“บิ๊กเล็ก” เผยวงถก GBC ไทย-กัมพูชาตกลงหยุดยิงเคร่งครัด ไม่ยั่วยุสร้างข่าวเท็จ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

ภาพไฮไลต์

“ณัฐพล” เผยผลถก GBC ไทย-กัมพูชา เห็นชอบ 5 ข้อ หยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่เสริมกำลังเพิ่ม หยุดยั่วยุทั้งการทหารและข่าวปลอม ใช้กลไกการพูดคุยแบบทวิภาคี เตรียมถกวง RBC ต่อในอีก 2 สัปดาห์ โยนแต่ละจังหวัดประเมินความพร้อมก่อนให้ประชาชนกลับภูมิลำเนา

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 ส.ค. 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ว่า วันนี้ตนได้เป็นประธานการประชุมสมัยพิเศษ ร่วมกับพลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้เข้าเยี่ยมคารวะดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาเข้าร่วมด้วย สำหรับการหารือเป็นไปอย่างฉันท์มิตร โดยนายอันวาร์ ยินดีที่เห็นทั้ง 2 ประเทศหยุดยิงและมีความคืบหน้าที่ดี ในกรอบการหารือ GBC ไทย-กัมพูชาครั้งนี้ ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญในการปฏิบัติตามการหยุดยิง

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ระบุว่าได้หารือกับผู้นำประเทศในอาเซียนต่างๆ แล้ว และเห็นตรงกันว่าการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของไทย โดยมาเลเซียจะเพียงช่วยประสานงานทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อช่วยหารือในการแก้ปัญหากันเองโดยมีอาเซียนสนับสนุน

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังยินดีที่ในการประชุม GBC ครั้งนี้ ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องในเรื่องคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ที่นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียและประกอบด้วยผู้ช่วยทูตทหารในประเทศอาเซียนเท่านั้น โดยสหรัฐฯ กับจีนจะไม่เข้าร่วม แต่ยินดีสนับสนุนตามที่ไทยและกัมพูชาเห็นสมควร ตนเองจึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนในการประสานงานและอำนวยความสะดวกให้การประชุมครั้งนี้ ที่ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ในการประชุมครั้งนี้ มีสหรัฐอเมริกาและจีนร่วมสังเกตการณ์เช่นเดียวกับการประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม โดยเป็นระดับเอกอัครราชทูต

ขณะที่การประชุม GBC ครั้งนี้ เป็นการติดตามผลการหารือระหว่างไทยกับกัมพูชาที่หารือที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ได้มีการตกลงกันในการหยุดยิง โดยตนเองได้ย้ำในที่ประชุม ว่าตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามสิ่งที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบร่วมกันเรื่องการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่พบว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดการหยุดยิงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งฝ่ายไทยใช้ความอดทน อดกลั้นที่สุดและตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น

แม้ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนมีความสงบแต่กัมพูชายังเสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่และยังมีการใช้อากาศยานไร้คนขับเข้ามาสอดแนมในพื้นที่ต่างๆ ของไทย ซึ่งเป็นการกระทำที่ยั่วยุและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนและข่าวเท็จต่างๆ ซึ่งไม่สร้างสรรค์ และไม่สร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจรจาและการฟื้นฟูความไว้วางใจ ซึ่งจากการประชุมร่วมกันในครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาระดับนโยบายได้แสดงความจริงใจต่อมาตรการในการหยุดยิงที่ได้ตกลงกันไว้ การละเมิดข้อตกลงอาจเป็นการกระทำโดยพละการของหน่วยงานในพื้นที่ ดังนั้นเจตนารมณ์ของตนเองในการเข้าประชุมในครั้งนี้ คือการหารือกับฝ่ายกัมพูชาอย่างตรงไปตรงมาด้วยความจริงใจและสุจริตของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหาแนวทางการหยุดยิงให้เดินหน้าต่อไปเพื่อนำสันติภาพและความสงบมาสู่ชายแดนไทย-กัมพูชาอีกครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญที่สุดคือเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ

พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา

2 ชาติ เห็นพ้อง 5 ข้อ หยุดยิงเคร่งครัด

พลเอกณัฐพล ยังได้กล่าวสรุปผลการประชุมในครั้งนี้ว่า สิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน คือ

1. ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยการหยุดยิงนั้นต้องครอบคลุมอาวุธทุกประเภท และทั้งสองฝ่ายคงกำลังไว้ที่ตั้งเดิม ตั้งแต่วันที่หยุดยิง โดยไม่มีการเสริมกำลังเข้าไปเพิ่มเติม

2. ให้มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวประกอบด้วยผู้ช่วยทูตทหารของประเทศอาเซียนประจำประเทศไทยและกัมพูชา ที่นำโดยผู้ช่วยทูตทหารของมาเลเซียเข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยจะไม่มีการข้ามแดนและมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ RBC และ GBC ในแต่ละประเทศเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการละเมิดการหยุดยิงโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

3. ทั้ง 2 ฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นการกระทำที่ยั่วยุ ทั้งในการทหาร หรือข่าวเท็จ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพูดคุยเพื่อการหาทางออกโดยสันติ

4. ทั้ง 2 ฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยระยะเวลาเฉพาะหน้าคือเร่งเก็บ และส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี

สำหรับการส่งกลับเชลยศึกตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศก็ให้ส่งกลับทันที ที่มีการยุติการใช้กำลังระหว่างกันตามสมบูรณ์ ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 3 โดยระหว่างนี้ตนเองได้ยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ให้การดูแลบุคคลเหล่านี้ตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน

5. ทั้ง 2 ฝ่ายจะรักษาการพูดคุยและการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ลุกลามบานปลาย โดยหลังจากนี้จะมีการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์เพื่อประสานงานตามที่ได้ตกลงกัน นอกจากนี้จะมีการประชุม GBC อีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้าเพื่อติดตามความคืบหน้าในการประชุมในครั้งนี้

เสนอกัมพูชาเก็บทุ่นระเบิด-ปราบอาชญากรรมข้ามชาติแต่ยังไม่ตอบรับ

นอกจากนี้ตนเองยังได้หยิบยกอีก 2 ประเด็นสำคัญแต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้ตอบรับโดยขอให้การประชุมครั้งนี้เน้นเรื่องการหยุดยิงก่อนและขอให้นำไปหารือในการประชุม GBC ในครั้งต่อไป ได้แก่

1. เรื่องความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียดจนนำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน ในเรื่องนี้ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะและพื้นที่อื่นๆ ตลอดแนวชายแดนเพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย

2. ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์หรือออนไลน์สแกม ที่ส่งผลต่อประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาค ตนเองขอย้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือและเห็นพ้องต้องกันในวันนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรมได้ ต้องอาศัยความจริงใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยตนเองขอยืนยันว่าฝ่ายไทยจะยึดมั่นในการให้ความร่วมมือและการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจต่อไปบนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน

ท้ายที่สุดแล้วไทยและกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกันและย้ายหนีจากกันไม่ได้ เราเป็นสมาชิกของครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากทั้ง 2 ประเทศแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ก็จะนำมาซึ่งสันติภาพมาสู่พื้นที่ชายแดนและประชาชนของทั้งสองประเทศก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกครั้ง

ให้จังหวัดประเมินความพร้อม ก่อนให้ประชาชนกลับภูมิลำเนา

นอกจากนี้ พล.อ.ณัฐพล ยังตอบคำถามสื่อมวลชนว่า วันนี้ไม่ได้มีการหารือเรื่อง JBC แต่คาดว่าการประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้

เมื่อถามว่าการหารือหยุดยิงในวงประชุม GBC จะสามารถการันตีความปลอดภัยในประชาชนตามแนวชายแดนได้อย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าตนเองและกัมพูชา ได้ลงนามในการหารือไปแล้วโดยการประชุมวันนี้จะเป็นกรอบในการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หน้าและจะมีการลงรายละเอียดข้อตกลงที่มีการลงนามในวันนี้ พร้อมย้ำว่าอีก 1 เดือนจะมีการประชุม GBC เพื่อติดตามในกรณีที่เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ เช่น มีการปะทะการเกิดขึ้น จะมีการประชุม GBC วิสามัญ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ส่วนประชาชนที่ต้องการจะกลับภูมิลำเนา ปัจจุบันทาง ศบ.ทก.ได้กำหนดให้แต่ละจังหวัด และผู้บัญชาการหน่วยทหารในพื้นที่รับผิดชอบโดยตรง เนื่องจากสถานการณ์แต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน หากจังหวัดใดมีความพร้อมก็สามารถกลับภูมิลำเนาได้ แต่สิ่งที่กองทัพห่วงใยก็คือปัจจุบันยังมีกระสุนและจรวดที่ทางฝ่ายกัมพูชายิงมาตกในชุมชนที่ยังหลงเหลืออยู่ และยังอยู่ระหว่างเร่งสำรวจ ฉะนั้นประชาชนที่กลับไปภูมิลำเนาแล้วหากพบเห็นวัตถุระเบิดดังกล่าวให้แจ้งหน่วยทหารและตำรวจในพื้นที่เพื่อกู้วัตถุระเบิดเหล่านั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “บิ๊กเล็ก” เผยวงถก GBC ไทย-กัมพูชาตกลงหยุดยิงเคร่งครัด ไม่ยั่วยุสร้างข่าวเท็จ