ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ เกิดจากอะไร บทเรียนสุขภาพจากข่าว "ปั๊บ โปเตโต้"
"ปั๊บ โปเตโต้" ป่วยแอดมิทด่วนจาก ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ รู้จักภาวะนี้เกิดจากอะไร ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น วิธีป้องกันสุขภาพ
เพจฯ วง POTATO เผยว่า เมื่อคืนเวลา 00.30 น. หลังจบการแสดงคอนเสิร์ต พี่ปั้บ มีอาการมึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน จึงได้พาตัวส่งห้องฉุกเฉินที่ รพ.
จากการวินิจฉัยอาการเมื่อคืน ทางแพทย์ได้แจ้งว่าพี่ปั้บมีอาการ Hyponatremia ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ จากค่าปกติ 135-140 พี่ปั้บมีค่าโซเดียมอยู่ที่ 124 จึงทำให้ต้องทำการแอดมิทเมื่อคืนที่ รพ.
เมื่อเช้าเวลา 9.00 น. ทางแพทย์ได้มีการตรวจเลือดพี่ปั้บอีกครั้งและได้ผลลัพท์ที่ดีขึ้น ค่าโซเดียม กลับมาอยู่ที่ 131 ซึ่งใกล้เคียงค่าปกติ ทางแพทย์แนะนำให้พักฟื้นและให้น้ำเกลือที่ รพ. จนถึงช่วงเย็น เพื่อให้ค่าโซเดียมปกติ ก่อนจะกลับไปทำการแสดงรอบที่ 5 ในวันนี้
รู้จัก ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) คืออะไร สาเหตุ และวิธีป้องกันสุขภาพ
ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ หรือ Hyponatremia คือ ภาวะที่ระดับโซเดียมในเลือดต่ำกว่าค่าปกติ โซเดียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย รวมทั้งมีบทบาทในการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท ค่าปกติของโซเดียมในเลือดอยู่ที่ประมาณ 135 ถึง 145 มิลลิอีควิวาเลนต์ต่อลิตร หากต่ำกว่า 135 จะถือว่าเข้าสู่ภาวะโซเดียมต่ำ
อาการของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ Hyponatremia
อาการอาจมีตั้งแต่อ่อนๆ ไปจนถึงรุนแรง ขึ้นอยู่กับระดับโซเดียมที่ลดลง และความเร็วที่ระดับโซเดียมเปลี่ยนแปลง อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
* คลื่นไส้ อาเจียน
* ปวดศีรษะ
* สับสน หลงลืม
* อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
* กล้ามเนื้อกระตุกหรือเป็นตะคริว
* เดินเซ หรือเสียการทรงตัว
* ชัก
* หมดสติ
ในรายที่อาการรุนแรงอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สาเหตุของภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ มีหลายสาเหตุที่ทำให้ระดับโซเดียมลดลง ได้แก่
* ดื่มน้ำมากเกินไปในเวลาสั้นๆ ทำให้ความเข้มข้นของโซเดียมในเลือดเจือจาง
* การใช้ยาขับปัสสาวะหรือยาบางชนิดที่มีผลต่อระดับโซเดียม
* ภาวะหัวใจวาย ตับแข็ง หรือไตวาย ที่ร่างกายกักเก็บน้ำมากผิดปกติ
* ฮอร์โมนผิดปกติ เช่น การทำงานของต่อมหมวกไตผิดปกติ หรือภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
* กลุ่มอาการ SIADH ที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมน ADH มากเกินไป ทำให้ร่างกายกักน้ำ
* อาเจียนหรือท้องเสียรุนแรง ทำให้สูญเสียเกลือแร่จำนวนมาก
ปัจจัยเสี่ยง
* อายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
* การใช้ยาขับปัสสาวะ ยาต้านเศร้า หรือยาแก้ปวดบางชนิด
* โรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ไต หรือโรคตับ
* การออกกำลังกายหนักโดยดื่มน้ำมากเกินไปแต่ไม่ได้ทดแทนเกลือแร่
* การเจ็บป่วยรุนแรง หรืออยู่ในภาวะวิกฤต
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ภาวะโซเดียมต่ำสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น
* ชัก
* บวมของสมอง (สมองบวมน้ำ) ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิต
* หมดสติหรือโคม่า
* ความเสียหายของสมองในระยะยาวหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
การป้องกันภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ
* ดื่มน้ำอย่างพอดี โดยเฉพาะหลังออกกำลังกาย ควรดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่หากเสียเหงื่อมาก
* ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาขับปัสสาวะหรือยาใดๆ ที่อาจมีผลต่อระดับโซเดียม
* หากมีโรคประจำตัว ควรตรวจเลือดเป็นระยะเพื่อติดตามระดับโซเดียม
* หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไปโดยไม่จำเป็น
* รับประทานอาหารที่มีโซเดียมอย่างเหมาะสม
สัญญาณอันตรายควรไปพบแพทย์ทันที
* ปวดศีรษะมากผิดปกติ
* สับสน พูดไม่รู้เรื่อง
* อ่อนแรงหรือกล้ามเนื้อกระตุก
* ชัก หรือหมดสติ
* อาการผิดปกติอื่นๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาที่มีผลต่อเกลือแร่
การตรวจพบภาวะโซเดียมในเลือดต่ำตั้งแต่ระยะแรกและรักษาอย่างเหมาะสม สามารถลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้
อ้างอิง : mayoclinic / pobpad