ทำไม SE ไม่ปลื้ม สวส.เสียงกระซิบความอัดอั้นของเหล่าวิสาหกิจเพื่อสังคม
ตั้งแต่เหล่า SE ยุคแรกช่วยกันผลักดัน พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมตั้งแต่ปี 2550 ด้วยความยากลำบากจนได้ พ.ร.บ. มาในปี 2562 จนจัดตั้งสำนักงาน สวส. มาสนับสนุน แต่พอมีสำนักงาน“ความหวังที่เคยมี” ก็ค่อย ๆ เลือนหายไป
เก็บตกคำแนะนำจากวงสนทนาของเหล่าSE ได้หลายประเด็น 1. อยากได้ ผอ. ใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม ไม่เอาคนที่มาจากราชการแล้ว ทำงานช้า ตามกรอบ ไม่เอาเหล่านักวิชาการที่มักจะมีแต่ทฤษฎี ไม่เคยทำจริง ไม่เอาคนที่มาจากกิจการอื่น ไม่เข้าใจปัญหา SE ต้องมาเรียนรู้กันใหม่ ไม่ทันกาล 2. อยากได้ ผอ. ที่ทำงานรวดเร็วแบบนักธุรกิจ ยืดหยุ่นไม่ติดกรอบ เห็น SE เป็นลูกค้าหลักที่ต้องตอบสนองความต้องการ ไม่ใช่อ้างแต่ พ.ร.บ. ไม่สนใจเสียงเรียกร้อง SE 3. เมื่อได้ ผอ. ใหม่แล้ว ให้รีบทำแผน แบบมีส่วนร่วมที่แท้จริง ไม่ใช่แค่จัดเวทีตามระเบียบ แต่ต้องมี SE อยู่ในหัวใจ 4. เร่งเรื่องกองทุน พัฒนาแหล่งทุนชนิดต่าง ๆ ให้เหมาะสมทันเหตุการณ์ เพราะเงินทุนคือหัวใจหลักในการขยายธุรกิจ 5. สร้างMarket Place ที่ส่งเสริมให้การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐหันมาสนับสนุน SE โดยใช้โมเดลของอังกฤษที่สำเร็จมาแล้ว และทำแพลต
ฟอร์ม E Commerce รวบรวมสินค้า และบริการของ SE ให้ง่ายเหมือนแอปซื้อของออนไลน์ที่เราคุ้นเคย พร้อมทำแคมเปญ “Buy Thai” เสริมไปอีก 6. รีบUpskill / Reskill บุคลากรในวงการ SE แต่ถามเขาก่อนนะว่าใครต้องการอะไร ไม่ใช่คิดแบบราชการ “One Size Fit All” 7. ต้องรีบพัฒนาการเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคมยุคใหม่ โดยทำงานกับกระทรวงศึกษาฯ และ อว. 8. เชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ เอกชน เหล่า NGO นักวิชาการ และสื่อมวลชน ให้ทำงานบูรณาการเสียที โดยเฉพาะ ต้องขายความคิดให้นายกฯ หรือรองนายกฯที่รับผิดชอบ ออกมานำการขับเคลื่อนนี้ แบบที่ Tony Blair นายกฯอังกฤษยุคนั้นเคยทำเป็นตัวอย่างจน SEUK เติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำได้อย่างยั่งยืน
เมื่อการสรรหาด้วยระบบราชการที่มีวัฒนธรรมความโปร่งใสและธรรมาภิบาลเช่นเดิม น้อง ๆ ที่มีความสามารถ และเข้าใจการส่งเสริม SE คงไม่มีโอกาสเข้าไปทำงานเพื่อชาติ… คงทำได้เพียงส่งเสียงกระซิบจากคนตัวเล็ก ๆ แนะนำแนวทางการทำงานให้ท่าน ๆ พิจารณา เพื่อจะได้ปลุกความหวัง และศรัทธาชาวSE ให้กลับคืนมา.