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “กัมพูชา” แบบเรียนประวัติศาสตร์ของไทยมักให้ภาพว่าเป็นประเทศที่อ่อนแอกว่า และมักมีเหตุยุ่งยากเกิดขึ้นในบ้านเมือง เพราะเจ้าในราชวงศ์แตกสามัคคีและแย่งราชบัลลังก์กันเสมอ

คนไทยใต้อำนาจขอม

การนำเสนอภาพของกัมพูชาในแบบเรียนไทยระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ปรากฏอย่างละเอียดในงานวิจัยเรื่อง “กัมพูชาในแบบเรียนของไทย” โดย ผศ. ดร. ธิบดี บัวคำศรี ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และการเมืองกัมพูชา ซึ่งกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรมออนไลน์ ขอหยิบบางประเด็นจากงานวิจัยมานำเสนอ

งานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า มีการกล่าวถึงกัมพูชาเป็นครั้งแรกในแบบเรียน สังคมศึกษา ป. 2 หลักสูตร พ.ศ. 2503 แต่งโดย ก่อ สวัสดิ์พาณิชย์ ซึ่งมีตอนหนึ่งอธิบายว่า ก่อนที่คนไทยจะอพยพลงมาจากทางตอนเหนือนั้น ดินแดนซึ่งเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน “เป็นที่อยู่ของชนชาติละว้า และชนชาติขอม เมื่อบรรพบุรุษของพวกเราอพยพลงมานั้น พวกขอมและละว้าก็ยังครองแผ่นดินอยู่ บางพวกก็อพยพไปอยู่ที่อื่นต่อไป”

ขณะที่แบบเรียน สังคมศึกษา ป. 4 หลักสูตร พ.ศ. 2503 ก็ระบุว่า “(ชนชาติไทย) เข้ามาจับจองดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่ของชน 3 ชาติ ซึ่งต่างก็แบ่งกันครองอำนาจอยู่ คือ ชาติขอม ชาติมอญ และชาติละว้า” โดยชาติขอมมีอำนาจมากกว่าชาติอื่น และเมื่อไทยลงมาตั้งมั่นในแหลมทองได้แล้ว ก็รวมกำลังกันขับไล่ขอมที่มีอำนาจแต่เดิมออกไป แล้วสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึ้น

ต่อมา การเล่าเรื่องความเป็นมาของชนชาติไทยก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่เน้นว่าคนไทยอพยพมาจากดินแดนอื่น แต่บอกว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานในดินแดนที่เป็นประเทศไทยปัจจุบันมานานแล้ว มีพัฒนาการเป็นลำดับ จนเป็นอาณาจักรที่มีความเจริญรุ่งเรือง และไม่กล่าวถึงขอม มอญ ละว้า ว่าเป็นเจ้าของดินแดนแต่เดิม

ขอมไม่ใช่เขมรในแบบเรียนไทย

ผศ. ดร. ธิบดี ตั้งข้อสังเกตในงานวิจัย “กัมพูชาในแบบเรียนของไทย” ว่า แม้จะไม่มีคำอธิบายทางโบราณคดี ที่ยืนยันถึงความเก่าแก่ของชนชาติไทยบนดินแดนประเทศไทย แต่แบบเรียนก็มีทางออกให้ชนชาติไทย ที่ลงมาอยู่ในบังคับของขอม ก่อนจะลุกฮือขึ้นปลดแอกขับไล่ขอมออกไป ด้วยการอธิบายว่า “ขอมไม่ใช่เขมร”

เรื่องนี้เห็นได้ชัดที่สุดในแบบเรียน สังคมศึกษา ป. ปลาย หลักสูตร พ.ศ. 2503 ว่า

“กัมพูชาเคยตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของขอม อินเดีย เวียดนาม และไทย มาแล้ว ต่อมาก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นประเทศเล็กที่ตั้งอยู่บนแหลมอินโดจีนก็จริง แต่ทว่าขอมหรือเขมรโบราณที่เคยอาศัยอยู่ในกัมพูชานี้ เป็นพวกที่มีอารยธรรมมาแต่โบราณกาล มากกว่าชาติใดๆ ในแหลมอินโดจีน เช่น มอญ ละว้า”

ชุดความคิดขอมไม่ใช่เขมรในแบบเรียนไทย ยังปรากฏในแบบเรียน ประวัติศาสตร์ไทยและต่างประเทศ ม. 1 หลักสูตร พ.ศ. 2503 ว่า

“(สาธารณรัฐเขมร) มีคนอยู่มาก่อนหลายชาติ เช่น ฟูนัน เจนละ ขอม คนไทยรู้จักขอมมากกว่าชาติอื่นๆ…ขอมเป็นผู้ที่มีอารยธรรมสูง มีคนอยู่ใต้อำนาจมาก มีกองทัพใหญ่จึงเจริญรุ่งเรืองอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 17-19…..อาณาจักรขอมเสื่อมสลายลงเพราะมีชนชาติอื่นมีอำนาจมากกว่า ชื่อขอมค่อยๆ หายไป มีชื่อเรียกอย่างอื่นมาแทน คือ กัมพูชา..…ชนชาติกัมพูชาสามารถรวบรวมอาณาจักรขอมที่แตกแยกกันให้เป็นอาณาจักรเดียวกันและเรียกชื่อใหม่ว่าอาณาจักรกัมพูชา…..ภาษาเขมรรับอิทธิพลจากภาษาขอมทั้งการเขียนและการพูด”

เนื้อหาดังกล่าวเป็นการบอกว่า ไทยเคยอยู่ใต้บังคับของขอม แต่ไม่เคยอยู่ในบังคับของเขมรหรือกัมพูชานั่นเอง แต่เมื่อมีความรู้ทางโบราณคดีซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์กว่า และรับกับการเปลี่ยนไปของความรู้อื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน เรื่องขอมไม่ใช่เขมรจึงถูกละเลยไปในที่สุด

ประเด็นที่น่าสังเกตคือ แบบเรียนในหลักสูตร พ.ศ. 2503 อยู่ในห้วงเวลาที่ไทยกับกัมพูชามีความขัดแย้งเรื่องคดีปราสาทพระวิหารตั้งแต่ พ.ศ. 2501-2505 ที่ท้ายสุดวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) มีมติด้วยเสียง 9 ต่อ 3 ให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา

เป็นเรื่องน่าคิดต่อไปว่า ปัจจุบันท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง และความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาที่บางช่วงแสนเปราะบาง “แบบเรียนไทย” จะนำเสนอเนื้อหาที่จะส่งผลต่อความรับรู้ของคนไทยที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านชายแดนติดกันอย่างไร?

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 8 สิงหาคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ขอมไม่ใช่เขมรในแบบเรียนไทย ปรากฏครั้งแรกเมื่อไหร่?

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

6 ชุมชนจีนในอยุธยา ตั้งอยู่ตรงไหนบ้าง?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การสักยันต์ เครื่องรางที่ไม่ต้องพกพา เพราะใช้ร่างกายในการ “สัก”

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

คำอวยพรวันแม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปลซึ้งกินใจ ใช้ได้จริง!

TNN ช่อง16

GDH เปิดตัว 5 โปรเจกต์ใหม่ จับตา ณเดชน์-มินนี่ (i-dle) ในภาพยนตร์ตีความใหม่จาก 50 First Dates

THE STANDARD

6 ชุมชนจีนในอยุธยา ตั้งอยู่ตรงไหนบ้าง?

ศิลปวัฒนธรรม

WWE เซ็นสัญญาราคากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์กับช่อง ESPN ในอเมริกา

THE STANDARD

ส่องเทรนด์เฮลตี้ที่ชวนมา Move, Groove, Connect แบบเป็นแก๊งกับสปอร์ตคลับ

Capital

แนะนำสติกเกอร์ทางการออกใหม่สุดปัง! (ประจำวันที่ 4-8 สิงหาคม 2568)

LINE STORE

หนทางเดินของนักบรรพชีวินวิทยา “Mr.DinoDigger” แฟนพันธุ์แท้ไดโนเสาร์

a day magazine

ม.กรุงเทพธนบุรี คว้า 5 ดาวด้านการสอนจาก QS Stars เวทีระดับโลก

MATICHON ONLINE

ข่าวและบทความยอดนิยม

ขอมไม่ใช่เขมรในแบบเรียนไทย ปรากฏครั้งแรกเมื่อไหร่?

ศิลปวัฒนธรรม

การสักยันต์ เครื่องรางที่ไม่ต้องพกพา เพราะใช้ร่างกายในการ “สัก”

ศิลปวัฒนธรรม

รูปสลักพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 บนเกาะลังกา มีอยู่จริงหรือ!?

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...