‘Taste of Skills…รสชาติของทักษะ’ พัฒนาคน-พัฒนาสังคม เพิ่มแข่งขันของชาติ
เช่นเดียวกับ SCG ที่มีความคิดเรื่อง “การพัฒนาทุนมนุษย์” คือหัวใจของการพัฒนาองค์กร เพิ่มความสามารถการแข่งขันของชาติ SCG เชื่อว่าคุณภาพของคน สะท้อนคุณภาพของสินค้าและบริการ จึงส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ตลอดเวลา รวมทั้งสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ผมมีโอกาสได้ทำงานพัฒนาสังคมร่วมกับ SCG ตั้งแต่สมัยยังมี “CSR Club” ที่ตลาดหลักทรัพย์ มีโอกาสไปเรียนรู้สร้างฝาย และทำงานพัฒนาชุมชนต้นน้ำ ที่บ้านสามขา ในจังหวัดลำปาง และต่อมาได้ไปชมงานพัฒนาสังคมในจังหวัดต่าง ๆ ที่มี
โรงปูนอยู่อีกหลายจังหวัด ได้เห็นโครงการใหม่ ๆ ส่งเสริม Zero Waste, Circular Economy, BCG และ Net Zero
แต่ที่ผมสนใจมากคือ “การพัฒนาคน” ที่มีโครงการหลากหลาย ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายสิบปีโดย “มูลนิธิSCG” มีทั้งการให้ทุนการศึกษาเด็ก ๆ ที่ยากไร้ด้อยโอกาส การสนับสนุนการเรียนอาชีว
ศึกษาในสถาบันต่าง ๆ ที่เรียนไปด้วยทำงานในสถานประกอบการไปด้วย เพิ่มทักษะ และเพิ่มรายได้ระหว่างเรียน รวมถึงโครงการ “ต้นกล้าชุมชน” ที่คัดเลือกเยาวชนที่มี “Passion” ในการพัฒนาชุมชนบ้านเกิดมาร่วมกันเรียนรู้พัฒนาโครงการ สร้างเศรษฐกิจใหม่ ๆ ต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่เดิมในชุมชน โครงการเหล่านี้ SCG เรียกว่า “Learn to Earn” เรียนรู้เพื่ออยู่รอด เรียนรู้เพื่อสร้างรายได้
ในค่ำคืนของงาน “Taste of Skills” นี้ ทีมงานมูลนิธิ SCG ได้เชิญน้อง ๆ ในโครงการ “ต้นกล้าชุมชน” มาร่วมกันสร้างสรรค์เมนูรสเลิศ และถ่ายทอดประสบการณ์จากชุมชนท้องถิ่นของเขาผ่าน “Chef Table” ซึ่งนับเป็นสุดยอด “Soft Power” ของไทย ก่อนเริ่ม Dinner ผมได้คุยกับ “ต้นกล้าอุ้ม” จากบุรีรัมย์ พัฒนาพันธุ์ข้าวไทย และเกษตรอินทรีย์จนมีคุณภาพจนส่งออกไปทั่วโลก พร้อมทั้งได้ทดลองแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรสู่อาหารนวัตกรรม “ต้นกล้าไลลา” จากตรังเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมจากดอกไม้ใบไม้ต่าง ๆ ที่ปลูกในชุมชนจนเป็นสิ่งทอ “Eco Print” ใช้วัสดุย้อมสีธรรมชาติสำหรับผ้าที่ใช้บนโต๊ะอาหาร “ต้นกล้าเอิร์ธ” จากขอนแก่นเคยเป็นเด็กเกเร สนใจเรื่องมีดไม้ ได้พัฒนาตัวเองมาเป็นนักตีเหล็กโบราณ ทำเป็นมีด
สายมู และมีดที่ใช้ในครัวตามความต้องการของ Chef ที่สำคัญมีดบางชุดทำจากวัสดุเหลือทิ้ง เช่น แหนบรถบรรทุก ถือเป็น Circular Economy โดยใช้หลัก from Waste to Value เสียดายที่ “ต้นกล้าเคม” จากน่านที่พัฒนาเกษตรอินทรีย์ออแกนิก มาไม่ได้เพราะติดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเจอมา แต่ได้ส่งวัตถุดิบมาแทน และคนสำคัญ “ต้นกล้ารีย์” จากฟาร์มลุงรีย์ภาษีเจริญ รับบท Chef ใหญ่ในวันนี้ เขาบอกว่าภูมิใจที่มีโอกาสเข้าร่วม “โครงการต้นกล้าชุมชน” ตอนแรกเขาสนใจทำเรื่องการจัดการขยะในชุมชน การแยกขยะพลาสติกนำไปรีไซเคิล และต่อมาได้เรียนรู้พัฒนาทักษะการทำอาหาร และวันนี้เขาได้นำวัตถุดิบจากเพื่อน ๆ ต้นกล้าในโครงการต้นกล้าชุมชน จากเหนือจดใต้ จากภูผาสู่มหานที มารังสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ ดังนี้ เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยด้วย สาหร่ายเมืองตรัง และเมี่ยงหอยสองน้ำ ตามมาด้วยชุดสลัด สลัดพริกลาบ ไก่หลาม ช่างตีมีดแล่ปลา จนถึง จานหลักสุดอลังการ จากภูผา…สู่มหานที จบด้วยของหวาน ตาลลอยแก้ว และข้าวของคณึงนิตย์ ซึ่งเป็นไอศกรีมรสไม่เหมือนใครจากข้าวชุมชน
อาหารแต่ละจานสร้างสรรค์ถ่ายทอดเรื่องราวชุมชนได้ลึกซึ้ง ใช้ภาชนะจากวัสดุท้องถิ่น ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ มีการจับคู่ด้วยไวน์ที่มีรสชาติเข้ากับอาหารจานนั้น ๆ โดยอาจารย์จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ระหว่างมื้ออาหารทางมูลนิธิ SCG ได้เชิญ ยุวศิลปินไทย จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหิดล มาบรรเลงเพลงคลาสสิกที่ออกแบบท่วงทำนองให้เข้ากับอาหารแต่ละช่วง รวมถึงโชว์ศิลปะการบริการจากน้อง ๆ ที่เรียนสายวิชาชีพ ได้รับการฝึกฝนอย่างดีจากวิทยาลัยดุสิตธานี
การจัดChef Table แบบนี้ ถือว่าเป็นSoft Power ด้านอาหารของไทยที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกก็ว่าได้ สามารถสร้างโอกาส และรายได้ให้น้อง ๆ และชุมชน สำหรับ “เหล่าต้นกล้า” นี่คือการเรียนรู้ ที่ไม่มีที่สิ้นสุด Life Long Learning ตามปรัชญาการพัฒนาทุนมนุษย์ของSCG ใครสนใจสนับสนุนน้อง ๆ ขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก มูลนิธิSCG นะครับ.