สร้างประติมากรรมในเมืองฝูโจว–เส้นทางสี จิ้นผิง(192)
สร้างประติมากรรมในเมืองฝูโจว--เส้นทางสี จิ้นผิง(192)
ในเมืองฝูโจว มีคำกล่าว “สี่ผู้เฒ่าเฝ้าประตูเมือง” หมายถึง ประตูเมืองทั้งสี่ทิศมีประติมากรรมของบุคคลที่มีชื่อเสียงทางวัฒนธรรม ได้แก่ “เหยียนฟู่” ที่ประตูตะวันออก “หลินเจ๋อสีว์” ที่ประตูใต้ “หวังเสิ่นจือ” ที่ประตูเหนือ และ “จางป๋ออี้ว์” ที่ประตูตะวันตก
ประติมากรรมทั้งสี่นี้ถูกเสนอและผลักดันให้สร้างขึ้นในช่วงที่นายสี จิ้นผิงดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองฝูโจว
วันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1991 นายสี จิ้นผิงได้เชิญนายหวง ฉี่เฉวียน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารคณะกรรมการบริหารโบราณวัตถุเมืองฝูโจวเข้าพบ โดยให้จัดทำรายชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงและอิทธิพลในประวัติศาสตร์ของเมืองฝูโจว เพื่อใช้ในการสร้างประติมากรรมของเมือง
ประติมากรรมในเมืองถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของเมืองนั้น ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 แห่งศตวรรษที่ 20 เมืองฝูโจวมีประติมากรรมไม่มากนัก ที่ผู้คนจดจำได้มีเพียงรูปปั้นเหมา เจ๋อตงที่หน้าหออี๋ว์ซาน และรูปปั้นเหลยเฟิงในสวนสาธารณะแม่น้ำไป๋หม่าเหอหรือลำน้ำม้าขาวเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้รอบรู้และนักประวัติศาสตร์ จึงเรียกร้องให้ส่งเสริมการสร้างประติมากรรมในเมืองฝูโจวหลายครั้ง นายสี จิ้นผิงจึงนึกถึงนายหวง ฉี่เฉวียน ผู้ซึ่งได้รับสมญานามว่า“วัวแก่” (“วัวแก่” ในภาษาจีนเป็นคำเปรียบเทียบของคนที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์และขยันขันแข็ง) แห่งวงการโบราณวัตถุและพิพิธภัณฑ์ของเมืองฝูโจว
หลังเกษียณจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองฝูโจวในปี 1989 นายหวง ฉี่เฉวียนได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยประวัติพรรคคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมือง และยังควบตำแหน่งรองผู้อำนวยการประจำคณะกรรมการกำกับโบราณวัตถุและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เมืองฝูโจว ด้วยการใช้ความพยายามอย่างขยันหมั่นเพียร การศึกษาค้นคว้า การสั่งสมความรู้และประสบการณ์มาเป็นเวลาหลายปี เขาจึงมีความรอบรู้ในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองฝูโจว
ไม่นาน นายหวง ฉี่เฉวียนก็ได้ส่งร่างรายชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวน 20 คนให้กับนายสี จิ้นผิง แต่นายสี จิ้นผิงขอให้เพิ่มเป็น 50 คน เพื่อนำไปเปิดรับความคิดเห็นจากสาธารณะ นายหวง ฉี่เฉวียนจึงกลับไปคัดเลือกเพิ่มเติมอย่างละเอียด และได้จัดทำรายชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของเมืองฝูโจวจำนวน 50 คน เป็นที่เรียบร้อย
วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1992 นายสี จิ้นผิงได้เขียนคำแนะนำกำกับไว้ในรายชื่อนั้นว่า “ช่วงเริ่มต้นประติมากรรมขาดได้แต่ไม่ควรไร้มาตรฐานอาจเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการมาหารือเพิ่มเติมอีกครั้งและกำหนดรายชื่อบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์รอบแรกประมาณ 20 คนโดยเน้นความเป็นตัวแทน”
สำนักงานคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวได้ส่งหนังสือขอความคิดเห็นไปยังผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการในมณฑลและในเมืองฝูโจวกว่า 30 ฉบับ และได้รับการสนับสนุนอย่างดี จากนั้นยังได้เชิญผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจำนวนหนึ่งมาร่วมประชุมหารือเพิ่มเติมด้วย
บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการต่างก็มีความเห็นตรงกันว่า การสร้างประติมากรรมบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของเมืองฝูโจว ถือเป็นหนึ่งในงานสำคัญสำหรับประชาสัมพันธ์เมืองที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อการยกระดับชื่อเสียงของเมืองฝูโจวและการให้การศึกษากับคนรุ่นหลัง การตัดสินใจของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองในเรื่องนี้ได้สะท้อนความต้องการของประชาชนทั้งเมือง
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่ร่วมประชุมได้กำหนดหลักการคัดเลือกบุคคลที่มีชื่อเสียงสำหรับการสร้างประติมากรรมอันได้แก่ ต้องมีลักษณะความเป็นตัวแทนในแวดวงต่างๆ เช่น ประวัติศาสตร์ สังคมฯลฯต้องเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ และต้องมีส่วนช่วยต่อการส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมืองฝูโจวให้เป็นที่รู้จักของภายนอกมากขึ้นพร้อมทั้งต้องแสดงถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นอย่างชัดเจน
ตามหลักเกณฑ์นี้ ได้มีการคัดเลือกบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของเมืองฝูโจวชุดแรกจำนวน 22 คน ได้แก่ หวังเสิ่นจือ, จางป๋ออี้ว์, เฉินเจิ้นหลง, หลินเจ๋อสีว์, หลินเจี๋ยหมิน, เหยียนฟู่และอื่น ๆ
วันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1992คณะทำงานได้รายงานผลการหารือและรายชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการคัดเลือกในเบื้องต้นเสนอต่อนายสี จิ้นผิง นายสี จิ้นผิงได้สั่งการให้ดำเนินการจัดทำ “แผนการสร้างประติมากรรมบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของเมืองฝูโจว” อย่างเป็นรูปธรรม
ต่อจากนั้น คณะทำงานได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเมืองฝูโจวเช่น คณะกรรมการบริหารเมือง สำนักงานอุทยาน สำนักงานวัฒนธรรม สำนักงานประวัติพรรคฯเป็นต้น เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม และเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ได้จัดทำรายงานผลการศึกษาหารือในชื่อ “รายงานสรุปผลการขอความคิดเห็นต่อแผนการสร้างประติมากรรมบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของเมืองเรา” (ต่อไปเรียกย่อว่า “แผนการสร้างฯ”)และเสนอนายสี จิ้นผิง
วันที่ 8 เมษายน นายสี จิ้นผิงได้ปรับแก้แผนดังกล่าวและเขียนข้อเสนอแนะว่า “เห็นชอบในหลักการ สามารถจัดทำเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการและดำเนินการตามแผนได้”
วันที่ 9 เมษายน สำนักงานคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวได้ส่งต่อ “แผนการสร้างฯ” ไปยังคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำอำเภอ/เมือง/เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ขึ้นตรงต่อเมืองฝูโจวเพื่อเปิดรับความคิดเห็นในวงกว้างยิ่งขึ้น
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทยศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่