โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘โรม’เย้ย ‘เพื่อไทย’ ไร้กระดูกสันหลัง วอนเลิกชูตัวเองเป็น ‘นักสู้ประชาธิปไตย’

THE POINT

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE POINT
‘โรม’เย้ย ‘เพื่อไทย’ ไร้กระดูกสันหลัง วอนเลิกชูตัวเองเป็น ‘นักสู้ประชาธิปไตย’

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ตีตกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกล และของภาคประชาชนว่า รู้สึกผิดหวังที่สุดท้ายแล้ว การนิรโทษกรรมดูเป็นการเลือกปฏิบัติ หากพิจารณาดีๆร่างของภาคประชาชนมีความชัดเจนว่าหมายรวมใครบ้าง ส่วนของพรรคประชาชน เราเปิดประตูให้กว้างที่สุด การพิจารณาว่ากรณีไหนจะได้หรือไม่ได้ ต้องไปดูในรายละเอียดของคดี หรือการออกแนวทางกำหนดเงื่อนไขบางประการ ที่อาจทำให้สามารถยอมรับกันได้มากขึ้น ขึ้นอยู่ที่ปัจจัยทางการเมืองเมื่อในวันนั้นว่า สังคมรู้สึกอย่างไร แต่อย่างน้อยเราจะไม่กีดกันใคร

“เรารู้ว่าแต่ละคดียากง่ายไม่เหมือนกัน อาจต้องมีการพูดคุยสร้างความเข้าใจ แต่ด้วยความใจแคบของรัฐบาล และคิดแต่เพียงพวกพ้อง ไม่ได้สนใจการคลี่คลายปัญหา สุดท้ายจึงทำให้การนิรโทษกรรมทำได้อย่างจำกัด”นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าจุดยืนของพรรคประชาชนในชั้นกรรมาธิการ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ก็ต้องทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยร่างหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่ได้เขียนไว้ในหลักการว่า ไม่ให้รวมถึงการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ก็คงต้องไปพูดคุยกัน ถ้าพรรครัฐบาลยังแข็งเหมือนเดิมในชั้นกรรมาธิการ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการผลักดัน แต่เราก็ต้องทำให้เต็มที่

“อย่างน้อยการพิจารณาเรื่องนี้ต้องโปร่งใสประชาชนทุกคนรวมถึงครอบครัวของผู้เห็นต่างทางการเมืองที่ยังอยู่ในเรือนจำ และตัวแทนต่างๆ ที่นั่งอยู่ในกรรมาธิการ ทั้งสส. และไม่ใช่ สส.คิดอะไร พูดอะไร เพราะกฎหมายฉบับนี้มีส่วนได้เสียต่อโชคชะตา และชีวิตของคนหลายคน ซึ่งเขามีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ดังนั้นหากไม่ได้มีทิศทางที่ดีต่อครอบครัวหรือประชาชน เขาก็ควรมีสิทธิ์รู้และตัดสินใจ”นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยลงมติเห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงไม่ใช่แค่โหวตเห็นชอบให้ร่างของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะหากพิจารณาแล้ว ร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติและภูมิใจไทยก็มีเนื้อหาใกล้เคียงกันมาก จึงไม่ได้น่าแปลกใจอะไร แต่ที่แปลกใจกับพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมาพยายามพูดมาตลอดว่า เป็นตัวแทนของเสียงประชาธิปไตย ตัวแทนของคนที่เคยต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและความยุติธรรม ย่อมทราบดีผู้เห็นต่างทางการเมืองที่ถูกกลั่นแกล้งทางกฎหมายขนาดไหน แม้แต่มาตรา 112 เองก็มีการดำเนินคดีกับคนจำนวนมากที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่เหตุใดพรรคเพื่อไทยกลับเลือกหันหลังให้ทั้งร่างของภาคประชาชน และร่างที่พยายามจะรวมทุกความแตกต่างให้มากที่สุดอย่างของพรรคประชาชน

“ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยไม่ควรจะเรียกตัวเองว่าเป็นพรรคของฝ่ายประชาธิปไตยอีกแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่ควรเรียกตัวเองว่าเป็นพรรคตัวแทนของการต่อสู้ของผู้เห็นต่างทางการเมืองอีกแล้ว เพราะคุณคือส่วนหนึ่งของการปล่อยให้คนที่เห็นต่างทางการเมืองติดคุกต่อไป โดยที่คุณไม่มีแม้แต่เสี้ยวหนึ่งของหัวใจในการรับผิดชอบ หรือใช้อำนาจแก้ปัญหาเรื่องนี้ คุณคือพรรคการเมืองที่ปราศจากซึ่งกระดูกสันหลังแห่งความกล้าหาญในการพาสังคมไทยฝ่าออกจากวิกฤต”นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวก็ขอขอบคุณทั้ง 6 สส.พรรคเพื่อไทย ที่ลงมติเห็นชอบให้ร่างของภาคประชาชน และของพรรคก้าวไกล ที่เราพอจะยกมือไหว้ได้อย่างรู้สึกดี แต่ต้องยอมรับว่า ความคาดหวังของตนเองไม่ใช่แค่ 6 คน แต่ความคาดหวังคือพรรคการเมือง อย่างเช่นเวลาประชาชนคาดหวังต่อพรรคของเรา คงไม่ได้คาดหวังเพียงนายรังสิมันต์ ก็คงคล้ายกัน ขอขอบคุณทั้ง 6 คนแ ต่ก็ยังเสียดายที่พรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยก็มีอุดมการณ์ ความคิด ความเชื่อ ไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่นอีกแล้ว


#Thepoint #Newsthepoint

#รังสิมันต์โรม #นิรโทษกรรมคดีมาตรา112

#พรรคประชาชน #พรรคเพื่อไทย #ประชาธิปไตย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE POINT

‘อนุสรณ์’ ปราม ‘โรม’ มีวุฒิภาวะหน่อย! หยุดโวยถูกคว่ำนิรโทษฯ ไล่ด้อยค่าคนอื่น

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไทยกำลังซ้ำรอย ‘ยูเครน’ ถูกปลุกระดมจากบางพรรค ที่หวังปชช.แตกแยกกันเอง

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม