ปชน.จี้รัฐยึดหลักมนุษยธรรมสากล แก้ด่วนปม รพ.งดรับผู้ป่วยเขมร
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2568 พรรคประชาชน (ปชน.) มีข้อเสนอแนะจากกรณีที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกหนังสือประกาศเรื่อง การยกเลิกปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้สื่อสารชาวกัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชาโดยมีรายละเอียด คือ
1. ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และจิตอาสาต่างประเทศ
2. ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว
3. ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา
4. ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ให้จำกัดพื้นที่ให้ชัดเจน มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 10 สิงหาคม 2568 นั้น
พรรคประชาชนมีความเห็นว่า ประเทศไทยจะสามารถหยัดยืนในเวทีนานาชาติได้อย่างภาคภูมิใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงสถานการณ์การใช้กำลังปะทะกันระหว่างประเทศนั้น ก็ด้วยการยึดมั่นหลักมนุษยธรรมและหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นหลักประกันว่าประเทศไทยจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่ทำให้ไทยเสียเปรียบในเวทีระหว่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุสัญญาเจนีวา 4 ฉบับ ลงวันที่ 12 สิงหาคม 2492 โดยประเทศไทยได้ลงนามเมื่อปี 2497 ว่าด้วยกฎการทำสงครามและหลักสิทธิมนุษยชนในยามสงคราม โดยเฉพาะ ภาค 2 ข้อ 12 “ผู้สังกัดในกองทัพและบุคคลอื่นที่จะได้กล่าวถึงในข้อต่อไปนี้ ซึ่งบาดเจ็บหรือป่วยไข้ จะต้องได้รับความเคารพและคุ้มครองในทุกพฤติการณ์ บุคคลเหล่านี้ จะต้องได้รับการปฏิบัติและรักษาพยาบาลด้วยมนุษยธรรมโดยคู่พิพาทซึ่งตนตกอยู่ในอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงลักษณะความแตกต่างอันเป็นผลเสื่อมเสียเนื่องมาแต่เพศ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง หรือเหตุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน…”
การเลือกปฏิบัติของโรงพยาบาลในการรักษาผู้ป่วย ถือว่าขัดต่อหลัก International Humanitarian Law จะทำให้ประเทศไทยเสียหายมากในเวทีโลก และเสี่ยงต่อการถูกกัมพูชานำไปขยายผลในเวทีระหว่างประเทศ
พรรคประชาชน ได้รับข้อมูลว่ากระทรวงสาธารณสุขและแพทยสภา รวมถึงศบ.ทก. ได้รับแจ้งเรื่องนี้แล้ว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสอดคล้องกับหลักสากล
พรรคประชาชน ขอย้ำอีกครั้งว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ เราไม่ต้องการให้ความขัดแย้งบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งเกลียดชังระหว่างประชาชนเพราะถึงที่สุดแล้วไทย-กัมพูชายังจะต้องกลับมามีความสัมพันธ์ต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีการติดต่อแลกเปลี่ยนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก: พรรคประชาชน - People's Party