“มาดามรถถัง” ช่วยกองทัพป้องกันประเทศ ส่งยานเกราะล้อยาง-ช่างซ่อม
GM Live
อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 21.38 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เว็บไซต์ว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชาย เทรนด์ บทสัมภาษณ์ บทวิเคราะห์ธุรกิจ รถยนต์ Gadget สุขภาพ อัพเดทก่อนใครร่วมมือกัน สามัคคีกัน ช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วย
กลายเป็นข่าวดังอีกหนึ่งข่าวในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบจากการปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อนางนพรัตน์ กุลหิรัญ หรือ "มาดามรถถัง" เจ้าของ บริษัท ชัยเสรี พร้อมลูกชาย ได้ส่งยานเกราะล้อยาง-ช่างซ่อม ประจำชายแดนไทย-เขมร เพื่อช่วยชาติโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมกล่าวว่า "เหตุการณ์สู้รบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วพี่น้องคนไทยก็ต้องร่วมมือกัน สามัคคีกัน ช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วย เพื่อการป้องกันประเทศ"
ซึ่ง GM Live เชื่อว่ายังมีอีกหลายท่านที่ไม่รู้จักหรือไม่รู้ว่า "มาดามรถถัง" คือใคร ??
“มาดามรถถัง” หรือ นางนพรัตน์ กุลหิรัญ เป็นนักธุรกิจหญิงชาวไทย ผู้ก่อตั้งและบริหาร บริษัท ชัยเสรีเม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทย ผู้ผลิตและซ่อมบำรุงรถหุ้มเกราะและชิ้นส่วนยุทโธปกรณ์ทางทหาร ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ทหาร รถหุ้มเกราะ สายพานรถถัง ล้อยางนิรภัย (Runflat) จากยางพาราไทย และรถหุ้มเกราะรุ่น เฟิร์สวิน (First Win) ที่ใช้ในกองทัพไทยและส่งออกไปยังกว่า 46 กองทัพทั่วโลก รวมถึงองค์การสหประชาชาติ หรือUN ภายใต้แบรนด์ CHAISERI
หลังแต่งงานกับหิรัญ กุลหิรัญ เจ้าของกิจการซ่อมรถและดัดแปลงเครื่องยนต์ เธอก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจ โดยเริ่ม
เริ่มต้นธุรกิจในปี พ.ศ. 2506จากการซ่อมรถและผลิตอะไหล่ เช่น ลูกหมากสำหรับรถบรรทุกทหาร ในเวลาต่อมาช่วงหลังสงครามเวียดนาม สามีของเธอซื้ออาวุธและอะไหล่ที่เหลือจากกองทัพสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาขายและซ่อม ซึ่งเธอได้ใช้ทักษะการเจรจาและภาษาอังกฤษที่ดีติดต่อซัพพลายเออร์ต่างชาติ จนได้รับแบบพิมพ์และเครื่องจักรจากสหรัฐอเมริกามาสร้างโรงงาน ก่อนที่จะขยายสู่การผลิตยานเกราะ เช่น รถเกราะล้อยาง 4x4, 6x6, 8x8 และรถสะเทินน้ำสะเทินบกที่ออกแบบตามความต้องการของลูกค้า และเธอยังนำสินค้าไปแสดงในงานอาวุธนานาชาติ เช่น Eurosatory (ฝรั่งเศส) และ IDEX (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ซึ่งทำให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างมาก
ซึ่งก่อนที่เธอจะผันตัวเองมาทำธุรกิจเป็นเคยเป็นครูสอนวิชาภูมิศาสตร์กายภาพมาก่อน รวมทั้งเคยเป็นล่ามภาษาฝรั่งเศสและครูสอนภาษาไทยในค่ายผู้อพยพที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ให้กับ UNHCR อีกด้วย และด้วยบุคลิกที่เป็นกันเองทั้งยังมีความสามารถในการเจรจา จนนำพาบริษัทก้าวสู่เวทีโลก ทั้งด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นคุณภาพและการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า จนได้รับความไว้วางใจจากกองทัพนานาประเทศ ซึ่งจากความสำเร็จนี่เองที่นำมาสู่ฉายาว่า “มาดามรถถัง” ของเธอ
อีกทั้งเธอยังได้รับการยกย่องว่าเป็น "หญิงแกร่งบนเวทีโลก" จากการส่งออกรถหุ้มเกราะไทยไปยัง 46 ประเทศ และเป็นผู้ส่งออกอันดับ 16 ของโลกในปี 2565 รวมทั้งเธอยังได้รับการยอมรับจากวงการทหารและธุรกิจระดับนานาชาติ
และล่าสุด นักธุรกิจหญิงชาวไทยในวัย 72 ปี ได้ออกมารวมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องประเทศ ซึ่งนั่นทำให้ชื่อ "มาดามรถถัง" ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ที่มาเนื้อหา : อินเตอร์เน็ต
ภาพ : เพจ Chaiseri