ปักหมุดไทย 2026 ‘Cartier’ เปิดประตูผู้ประกอบการหญิงไทยสู่เวทีโลก
ในยุคที่ ‘ทุนเพื่อสังคม’ และ ‘กิจการเพื่อสังคม’ กำลังกลายเป็นหัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืนและได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนและภาครัฐ การที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประกาศรางวัลระดับโลก ‘Cartier Women’s Initiative Awards 2026’ จึงนับเป็นจุดเปลี่ยนและบทพิสูจน์สำคัญของระบบนิเวศใหม่ที่กำลังเบ่งบานในประเทศไทย
สัญญาณนี้ชัดเจนขึ้นในงาน Cartier Women’s Initiative Gathering Night in Bangkok 2025 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเสมือนแหล่งรวมพลังของผู้ประกอบการหญิงชั้นนำของเมืองไทย บรรยากาศอบอวลไปด้วยแรงบันดาลใจ
THE STANDARD มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ Wingee Sin, Global Program Director of Cartier Women’s Initiative (CWI) สตรีผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการเกือบสองทศวรรษ เพื่อเจาะลึกถึงวิสัยทัศน์เบื้องหลังการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์นี้
จาก Wall Street สู่เส้นทางแห่ง Impact: ตัวตนของ Wingee Sin
เพื่อที่จะเข้าใจความมุ่งมั่นของ CWI เราต้องทำความรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ Wingee Sin ก่อนที่เธอจะมารับตำแหน่งผู้นำของโครงการนี้ เธอสั่งสมประสบการณ์ในโลกของการเงินและการบริหารจัดการทุนมานานกว่า 15 ปี ในสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Goldman Sachs & Co. และ Barclays Global Investors (BlackRock)
“ชีวิตคนเรามีได้หลายบทค่ะ” Wingee Sin เล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้ม “บทแรกของฉันคือโลกของตลาดทุน ที่นั่นทำให้ฉันได้เรียนรู้และเห็นกับตาถึงความท้าทายที่ผู้ประกอบการหญิงต้องเผชิญ โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน”
ประสบการณ์จากบทแรกของชีวิตกลายเป็นเครื่องมือและแรงผลักดันให้เธอเริ่มต้นบทที่ 2 คือ การอุทิศตนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ Cartier Women’s Initiative ความหลงใหลในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมของเธอเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเรียนที่ University of California, Berkeley และวันนี้ได้ผลิดอกออกผลอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแต่ใน CWI เธอยังดำรงตำแหน่งคณะกรรมการผู้พิจารณาการลงทุนให้กับ NextWave Ventures องค์กรที่มอบเงินทุนสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคมในระยะเริ่มต้น และยังเป็นผู้เขียนร่วมของหนังสือ Impact with Wings: Stories to Inspire and Mobilize Women Angel Investors and Entrepreneursซึ่งสะท้อนความเชื่อของเธออย่างชัดเจนว่า เมื่อผู้หญิงมีปีก พวกเธอก็พร้อมจะโบยบินและสร้างแรงกระเพื่อมที่ยิ่งใหญ่ได้
ถอดรหัส Impact Entrepreneur: เมื่อธุรกิจไม่ได้วัดผลแค่กำไร
หัวใจสำคัญของ CWI คือการสนับสนุน ‘ผู้ประกอบการหญิงเพื่อสังคม’ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาของสังคม พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยผลกระทบเชิงบวก Wingee Sin อธิบายความแตกต่างระหว่างผู้ประกอบการทั่วไปและผู้ประกอบการเพื่อสังคมว่า “เราเชื่อว่าธุรกิจสามารถเป็นพลังขับเคลื่อนความดีงามได้ เรามองหาธุรกิจที่ไม่เพียงมีความยั่งยืนทางการเงิน แต่ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายที่สังคมเผชิญอยู่”
CWI ให้ความสำคัญกับคำว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมมากกว่าตัวเลขในบัญชี และเรื่องราวของผู้ที่เคยได้รับรางวัลก็เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น เรื่องราวของ Namita Banka จากอินเดีย ผู้ได้รับรางวัล Impact Awards ประจำปี 2025
Namita Banka เริ่มต้นจากการเป็นดีไซเนอร์เครื่องประดับ แต่การเดินทางโดยรถไฟครั้งหนึ่งทำให้เธอค้นพบปัญหาการขาดแคลนสุขอนามัยและห้องน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในอินเดีย เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางมาทำธุรกิจห้องน้ำชีวภาพ หลายคนบอกว่ามันเป็นงานของภาครัฐและไม่มีทางทำกำไรได้ แต่เธอก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกคนคิดผิด
ปัจจุบัน Banka BioLoo ของเธอติดตั้งห้องน้ำชีวภาพให้กับการรถไฟอินเดียกว่า 3,000 ห้อง และเป็นบริษัทด้านสุขอนามัยแห่งแรกของอินเดียที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้
“เวลาเราพูดว่าธุรกิจไหนทำได้ดี จริงๆ แล้วนิยามของคำว่าดีควรจะต้องถูกนิยามใหม่ ความสำเร็จที่แท้จริงอาจไม่ใช่แค่การเติบโตหรือการระดมทุนได้มหาศาล แต่คือความยั่งยืนและผลกระทบที่ธุรกิจนั้นส่งมอบให้กับสังคม” Wingee Sin ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ THE STANDARD
ระบบนิเวศที่สมบูรณ์: 3 เสาหลักแห่งการสนับสนุนจาก CWI
สิ่งที่ทำให้ CWI แตกต่างและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริงคือ ระบบนิเวศการสนับสนุนที่ครบวงจร ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลักสำคัญ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับที่ใหญ่ขึ้น
- การสนับสนุนด้านการเงิน:โครงการมอบเงินทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ โดยผู้ที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 ในแต่ละสาขาจะได้รับเงินทุน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ, อันดับ 2 จะได้รับเงินทุน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ และอันดับ 3 จะได้รับเงินทุน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- การสนับสนุนด้านทรัพยากรมนุษย์:ผู้ได้รับคัดเลือกทั้ง 30 ท่านจะได้เข้าร่วมโปรแกรม Fellowship แบบเต็มรูปแบบตลอดหนึ่งปี ซึ่งรวมถึงการอบรมทักษะการเป็นผู้นำ การสื่อสาร การบริหารจัดการธุรกิจ และการขยายธุรกิจจากสถาบันธุรกิจชั้นนำของโลกอย่าง INSEAD
- การสนับสนุนด้านสังคม:ผู้เข้ารอบจะได้รับการประชาสัมพันธ์ในสื่อระดับโลก โอกาสในการสร้างเครือข่าย และได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน CWI Community ที่แข็งแกร่ง ซึ่งประกอบด้วยศิษย์เก่า ที่ปรึกษา และคณะกรรมการกว่า 500 คนทั่วโลก ที่พร้อมจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน
“เราไม่ได้มอบแค่รางวัลแล้วจบไป แต่เรามอบเครื่องมือ องค์ความรู้ และเครือข่ายที่จำเป็น เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถก้าวข้ามช่องว่างทางการเงิน จากจุดเริ่มต้นไปสู่การเติบโตอย่างเต็มศักยภาพได้” Wingee Sin กล่าว
เสียงจากประเทศไทย: พลังวิศวกรหญิงผู้สร้างแสงสว่างให้ชุมชนชายขอบ
ในค่ำคืนนั้นเรายังได้ฟังมุมมองจาก สาลินี เฮอร์ลีย์ ตาวรานนท์ Thai First Fellow คนแรกและคนเดียวของไทยจากปี 2014 เรื่องราวของเธอคือภาพสะท้อนที่สมบูรณ์แบบของผู้ประกอบการหญิงเพื่อสังคมที่ CWI ตามหา
สาลินี เด็กสาวจากภูเก็ต คือวิศวกรเครื่องกลผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานแสงอาทิตย์ หลังจากจบปริญญาตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้านวิศวกรรมพลังงานแสงอาทิตย์จาก University of Massachusetts สหรัฐอเมริกา เธอกำลังจะเริ่มต้นเรียนปริญญาเอก แต่เธอกลับเลือกที่จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อรับตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการของ Border Green Energy Team (BGET) ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานติดตั้งระบบพลังงานสะอาดให้แก่หมู่บ้านชายขอบและค่ายผู้ลี้ภัยบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเธอพบว่าโครงการของรัฐบาลที่เคยติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ให้แก่ครัวเรือนห่างไกลกว่า 300,000 หลังคาเรือนในปี 2004 นั้นกลับถูกทิ้งร้างไปถึง 80% ในอีกไม่กี่ปีต่อมา เนื่องจากขาดการบำรุงรักษาและผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ สาลินีมองเห็นปัญหาและเปลี่ยนให้เป็นโอกาส ในปี 2013 เธอก่อตั้งบริษัทของตนเองในชื่อ SunSawang ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตรง
SunSawang ไม่ได้เพียงแค่ขายแผงโซลาร์เซลล์ แต่สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน โดยฝึกอบรมช่างเทคนิคในท้องถิ่นให้สามารถติดตั้งและบำรุงรักษาระบบได้ นำแผงโซลาร์เซลล์เก่าที่ยังใช้งานได้มาซ่อมแซมและใช้ใหม่ควบคู่กับอุปกรณ์ราคาไม่แพงอย่างโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์หรือที่ชาร์จโทรศัพท์ และยังมีแผนการผ่อนชำระ 5 ปี เพื่อให้ชุมชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น โมเดลธุรกิจของเธอไม่เพียงนำแสงสว่างไปสู่พื้นที่ห่างไกล แต่ยังสร้างงาน สร้างทักษะ และสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ชุมชนอย่างแท้จริง
ผลงานที่โดดเด่นนี้เองที่ทำให้เธอได้รับรางวัล Cartier Women’s Initiative Awards ในปี 2014 และได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 Women ของ BBC ในปีเดียวกัน
“CWI เป็นโครงการสำหรับผู้หญิงโครงการแรกที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า ‘เข้ากันได้’ และเป็นส่วนหนึ่งจริงๆ หลังจากที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ผู้ชายเป็นใหญ่มาตลอด มันทำให้ฉันรู้สึกภูมิใจในความเป็นผู้หญิง” สาลินี เฮอร์ลีย์ ตาวรานนท์ ผู้ได้รับคัดเลือกชาวไทยคนแรกจากโครงการในปี 2014
คำพูดของเธอสะท้อนถึงความสำคัญของการมีชุมชนที่เข้าใจและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่ CWI มอบให้
เส้นทาง CWI: จากเวทีโลกสู่ประเทศไทย
- ปี 2006: Cartierก่อตั้งโครงการ Cartier Women’s Initiative ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงเพื่อสังคมทั่วโลก
- ปี 2014:ประเทศไทยมีผู้ได้รับคัดเลือกคนแรกคือ สาลินี เฮอร์ลีย์ ตาวรานนท์ จากผลงานบริษัท SunSawang ที่นำพลังงานสะอาดไปสู่ชุมชนชายขอบ
- ปี 2025:CWI ประกาศเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประกาศรางวัลระดับโลกในปี 2026 เปิดรับสมัครผู้ประกอบการหญิงไทยสำหรับรุ่นต่อไป ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน – 24 มิถุนายน 2025
- ปี 2026:พิธีประกาศรางวัล Cartier Women’s Initiative Awards 2026 จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย
เมื่อแบรนด์ระดับโลกอย่าง Cartier เข้ามาปักหมุดจัดกิจกรรมสำคัญในไทย ย่อมเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อวงการกิจการเพื่อสังคม และเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการหญิงไทยจะได้เชื่อมต่อกับเวทีสากล และจะเป็นบทพิสูจน์ถึงศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการในประเทศที่น่าจับตามองต่อไป