พนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐราว 154,000 คน ตอบรับข้อเสนอ “ลาออกโดยสมัครใจ”
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่า การลาออกดังกล่าว ซึ่งคิดเป็น 6.7% ของแรงงานพลเรือนในรัฐบาลกลาง เป็นผลมาจากโครงการของนายอีลอน มัสก์ อดีตที่ปรึกษาของทรัมป์ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา และหลายเดือนต่อมา หน่วยงานต่าง ๆ ของสหรัฐ ก็มีข้อเสนอที่คล้ายคลึงกัน
หนังสือพิมพ์ “เดอะ วอชิงตัน โพสต์” รายงานครั้งแรกว่า จำนวนพนักงานที่รับข้อเสนอลาออกโดยสมัครใจ สูงกว่าอัตราการลาออก 5.9% ในแรงงานพลเรือนของรัฐบาลสหรัฐเมื่อปี 2566 เล็กน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง 154,000 คนนี้ ยังไม่รวมพนักงานที่ถูกไล่ออก หรือเลือกเข้าร่วมโครงการอื่น ๆ เพื่อลดเงินเดือนของรัฐบาลกลาง เช่น โครงการจูงใจให้เกษียณอายุก่อนกำหนด
“ในยามปกติ อัตราการลาออก 6.7% ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับรัฐบาลกลาง แต่ขณะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ปกติ ซึ่งนอกจากการปลดพนักงานในช่วงทดลองงาน และการปรับลดพนักงานจำนวนมาก โครงการลาออกโดยสมัครใจ ยังทำให้ขีดความสามารถของรัฐบาลลดลงอย่างมาก” นายดอน มอยนิฮาน ศาสตราจารยจากสถาบันฟอร์ดเพื่อนโยบายสาธารณะ ของมหาวิทยาลัยมิชิแกน กล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของทำเนียบขาว (โอพีเอ็ม) หรือฝ่ายบุคคลของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันการปรับลดพนักงานรัฐบาลกลาง ยืนยันตัวเลขดังกล่าว พร้อมกับเสริมว่า โครงการนี้ช่วยประหยัดต้นทุนได้.
เครดิตภาพ : AFP