รัฐบาลทรัมป์เล็งถือหุ้น Intel อัดเงินฟื้นโครงการล่าช้า เดินหมากเบลอเส้นรัฐ-เอกชน เสริมแกร่งศึกชิป

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเจรจากับ Intel Corp. เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าถือหุ้นในผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่กำลังเผชิญปัญหา ตามรายงานของ Bloomberg ชี้ว่า ข่าวลือที่ออกมาครั้งนี้เป็นสัญญาณล่าสุดของทำเนียบขาวที่ต้องการจะเดินหน้ายุทธศาสตร์เบลอเส้นแบ่งระหว่างรัฐและภาคอุตสาหกรรม

ดีลดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อพยุงแผนสร้างโรงงานของ Intel ในรัฐโอไฮโอ โครงการที่ Intel เคยกล่าวว่าจะปลุกปั้นให้กลายเป็นฐานการผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่กลับล่าช้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Intel ยังสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดชิปให้กับคู่แข่ง แม้ก่อนหน้านี้อดีตซีอีโอ แพต เกลซิงเกอร์ (Pat Gelsinger) จะพยายามทำตามแผนฟื้นฟูแล้วก็ตาม

ปัจจุบัน ซีอีโอของ Intel คือ ลิบ-บู ตัน (Lip-Bu Tan) ที่เข้ามารับตำแหน่งและสานต่อนโยบายฟื้นฟูบริษัท แต่จากข่าวลือดีลเข้าถือหุ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และจะแบ่งหุ้นในสัดส่วนเท่าไร เนื่องจากทั้งฝั่งรัฐบาลและ Intel เองยังไม่ได้ออกมาแถลงชัดเจน

แผนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหารุนแรงต่อ ลิบ-บู ตัน พร้อมเรียกร้องให้ปลดออกจากตำแหน่งซีอีโอ ให้เหตุผลว่า ลิบ-บู ตันมีความเชื่อมโยงกับจีน และอาจขัดกับผลประโยชน์ของบริษัท

Intel ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อการเจรจา โดยมีการออกมาแถลงว่า “บริษัทมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการสนับสนุนความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อยกระดับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการผลิตของสหรัฐ” พร้อมเสริมว่า “เราหวังที่จะเดินหน้าร่วมงานกับรัฐบาลทรัมป์เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายร่วมกัน แต่จะไม่คอมเมนต์ข่าวลือนี้”

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีข่าวลือนี้ออกมา หุ้น Intel พุ่งขึ้น 7.4% ที่ 23.86 ดอลลาร์สหรัฐในตลาดนิวยอร์ก ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทขึ้นไปราว 104,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังไต่ขึ้นต่ออีก 4% ในการซื้อขายนอกเวลา

ถ้ารัฐบาลเข้ามาถือหุ้น จะช่วย Intel ยังไง?

แม้จะเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมชิป แต่ Intel กลับสะดุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงเกิดแผนใหม่คือการพัฒนาโครงการโรงงานในโอไฮโอ แต่ทว่าความเปราะบางทางการเงินทำให้โครงการสั่นคลอน เลื่อนการก่อสร้างครั้งแล้วครั้งเล่า จนปัจจุบันคาดว่าจะเริ่มสร้างได้ในปี 2030 เลยทีเดียว

ภายใต้การนำของซีอีโอ ลิบ-บู ตัน ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม หลังจาก Intel ล้มเหลวในการครองส่วนแบ่งตลาดชิป AI โดยที่จะโฟกัสหนักไปที่การปรับฝั่งการเงินของ Intel ทั้งรัดเข็มขัด ลดงบ และปลดพนักงาน

การที่รัฐบาลเข้าถือหุ้นจึงจะช่วยสนับสนุนเงินทุนสำหรับโรงงานที่ Intel กำลังก่อสร้างในรัฐโอไฮโอ

ก่อนหน้านี้ ตามกฎหมาย Chips and Science Act ปี 2022 มีการวางไว้ว่า Intel ที่เป็นบริษัทชิปสัญชาติอเมริกันจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากกฎหมายนี้ แต่แล้วก็เกิดความไม่นอนขึ้น จนถึงขั้นที่รัฐบาลทรัมป์ ได้ไปขอยืมมือ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกเข้ามาเดินเครื่องโรงงานของ Intel ในรูปแบบบริษัทร่วมทุน แต่ซีอีโอ TSMC ย้ำว่าบริษัทจะโฟกัสธุรกิจของตนเองก่อน

ส่วนดีลขอเข้าถือหุ้นนี้ถือเป็นการเข้าแทรกแซงโดยตรงครั้งล่าสุดของทรัมป์ในอุตสาหกรรมหัวใจหลัก อย่างเซมิคอนดักเตอร์ ก่อนหน้านี้ ฝ่ายบริหารและรัฐบาลได้เข้าไปแทรกแซงในธุรกิจหลายอย่าง ได้แก่

ได้ทำข้อตกลงรับส่วนแบ่ง 15% จากยอดขายชิปบางรุ่นของ Nvidia และ AMD ที่ส่งออกไปจีน
เข้าถือหุ้น Golden Share ใน United States Steel Corp. เพื่อปูทางการขายบริษัทให้ Nippon Steel คู่แข่งจากญี่ปุ่น
กระทรวงกลาโหมเข้าถือหุ้นบุริมสิทธิมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในผู้ผลิตแร่หายากสัญชาติสหรัฐ MP Materials Corp. ซึ่งจะทำให้เพนตากอนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของบริษัท

การเคลื่อนไหวเหล่านี้เขย่าความเชื่อเดิมของนักลงทุน นักวิเคราะห์ ผู้บริหารอุตสาหกรรม และแม้แต่ข้าราชการอาวุโส จนเกิดคำถามว่า รัฐควรยืนอยู่ตรงไหนในการทำงานร่วมกับเอกชน

ที่มา: Bloomberg, CNBC

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รัฐบาลทรัมป์เล็งถือหุ้น Intel อัดเงินฟื้นโครงการล่าช้า เดินหมากเบลอเส้นรัฐ-เอกชน เสริมแกร่งศึกชิป