หุ้นไทยอาจเหลือ 1,000 จุด หากสหรัฐเก็บภาษีการค้า 36 % ดีบีเอส แนะถือทองคำลุ้น 3,765 ดอลลาร์

ภายใต้เงาของนโยบายภาษีสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก

ดีบีเอส วิคเคอร์ส เตือนดัชนีอาจร่วงถึง 1,000 จุด หากไทยถูกเก็บภาษีนำเข้า 36 % ขณะที่ DBS Bank ชี้ "โดนัลด์ ทรัมป์" สร้างความปั่นป่วนทั่วโลก

แนะลงทุนในหุ้นกลุ่มบริโภคในประเทศและกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย พร้อมจับตา ทองคำ ที่มีแนวโน้มพุ่งสูงแตะ 3,765 ดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก สะท้อนถึงความจำเป็นในการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

จันทร์เพ็ญ ศิริธนารัตนกุล กรรมการบริหารอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีปัจจัยกดดันหลัก 2 เรื่อง

ได้แก่ นโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา และ สถานการณ์การเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไทยต้องเผชิญกับภาษีที่ระดับ 35% ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจถูกกดดันให้ลดลงเหลือเพียง 1,000 - 1,100 จุด

“เดิมที่ตั้งเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยไว้ที่ 1,300 จุด และคาดการณ์ GDP ปีหน้าเติบโต 1.8% แต่หากกำแพงภาษี 36% เกิดขึ้นจริง GDP ของไทยอาจเหลือเพียง 1% และจะกดดันดัชนีเป้าหมายลงเหลือ 1,100 จุด”

เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านการเติบโตและการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว การส่งออกอาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากภาษีของสหรัฐฯ และภาคการท่องเที่ยวที่หดตัว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

โดยที่ผ่านมาดอกเบี้ยนโยบายของไทยได้ปรับลดลงไปแล้ว 3 ครั้ง และคาดว่าจะมีการปรับลดอีก 1 ครั้งในปีนี้ และอีก 2 ครั้งในปีหน้า ส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายอาจลดลงเหลือ 1%

อย่างไรก็ตาม จันทร์เพ็ญได้แนะนำ หุ้นที่น่าลงทุน ในช่วงเวลานี้ ได้แก่ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศเป็นหลัก และหุ้นที่มีหนี้ในประเทศสูง ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย โดยมีรายชื่อหุ้นที่น่าสนใจ เช่น CPALL, COM7, OSP, DIF, ADVANC, WHAIR, PR9, BDMS, BCP, MTC

นโยบาย “ทรัมป์” และทิศทางการลงทุนทั่วโลก

เวย์ ฟุก โหว (Mr. Wey Fook Hou) Chief Investment Office, DBS Bank ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า นโยบาย 100 วันแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ตั้งแต่การลดงบประมาณของกระทรวงพลังงาน (DOGE) ไปจนถึงการจุดชนวนสงครามภาษีระดับโลก

แม้แนวทางเหล่านี้จะช่วยจัดตำแหน่งใหม่ให้กับสหรัฐฯ ในเวทีระหว่างประเทศ แต่ความไม่ชัดเจนด้านนโยบายยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดัน risk premium ของสินทรัพย์ทางการเงินสหรัฐฯ ให้เพิ่มสูงขึ้น

การผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ล่าสุด ยังคงสร้างความกังวลอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลัง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องปรับลดดอกเบี้ยลง คล้ายกับช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินนโยบายสงครามการค้ากับจีนในยุคแรก

อย่างไรก็ตาม เวย์ ฟุก โหว มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่น่าจะเข้าสู่ขาลงในเร็วๆ นี้ เนื่องจากยังมีเงินทุนจำนวนมากอยู่นอกตลาดทุนและพร้อมเข้าลงทุนเมื่อเกิดการปรับฐาน

เทรนด์การเติบโตของ AI ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปยังคงน่าสนใจ เนื่องจากการลดดอกเบี้ยนโยบายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ธนาคาร ยังให้น้ำหนัก “Overweight” กับ ทองคำ โดยคาดการณ์เป้าหมายที่ 3,765 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ จากการลุยซื้อทองคำของธนาครกลางทั่วโลก ภายในไตรมาส 4 ปี 2568 และแนะนำให้ลงทุนใน ตราสารหนี้ที่มีอายุ 3-5 ปี

สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทยในปัจจุบันเต็มไปด้วยความผันผวนจากปัจจัยภายนอกและภายใน การติดตามข้อมูลและปรับกลยุทธ์การลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนเหล่านี้

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หุ้นไทยอาจเหลือ 1,000 จุด หากสหรัฐเก็บภาษีการค้า 36 % ดีบีเอส แนะถือทองคำลุ้น 3,765 ดอลลาร์

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

• ตลท. หวังการเมืองไม่รุนแรง แนะนักลงทุนไทยมองหาโอกาส ต้องมั่นใจข้อมูล-หุ้นที่ตัวเองถือ
• ทำไม "มาม่า-คมสันต์-ชานนท์" 3 บิ๊กเนม ทุ่ม 142 ล้าน ซื้อหุ้น CHAGEE 51% ทั้งที่ธุรกิจยังไม่ทำกำไร
• รัฐดึงงบกลาง 1.15 แสนล้าน ปลุกเศรษฐกิจ หวังจีดีพีโต 0.4% หุ้นไหนได้ประโยชน์

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath