“บิ๊กเต่า” ขยายผล “คดีวัดพระบาทน้ำพุ” จี้ใครถือทรัพย์สินวัดรีบนำมาคืน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า คดี “ทิดอลงกต” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริตว่า วันนี้กองบังคับการปราบปราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องและถูกยึดมาเป็นจำนวนมาก เพื่อขยายผลไปถึงคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่มีการแถลงข่าวแต่เพิ่งเริ่มต้น
เรื่องของการจับกุม การยึดเอกสาร การสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวโยงกับวัดพระบาทน้ำพุ
และคนที่เกี่ยวข้องกับทิดอลงกตในเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งผลประโยชน์นี้ไม่ได้อยู่ที่วัดอย่างเดียว แต่ไหลไปอยู่กับคนที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก ทั้งที่ดินหลายพันไร่ เงินสด อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ อีกจำนวนมาก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเรียกคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ปากคำ ส่วนตนได้แจ้งเขาไปเลยว่าทรัพย์สินของวัดทั้งหมดนั้นที่ใครถือครอบครอง โดยที่ยังไม่ได้เอามาคืนวัด ไม่ว่าจะเป็นรถ อสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เงินสดต่าง ๆ เรามีพยานหลักฐาน แต่ไม่อยากขยายวงการดำเนินการคดีไปให้มาก เราจะคำนึงถึงความมีเจตนาหรือไม่มีเจตนาด้วย หากใครคิดว่าไม่มีเจตนาในการยึดของ ที่ดิน ที่มีคนเอามาฝากไว้ ให้มาพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการสอบสวน แต่หากใครยังยึดถือครอบครองอยู่ เราต้องบังคับใช้กฎหมาย และต้องการเอาทรัพย์สินทั้งหมดกลับคืนมาสู่วัดพระบาทน้ำพุ เพราะนั่นคือเงินและแรงศรัทธาของประชาชน มันต้องเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมไม่ใช่ประโยชน์ต่อส่วนตน
ดังนั้น ขอความร่วมมือกับประชาชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิหรือเจ้าหน้าที่วัด ที่กระทำไปโดยเจตนาหรือไม่เจตนา รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่กระทำไปเป็นความผิด แต่เจ้านายได้ใช้ไปในทางที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ให้มาให้ข้อมูลก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าเรื่องนี้มีคดีฟอกเงิน การยักยอกทรัพย์ และละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ด้วย ถ้าไม่เช่นนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องจะตกเป็นผู้สนับสนุนในเรื่องนี้ ดังนั้นขอความร่วมมือเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ วงเงินที่เกิดความเสียหายหลายพันล้านเกือบหมื่นล้านบาท
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ตรวจสอบเส้นเงินสัมพันธ์แล้วพบมีความเกี่ยวข้องประมาณ 30 คน ซึ่งนี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น และพบเงินหมุนเวียนจำนวนกว่า 2-3 พันล้านบาท และยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินสดต่าง ๆ ที่อยู่นอกเหนือบัญชี นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่ ปปง.ยังไม่สามารถตรวจสอบได้อีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่าตัว
ทางตำรวจเพิ่งมีการแจ้งกับประชาชนพี่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ให้เข้ามาให้การกับตำรวจ หลายคนก็ต้องตั้งหลัก เพราะเรื่องนี้ยืดเยื้อมายาวนานเป็น 10-20 ปีมีการเรียกคืนที่ดินจากวัด และมีการเรียกทรัพย์สินจากวัดก็มีการดื้อแพ่งกัน ตอนนี้ตำรวจมีการบังคับใช้กฎหมายขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนจะขีดเส้นกี่วันขอดูเจตนาก่อน แต่หากยังไม่มาก็จะมีหมายเรียกออกไป และอยากสรุปเรื่องนี้ให้เป็นแนวทางการทำงานกับวัดอื่นด้วย จะทำเรื่องนี้ให้คล้ายกับกรณีวัดไร่ขิง มีเรื่องต้องทำการบ้านหลายเรื่อง และขอไม่ตอบในเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน เช่น พระมีภรรยาหรือไม่? หมอบีเกี่ยวข้องกับใครบ้าง? เอาเงินไปที่ไหนหรืออย่างไร ซึ่งพัวพันกันหลายเรื่อง
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเตือนใจ ที่เจ้าหน้าที่รัฐมีการทุจริตคอรัปชั่นกันมาอย่างยาวนาน และเป็นที่น่าเสียใจว่าพวกเราหลายคนก็เคยไปทำบุญกับวัดพระบาทน้ำพุ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก การแก้ไขปัญหาสงฆ์คงทำไม่เพียงพอหรือไม่ละเอียดพอ ต้องอาศัยประชาชนและองค์กรต่างๆ ช่วยกันขับเคลื่อน เราต้องการแยกพระดีกับพระไม่ดีออกจากกัน และต้องการสร้างระบบการตรวจสอบการป้องกันการทุจริตให้เกิดขึ้น และฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่จะมาสกรีนพระที่จะหนีไปบวชหนีคดีแล้ว ปาราชิกกลับมาบวชใหม่
ในทางพระพุทธศาสนาตอนนี้ ทั้งสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้รับคำสั่งจากทางรัฐบาล ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไม่ใช่การทำร้ายพระพุทธศาสนาการที่คนถูกจับเป็นเรื่องของพระที่มาอาศัยจีวรและมากระทำความผิด ส่วนคำสอนของพระพุทธศาสนาก็ยังเป็นคำสอนที่ให้ชาวพุทธ ให้คนทำความดี หากใครผิด ก็เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องส่วนรวม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทนายเผย “หมอบี” ถูกจับ เตรียมหลักทรัพย์ 6 หลักประกันตัว
“บิ๊กเต่า” แนะบิ๊กตร.ลาออกชำระบาป อย่าให้เสียชื่อโรงเรียนนายร้อย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “บิ๊กเต่า” ขยายผล “คดีวัดพระบาทน้ำพุ” จี้ใครถือทรัพย์สินวัดรีบนำมาคืน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com