สะเทือนผู้ผลิตน้ำเชื่อมข้าวโพด! ทรัมป์เผย Coca-Cola จะกลับมาใช้น้ำตาลอ้อยแทน เพื่อสุขภาพหรือแค่เกมการเมือง?
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สร้างความฮือฮาบนโซเชียลมีเดียอีกครั้ง หลังโพสต์ข้อความระบุว่า Coca-Cola ตัดสินใจหันกลับมาใช้น้ำตาลอ้อยเป็นส่วนผสมหลักในการผลิตเครื่องดื่มโค้กในสหรัฐฯ แทนที่น้ำเชื่อมข้าวโพดความหวานสูง หรือ HFCS ที่ใช้มาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี
ทรัมป์ ระบุว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารของ Coca-Cola เกี่ยวกับการนำ “น้ำตาลอ้อย” กลับมาใช้ในการผลิต และทางบริษัทก็เห็นด้วย พร้อมกล่าวชมว่านี่คือการตัดสินใจที่ดี และย้ำว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่าเดิมจริงๆ
แม้ยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัดว่าโค้กสูตรน้ำตาลอ้อยจะมาแทนที่สูตรเดิมทั้งหมดหรือไม่ แต่ข่าวนี้ก็กลายเป็นประเด็นร้อนที่เชื่อมโยงไปถึงประเด็นสุขภาพ เศรษฐกิจการเกษตร และอุตสาหกรรมอาหารของสหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่มีหลายคนตั้งคำถามว่าเป็นแค่ประเด็นสุขภาพหรือแค่เกมการเมือง? การเปลี่ยนจากส่วนผสมที่มาจากน้ำเชื่อมข้าวโพด กลับไปใช้น้ำตาลอ้อยถูกจับตามองทันที เพราะเป็นการโยนหินถามทางในประเด็นที่สหรัฐฯ ถกเถียงกันมานานว่าน้ำเชื่อมข้าวโพด ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าน้ำตาลประเภทอื่นหรือไม่ แม้ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดในวงการแพทย์ แต่น้ำเชื่อมข้าวโพดมักจะถูกโยงกับโรคอ้วน เบาหวาน และปัญหาสุขภาพอื่นๆ
ปัจจุบัน Coca-Cola ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ใช้ส่วนผสมเป็นน้ำเชื่อมข้าวโพดเพิ่มความหวานเป็นหลัก แต่ในบางประเทศ เช่น เม็กซิโก ยังคงใช้สูตรน้ำตาลอ้อยอยู่ ซึ่งทำให้ ‘Mexican Coke’ กลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคอเมริกันบางกลุ่ม เพราะเชื่อว่ารสชาติยังเหมือนสูตรดั้งเดิมอยู่
ด้านสมาคมผู้ผลิตน้ำตาลจากข้าวโพด (Corn Refiners Association) ได้ออกมาเตือนทันทีว่า การเปลี่ยนสูตรดังกล่าว อาจทำให้แรงงานในอุตสาหกรรมอาหารตกงานหลายพันตำแหน่ง รวมถึงรายได้เกษตรกรลดลง และต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำตาลอ้อยมากขึ้น
หากย้อนไปที่ผ่านมา น้ำเชื่อมข้าวโพดความหวานสูงผลิตจากข้าวโพด ซึ่งปลูกในรัฐมิดเวสต์ เช่น อิลลินอยส์ ไอโอวา และเนบราสกาเป็นหลัก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทรัมป์ได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดถล่มทลาย
ขณะที่อ้อยปลูกในรัฐแถบอ่าวเม็กซิโก เช่น ฟลอริดาและหลุยเซียนา และต้องนำเข้าบางส่วนภายใต้ระบบโควตาภาษี แน่นอนว่าผลกระทบด้านตลาดไม่รอช้า หลังจากมีข่าวนี้เกิดขึ้น หุ้นของอุตสาหกรรมผู้ผลิตข้าวโพดร่วงทันที เริ่มตั้งแต่ หุ้นของ Archer Daniels Midland และ Ingredion สองบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตน้ำเชื่อมข้าวโพดความหวานสูง ร่วงลง 6.3% และ 8.9% ตามลำดับ ในการซื้อขายนอกเวลาตลาด ขณะที่ราคาหุ้น Coca-Cola ยังไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ คำประกาศของทรัมป์ครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข เดินหน้านโยบายควบคุมอาหารแปรรูป โดยล่าสุดเพิ่งประกาศว่า บริษัทไอศกรีมหลายสิบแบรนด์ ซึ่งครองตลาดกว่า 90% ในสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะเลิกใช้สีสังเคราะห์ที่ผ่านการรับรอง และยังแสดงจุดยืนต่อการใช้ส่วนผสมน้ำตาลทุกประเภท และยังเรียกว่า “น้ำตาลคือพิษ” โดยที่ไม่ได้แยกแยะว่าความหวานนั้นจะจากข้าวโพด หรืออ้อยแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากการเปลี่ยนสูตรครั้งนี้เกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการอาหารและเครื่องดื่มในสหรัฐฯ ที่ไม่เพียงส่งผลต่อรสชาติของโค้ก แต่ยังสะเทือนทั้งระบบเศรษฐกิจเกษตร และนโยบายสาธารณสุขในระยะยาว
อ้างอิง: