สุดทน! “ประธานรัฐสภาไทย” ประณาม “ปธ.สภากัมพูชา” แถลงบิดเบือนกลางเวที IPU กล่าวหา“ไทย” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-ใช้วัตถุเคมี ทำชาว “เขมร” บาดเจ็บ ส่งนส.ฟ้องวันนี้

“กัมพูชา” เอาอีกแล้ว ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงกลางสหภาพรัฐสภา กรุงเจนีวา กล่าวหา “ไทย” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-ใช้วัตถุเคมี ทำชาว “เขมร” บาดเจ็บ ด้าน “วันนอร์” ประณาม “ประธานสภากัมพูชา” บิดเบือนข้อมูล พร้อมร่อนเอกสารตอบโต้ให้สมาชิกทั่วโลกวันนี้ ลั่น เขาเอาสิ่งที่เขาทำกับเรา มากล่าวหาว่าเราทำกับเขา

วันที่ 30 ก.ค.2568 เวลา 11.45 น.ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานหน่วยประจำชาติไทยในสหภาพรัฐสภา (IPU) แถลงว่า “ผมรู้สึกเสียใจ และผิดหวังอย่างยิ่งที่ได้รับทราบว่าในระหว่างการประชุมระดับสูงของสหภาพรัฐสภา ณ นครเจนีวา ในสัปดาห์นี้ ประเทศไทยได้ถูกกล่าวหาจากประธานสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชาโดยปราศจากมูลความจริง เกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนเมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐสภาไทยขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง และขอประณามอย่างรุนแรงต่อถ้อยแถลงอันเป็นเท็จและไม่มีมูลความจริงดังกล่าว ซึ่งปราศจากความถูกต้อง ตรงข้ามกับข้อเท็จจริงตามที่กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลไทยได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา รัฐบาลไทยใต้พีองไปยังประธานอาเซียน ผู้นำหรัฐอเมริกา และผู้นั้นแล้ว

รัฐสภาไทยขอเรียกร้องให้ประเทศกัมพูชาหยุดการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิด และช้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงเพื่อประโยชน์ฝ่ายเดียว ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในกฏบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และการคุ้มครองชีวิต พลเรือนและข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด

ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณประธานอาเซียนและประเทศต่าง ๆ อันเป็นพันธมิตรของเราเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนข้อตกลงเจรจาหยุดยิง เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยยืนยันยันว่าได้ปฏิบัติ ตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด แต่จนบัดนี้ กัมพูชายังไม่ยุติการยิงอันเป็นการละเมิดข้อตกล เรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด รวมถึงเรียกร้องให้ปธานอาเซียนจัดตั้งคณะผู้ สังเกตการณ์จากประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและร่วมหาแนวทางให้การผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง

ท้ายที่สุดนี้ รัฐสภาไทยขอยืนยันเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามหลักนิติธธรรมความถูกต้องของข้อเท็จจริง สร้างสันติภาพตามข้อตกลงทุกประการ และพร้อมที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาคมระหว่างประเทศ อย่างยั่งยืน โดยรัฐภาจะนำแถลงการณ์นี้ส่งยังประธานสหภาพรัฐสภาเพื่อนำเสนอไปยังประเทศสมาชิกทั้งหลายให้เกิดความเข้าใจในสถานการณ์อย่างถูกต้องตามความเป็นจริงต่อไป”

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวยืนยันว่า สิ่งที่ตนแถลงนี้ เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการยืนยันจากทุกฝ่าย โดยในวันที่ 29 ก.ค. – 1ส.ค.นี้ ยังคงเป็นการประชุมของสหภาพรัฐสภา ซึ่งตนจะคำแถลงภายในวันนี้ทันที

เมื่อถามว่าข้อกล่าวหาของกัมพูชากล่าวหาประเทศไทยว่าอย่างไรบ้าง ประธานรัฐสภา กล่าวว่า กล่าวหาว่าทหารไทยได้ละเมิดข้อตกลง ปฏิบัติการยิงเข้าไปยังเป้าหมายประชาชน ทำให้ประชาชนเขาได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต รวมทั้งโรงพยาบาลและเด็กด้วย และได้ใช้วัตถุเคมีในการปราบปราม ซึ่งข้อกล่าวมาทั้งหมด ฝ่ายกัมพูชาได้กระทำกับเรา แต่มากล่าวหาว่าเรากระทำต่อเขา ซึ่งกระทรวงต่างประเทศถ้าไม่จริงเขาคงไม่กล้ายืนยัน และขอให้ประธานอาเซียนมาตรวจสอบ ดังนั้นเรา จำเป็นต้องโต้ตอบ เพราะเป็นการกล่าวหาที่ไม่มีข้อเท็จจริง โดยประธานสภาฯของกัมพูชา เพราะกล่าวในนามของสภาฯให้ทางเจนีวาเมื่อคืนนี้ และก่อนเที่ยงวันนี้ก็ต้องแจ้งเพื่อให้พี่น้องคนไทย อย่าไปเสพข้อมูลที่เป็นเท็จ และให้ประชาชนทั่วโลกเข้าใจข้อเท็จจริงจากรัฐสภาของไทยด้วย

เมื่อถามว่าท่าทีของที่ประชุมเจนีว่าเชื่อกัมพูชาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่มีการแถลง แต่ให้แต่ละประเทศได้แสดงความเห็นประมาณประเทศละไม่เกิน 5-6 นาทีตามลำดับตัวอักษรแถลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเวลาของไม่พอ ดังนั้นเราจะส่งคำแถลงโต้ตอบทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษส่งไปยังเลขาธิการ (IPU) และประเทศที่เข้าประชุมที่เจนาวา รวมทั้งประเทศที่ไม่ได้เข้าประชุมชี้แจงให้ทราบ ขณะเดียวกันเราก็ให้กรรมาธิการการต่างประเทศของเรา และกลุ่มมิตรภาพไทยกับประเทศต่างๆนั้นได้เอาข้อเท็จจริงที่ปรากฏในขณะนี้ส่งไปให้มวลมิตรสมาชิกในกลุ่มมิตรภาพไทยที่เรามีอยู่หลาย 10 ประเทศ ส่งไปในวันนี้เลย

Statement by the President of the National Assembly of Thailand on behalf of the President of the Thai National Group to the Inter-Parliamentary Union (IPU)

I am disappointed and deeply regret to learn that, during the high-level parliamentary meeting in Geneva this week, Thailand was groundlessly accused by the Speaker of the House of Representatives of Cambodia on the recent border clashes. The Thai National Assembly totally rejects and strongly condemns the misleading and groundless allegations, which are entirely untrue and contrary to the facts officially stated by the Ministry of Foreign Affairs and the Thai Government regarding the incident, including a violation of the ceasefire agreement by Cambodia, which the Thai Government has officially lodged complaints to the ASEAN Chair, the United States, and the People's Republic of China.

The Thai National Assembly urges Cambodia to refrain from disseminating false or misleading information that distorts the actual situation, creates misunderstanding, and worsens tensions for its own unilateral benefit. Thailand remains firmly committed to the UN Charter, upholds universal humanitarian principles, protects civilian lives and strictly adheres to the ceasefire agreement.

In this connection, I would like to express my deep gratitude to the Chairman of ASEAN and all countries as our alliances in supporting the ceasefire agreement reached on 28th July 2025. Thailand has firmly complied with the agreement. As of now, Cambodia has yet to cease its firing, in violation of the agreement. We therefore urge Cambodia to fully comply with the ceasefire in the same strict manner. We also call upon the ASEAN Chair to establish an international fact-finding observer mission to determine the truth and to jointly explore ways to ensure the effectiveness of the ceasefire agreement.

Lastly, the Thai National Assembly therefore reaffirms our unwavering commitment to ensuring that all parties uphold the rule of law, the accuracy of facts, and the pursuit of peace in full accordance with all agreements. We stand ready to engage in fact-finding efforts for the sustainable benefit of the international community. The Thai National Assembly will submit this statement to the President of the Inter-Parliamentary Union for dissemination among all member states, with the aim of fostering an accurate and truthful understanding of the situation.