โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

บทสรุป สหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้านำเข้าไทย ลดเหลือ 19% เริ่ม 1 ส.ค. นี้

SMART SME

อัพเดต 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไทยลดภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ เหลือ 19% หลังเจรจาประสบความสำเร็จ สร้างกระตุ้นการแข่งขันการส่งออก และรักษาความเท่าเทียมทางการค้าในภูมิภาค

ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยแพร่เอกสารประกาศตารางการเก็บอัตราภาษีต่างตอบแทนของประเทศคู่ค้า โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นี้ โดยประเทศไทยจากเดิมถูกตั้งการจัดเก็บภาษีเดิมไว้ที่ 36% ถูกลดลงมาที่ 19%

ก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้นำเอา ‘ภาษีการค้า’ เป็นเครื่องมือดึงทั้งกัมพูชา และไทย เข้าสู่โต๊ะเจรจา หากทั้งสองประเทศยังไม่หยุดยิง ก็จะไม่เจรจาภาษี ซึ่งหลังจากลงนามข้อตกลงสันติภาพแล้ว ทรัมป์ได้โทรศัพท์หาผู้นำทั้งสองประเทศ และบอกให้ทีมการค้าเริ่มเจรจาอีกครั้ง

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงอัตราภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บไทย 19% ว่าการประกาศ Tariff rate ที่ 19% สะท้อนถึงมิตรภาพและความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย–สหรัฐฯ ช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

รมว.คลังย้ำในโพสต์ว่า การทำงานยังไม่สิ้นสุด รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการและพี่น้องเกษตรกร จึงได้จัดเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งงบประมาณ Soft Loan เงินอุดหนุน มาตรการภาษี และการปฏิรูปกฎระเบียบที่จำเป็น เพื่อยกระดับให้ไทยสามารถปรับตัวและก้าวสู่โลกเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมั่นใจ

นายพิชัยยังชี้ด้วยว่า ผลการเจรจาครั้งนี้เป็นสัญญาณให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัว เดินหน้าสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกในอนาคต และขอบคุณทีมไทยแลนด์สำหรับความทุ่มเทและความพยายามอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่ยากจะควบคุม แต่เรายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของพวกเราทุกคน

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19% ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36% และเกาะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐฯ สำเร็จแล้วก่อนหน้านี้

“การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีสินค้านำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง win-win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ” นายจิรายุกล่าว

ที่มา: whitehouse, ไทยคู่ฟ้า

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SMART SME

‘นักวิชาการธรรมศาสตร์’ แนะ วิธีเช็กสัญญาณเบื้องต้นที่ใครก็ทำได้ ช่วยสอดส่องผู้อพยพเสี่ยง ‘ฆ่าตัวตาย’

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Indy Arp Café แฟรนไชส์กาแฟอินดี้ ให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจโดยไม่ต้องลองผิดลองถูก

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่มีแผ่ว! อุตสาหกรรมกาแฟไทยเติบโตแรงต่อเนื่อง ปี 68 ทะลุ 6.5 หมื่นล้าน

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

3 ยักษ์ใหญ่ขนส่ง SCGJWD , Flash Express & ไปรษณีย์ไทย ผนึกจุดแข็ง ส่ง Fuze Post บุกตลาด Cold Chain

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ราคาทองวันนี้ 2 ส.ค. 68 พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 52,300 บาท

สยามรัฐ

ราคาทองคำวันนี้ 2 ส.ค. 2568 เปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 250 บาท รูปพรรณขายออก 52,300 บาท

TNN ช่อง16

ราคาทองวันนี้ 2 สิงหาคม 2568

สยามนิวส์

ราคาทองวันนี้ 2 ส.ค. ปรับขึ้น 250 บาท

เดลินิวส์

ทรัมป์ ปลด หัวหน้าสถาบันสถิติแรงงาน หลังตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด

การเงินธนาคาร

ปรับโฟกัส เปลี่ยนพฤติกรรม เส้นทางหลุดพ้นวิกฤติหนี้ครัวเรือน

Thairath Money

กำลังผลิต “พลังงานหมุนเวียน” ของจีน เพิ่มเกือบสองเท่า ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้

เดลินิวส์

ราคาน้ำมันวันนี้ 2 ส.ค. 68

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...