“อินเดีย” โต้ “สหรัฐ” ปมค้านนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ยันช่วยพยุงตลาดโลก-กันราคาพุ่ง
รัฐมนตรีน้ำมัน อินเดีย ย้ำการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียสอดคล้องกฎสากล ช่วยป้องกันวิกฤตราคาน้ำมันทะลุ 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบโต้สหรัฐที่เพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียเป็น 50%
วันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 13.36 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อินเดียออกโรงตอบโต้แรงกดดันจากสหรัฐที่เรียกร้องให้ยุติการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย
โดย ฮาร์ดีป ซิงห์ พูรี รัฐมนตรีน้ำมันอินเดีย ระบุว่า การนำเข้าน้ำมันดังกล่าวช่วยปกป้องเศรษฐกิจโลกจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน พร้อมโต้กลับถ้อยคำรุนแรงที่ที่ปรึกษาทำเนียบขาว ปีเตอร์ นาวาร์โร ใช้โจมตีอินเดีย
พูรี เขียนบทความในหนังสือพิมพ์ The Hindu ว่า“การที่อินเดียปฏิบัติตามกฎเกณฑ์สากลทุกประการ ได้ช่วยป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บางคนกล่าวหาว่าอินเดียกลายเป็นโรงฟอกน้ำมันรัสเซีย ซึ่งไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง”
แรงกดดันนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียบางรายการเป็น 50% เพื่อพยายามยุติสงครามยูเครน มาตรการดังกล่าวแตกต่างจากท่าทีต่อจีนซึ่งก็เป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่เช่นกัน โดย สกอต เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวหาว่า ตระกูลมหาเศรษฐีในอินเดียหากำไรจากสถานการณ์นี้ ขณะที่นาวาร์โรกล่าวหาว่าอินเดียกำลังเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องจักรสงครามรัสเซีย และเป็นเพียงโรงฟอกน้ำมันให้รัสเซีย
“อินเดียไม่ได้ทำผิดกฎ” พูรี ย้ำ พร้อมระบุว่าการนำเข้าน้ำมันอยู่ภายใต้กลไกราคาน้ำมันเพดาน (price-cap) ของกลุ่ม G7 ซึ่งมีเป้าหมายจำกัดรายได้ของรัสเซีย แต่ยังคงให้น้ำมันดิบไหลเวียนในตลาดอินเดียช่วยสร้างเสถียรภาพตลาดและป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงเกินไป
บทความดังกล่าวเผยแพร่ขึ้นพร้อมกับที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย พบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในการประชุมสุดยอดภูมิภาคที่ประเทศจีนเมื่อวันจันทร์ โดยโมดีโพสต์บน X ว่าการสนทนากับปูตินเป็นไปอย่างลึกซึ้งเสมอ หลังทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองกัน
อ้างอิง : www.bloomberg.com