โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"รัฐบาล" เร่งเคลียร์ "กม.-เอกชน" ดัน "รถไฟฟ้า" 20 บาทตลอดสาย ให้ทัน 1 ต.ค.นี้

สยามรัฐ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 22 ส.ค..68 นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายผ่านรายการโทรทัศน์เช้านี้ว่า ขณะนี้กฎหมายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ. การขนส่งทางราง ซึ่งผ่านสภาฯ แล้ว ส่วน พ.ร.บ. ตั๋วร่วม และ พ.ร.บ. รฟม. กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา

ส่วนจะพิจารณาได้ทันวันที่ 1 ต.ค. นี้ หรือไม่นั้น ฝ่ายบริหารของกระทรวงคมนาคมได้มีการพูดคุยประสานงานกับทุกหน่วยงาน ทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการคลัง เพื่อหาทางออกในการผลักดันโครงการนี้ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม กำลังหาทางอยู่ และพอพ้นเดือนนี้ไปก็คงจะสามารถบอกได้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

โดยเมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งหากกฎหมายผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาเรื้อรังของกรุงเทพฯ มานาน ทั้งเรื่องการเดินทาง มลพิษ ฝุ่นลดลง และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมองว่า สว. จะเห็นภาพเดียวกัน และจะช่วยผลักดันกฎหมายนี้ให้ผ่านได้โดยเร็ว

ส่วนในวันที่ 1 ต.ค. ประชาชนจะได้ใช้โครงการรถไฟฟ้า 20 บาททันหรือไม่ นายกฤชนนท์ กล่าวว่า คงต้องหาทางออก กำลังพูดคุยกันอยู่ รมว.คมนาคม กำลังทำทุกทาง หาทางออกในทุกทาง ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เคยให้ขึ้นรถไฟฟ้าฟรีเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งก็ทำได้เร็วมากในช่วงเร่งด่วน แต่ครั้งนี้เรามีการพูดคุยกันว่าทางออกจะไปทางไหนได้บ้าง เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด และครั้งนี้มีเงื่อนไขว่าสภาฯ จะผ่านเมื่อไร หนทางเป็นอย่างไรบ้างถึงจะสามารถให้ความชัดเจนได้ ซึ่งมองว่าขณะนี้ยังมีเวลาอีกประมาณ 1 เดือนกว่า

ทั้งนี้ ยืนยันว่าโครงการนี้เดินหน้าต่อแน่นอน ส่วนเรื่องวันเวลา วิธีการต่าง ๆ คงต้องรอในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ให้ชัดเจนอีกครั้ง แต่จะเริ่มต้นจากวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผูกบัตร EMV และบัตร Rabbit ในแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งไม่มีการจำกัดสิทธิในการลงทะเบียน เปิดให้ลงทะเบียนได้เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าโครงการนี้เดินหน้าแน่นอน

ในส่วนการพูดคุยกับภาคเอกชนนั้น นายกฤชนนท์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ต้องรอกฎหมายทั้ง 3 ฉบับผ่านก่อน แต่ในการพูดคุยกับเอกชนบนเงื่อนไขที่คุยคือไม่ได้เข้าไปแก้ไขปรับสัญญา ยังเป็นสัญญาเดิม โดยเบื้องต้นทั้งภาคเอกชนและคนไทยทุกคนก็อยากผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้เกิดขึ้น เนื่องจากเรามีรถไฟฟ้าทั้งหมด 24 โครงการ และมีคนใช้อยู่แค่ประมาณ 1.7 ล้านเที่ยว/วัน ซึ่งยังรองรับได้อีกมาก และคิดว่าถ้าโครงการนี้ได้ออกมาจะมีคนมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น

"ตอนนี้มีประชาชนใช้บริการ 1.7 ล้านเที่ยว/วัน เอกชนเขาเคยได้รายได้เท่าไร ก็จะได้เหมือนเดิม พอมีนโยบาย 20 บาทเข้าไป ก็จะทำให้คนมาใช้เยอะขึ้น ในส่วนที่คนมาใช้เยอะขึ้น รัฐอยู่ระหว่างพูดคุยว่า ส่วนที่เกินมาจะต้องมีส่วนลด (discount) ให้ กำลังคุยตัวเลขกันอยู่ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 20% หรือส่วนที่เกินจากปีที่ผ่านมา ๆ บวกด้วย Growth ประมาณ 3-4% เกินมาเท่าไรต้องมีส่วนลดให้ เพื่อผลักดันโครงการให้เดินหน้าต่อไป โดยเบื้องต้นได้รับเสียงตอบรับที่ดี และตอนนี้กำลังพูดคุยกันในรายละเอียดอื่น ๆ อยู่" นายกฤชนนท์ กล่าว

สำหรับงบประมาณของรัฐบาล ถ้าไม่มีประชาชนใช้บริการเพิ่มขึ้น ประเมินว่าจะจ่ายอยู่ที่ประมาณ 5,600 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ คาดว่าพอเริ่มโครงการจะมีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% หรือคิดเป็น 8,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งแหล่งที่มาของรายได้มีหลายทาง เบื้องต้นมีเงินกำไรสะสมของรฟม. ตลอด 20 ปีมีเงินก้อนหนึ่งจำนวน 10,000 กว่าล้านบาท ซึ่งจะนำเงินก้อนนี้มาใช้ และบวกด้วยเงินของรัฐบาล ในเฟสแรก ส่วนเมื่อประชาชนเริ่มมาใช้บริการมากขึ้น เพิ่มฟีดเดอร์ให้ดี เฟส 2 ที่ต้องดำเนินการคืออาจหางบมาจากส่วนอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมรถติด หรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ มาสนับสนุน และในเฟส 3 คือรถไฟฟ้าทยอยหมดอายุสัมปทาน เช่น สายสีเขียวหมดอายุปี 72 พอกลับมาเป็นของรัฐ ก็จะเหลือแค่ค่าบำรุงรักษา ค่าดูแล และพัฒนาระบบ

"ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะต้องถูกลงอย่างแน่นอน เพราะค่าใช้จ่ายที่แพงที่สุดคือค่าก่อสร้าง ซึ่งทยอยผ่อนมา พอครบ 30 ปีแล้ว ไม่ว่ารูปแบบจะเป็นอย่างไร ก็จะต้องหาที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด แต่ก็ยืนยันได้ว่าพอครบสัมปทานแล้วค่าใช้จ่ายจะลดลงอย่างแน่นอน" นายกฤชนนท์ กล่าว
เมื่อถามว่า การพูดคุยกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีความยุ่งยาก หรือเจรจายากที่สุดหรือไม่ นายกฤชนนท์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ในจำนวน 1.7 ล้านเที่ยว/วัน 70% มาจากสายสีเขียว และเป็นสายแรก ซึ่งตอนนั้นรูปแบบ วิธีการหรือสัญญาต่าง ๆ ยังไม่ได้ถูกปรับมา ทั้งนี้ มองว่าสามารถพูดคุยกันได้ เพราะ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ก็ดูแลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองด้วย

"มองในภาพรวมถ้าโครงการนี้เกิดขึ้น และประชาชนได้ประโยชน์ เรามีของอยู่แล้ว และจะแก้ปัญหาของชาวกทม. ได้ คือต้องผลักดันให้ใช้ขนส่งสาธารณะ เพราะเรามีคนใช้ขนส่งสาธารณะไม่ถึง 10% แต่ถ้าเป็นเมืองใหญ่ ๆ เขาใช้กันถึง 30-60%" นายกฤชนนท์ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

หวย "ฮานอย" ประจำวันที่ 22/08/68

22 นาทีที่แล้ว

หารือ RBC ไทย-กัมพูชาที่สระแก้วคืบหน้า แต่ยังไม่เปิดด่านจันทบุรี คุมเข้มแรงงานกลับประเทศต่อเนื่อง

23 นาทีที่แล้ว

ชาวเน็ตช็อก! บริจาคบุหรี่ให้ทหารแนวหน้า แต่เจอของเถื่อนจากฝั่งกัมพูชา

28 นาทีที่แล้ว

จำได้ไหม! ดาราซีรี่ย์วายสมัครทหารอยู่แนวหน้าชายแดน

29 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

วันชนวัน: วิกฤตชีวิตที่ ‘คนหาเช้ากินค่ำ’ กลางเมืองหลวงต้องเผชิญ

The MATTER

ค้าปลีก-ค้าส่ง อุบลฯ อัดโปรลดแหลกแจกแถม กระตุ้นยอดขาย หลังซึมพิษศึกเขมรติดลบ 5-10%

MATICHON ONLINE

ห้ามพลาด! “จตุพร” ชวนชอป งาน Thailand Local SDGs Plus Expo 2025

Manager Online

KTAM ขายกองทุนสำหรับชาวมุสลิม “KT-WISLAMIC” IPO 22 ส.ค. นี้

Khaosod

บุหรี่เถื่อนเหิม ฮุบส่วนแบ่ง 28% ของทั้งตลาด ภาษีวูบ 3 หมื่นล้าน ชาวไร่ คนขายท้อเลิกไปเยอะ

เดลินิวส์

Entertainment Complex เวียดนาม จากสนามทดลองสู่โมเดลเศรษฐกิจ

ฐานเศรษฐกิจ

ธนารักษ์เปิดตัว “Landlord Sharing” นำที่ราชพัสดุ 10 ล้านไร่ให้เอกชนร่วมพัฒนา นำร่อง รพ.นครพิงค์ ในปี 69

การเงินธนาคาร

เทคลีด เอ็นพีเอ็น รีแบรนด์ “GU Pay” สู่ “PayGenix”

การเงินธนาคาร

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...